#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2563
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ส่งผลทำให้บริเวณด้านรับลมมรสุมของภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมามีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จนถึงวันที่ 10 มิ.ย. 63 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 9 - 11 มิ.ย. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกด อากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวมะตะบันและมีแนวโน้มจะเคลื่อนไปยังอ่าวเบงกอลตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะทางตะวันตกของประเทศ และภาคตะวันออกซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 12 - 14 มิ.ย. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกและภาคใต้ และคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 9 - 11 มิ.ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
วันทะเลโลก ดร.ธรณ์ ชูเกาะยูง (พีพีโมเดล) จุดพลิกผันของทะเลไทย เพจเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat โดย ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทางทะเล ในวันทะเลโลก โพสต์ภาพเกาะยูง จ.กระบี่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพี พร้อมบอกเหตุที่เลือกภาพนี้ เพราะเกาะยูง เป็นจุดพลิกผันของทะเลไทยในรอบหลายๆ ปี คือความฝันที่เป็นความจริงเป็นครั้งแรก เมื่อกรมอุทยานฯ ประกาศปิดตามแผน #พีพีโมเดล คือก้าวแรกที่นำไปสู่ก้าวสองที่เกาะตาชัย และก้าวสามที่อ่าวมาหยา และอาจนำพาไปสู่ก้าวสี่ก้าวห้า ตามความฝันว่า ทุกอุทยานที่มีแนวปะการังหลายแห่ง ควรเก็บสักแห่งไว้ให้ลูกหลานเก็บบ้านสักหลังไว้ให้พี่ฉลามหูดำและน้องเต่าตนุ ใกล้เปิดอุทยานฯ มีทั้งเปิดเต็มร้อย เปิดบางส่วน และปิดต่อ ส่วนการคลายล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยการเปิดอุทยานแห่งชาติ ดร.ธรณ์ บอกว่าอุทยานใกล้เปิดแล้ว ตามแนวทางของท่านรมต. แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ เปิด 100% เปิดบางส่วน และปิดต่อ สำหรับทางทะเล ที่ปิดต่อทั้งอุทยานคือสิมิลันและสุรินทร์ ยาวไปถึงสิ้นตุลา (กำหนดเดิมตามฤดูมรสุม) ที่ปิดบางส่วน เช่น อาดัง-ราวี (ตะรุเตา) เกาะรอก (ลันตา) ก็คงยาวถึงตุลาเช่นกัน ที่น่าสนใจคือจะมีอุทยานไหนเปิด 100% บ้าง ในทะเลอาจเป็นลักษณะผสมผสาน คือหาดเกือบสาธารณะคงเปิดได้ แต่อาจปิดบางพื้นที่ซึ่งมีรายงานสัตว์หายาก/ระบบนิเวศบอบบางเพิ่มเติม นอกจากนี้ กติกาการเที่ยวคงมีมากกว่าเดิม ดังที่ท่านรมต.แถลงไว้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและการดูแลธรรมชาติให้ดีที่สุด เช่น ใช้แอปไทยชนะลงข้อมูลบันทึกเพื่อป้องกันโควิด ผมคิดว่าดีครับ เพราะจะช่วยติดตามจำนวนนักท่องเที่ยวไปได้อีกทาง ยังคอนเฟิร์มเรื่องการเก็บค่าเข้าอุทยานด้วย ข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์มาก เพราะการทำ CC หาตัวเลขจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว หากมีข้อมูลเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี โดยเฉพาะหลังโควิดหลายอย่างเปลี่ยน จะไปใช้สถิติเดิมๆ ก็คงไม่ได้ทั้งหมด ยังรวมถึงการดูแล new normal ความสะอาด สุขภาพ/ความปลอดภัย พฤติกรรมไม่รบกวนธรรมชาติ ฯลฯ ที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา เชื่อว่าในเดือนนี้อุทยานคงเริ่มทยอยเปิด เพื่อนธรณ์มาช่วยกันดูแล มีอะไรปรับปรุงได้ก็ช่วยกันแจ้ง เรามาร่วมมือกับกรมอุทยาน/กระทรวงทรัพยากรฯ เพื่อยุคใหม่ท่องเที่ยวไทย ในช่วงแรกอาจขัดหูขัดตาไปบ้าง เพราะกรมอุทยานก็ไม่เคยเจอแบบนี้เหมือนกัน แต่ถ้าเราค่อยๆ ทำค่อยๆ ปรับ และจูงมือไปด้วยกัน เชื่อว่า new normal เที่ยวทะเลแบบคนยิ้มสัตว์ปลื้มปริ่ม เป็นไปได้ครับ https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000059469
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
ทส.จัดใหญ่"วันทะเลโลก"หนุนนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของมหาสมุทร ทส.จัดใหญ่ "วันทะเลโลก" เผยทั่วโลกร่วมปกป้องพื้นที่มหาสมุทรให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี 2573 รมว.ทส.ย้ำไม่ใช่แค่ดูแลทรัพยากรที่เหลือแต่ต้องฟื้นฟูแหล่งเสื่อมโทรมด้วย เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่กรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม(สส.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เป็นประธานเปิดงานวันทะเลโลก โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) ผู้บริหารระดับสูง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง UNDP, UNEP, สมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้, บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน), ธุรกิจเคมิคอลส์ เอส ซี จี, Ocean CleanUp และมูลนิธิ TerraCycle ThaiFoundation รวมทั้งเข้าร่วมงาน นายวราวุธ กล่าวเปิดงานว่า สหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 8 มิ.ย. ของทุกปี เป็นวันทะเลโลก เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้คนทั้งโลกหันมาใส่ใจ ร่วมกันอนุรักษ์ท้องทะเล โดยในปี 2563 ได้กำหนดการจัดงานภายใต้ธีมการจัดงาน Innovation for a Sustainable Ocean หรือ ?นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของมหาสมุทร? "ทั่วโลกต่างเรียกร้องให้ผู้นำประเทศออกมาปกป้องมหาสมุทร และกำหนดแผน 30?30 เป็นการปกป้องมหาสมุทรโลกอย่างน้อยร้อยละ 30 ให้เป็นเขตปกป้องระบบนิเวศทางทะเลที่ปลอดภัยจากการตักตวงประโยชน์ของมนุษย์ ซึ่งจะเป็นแผนระหว่างปี 2564 ? 2573" โดยทั่วโลกจะต้องร่วมปกป้องมหาสมุทรไว้ให้ได้ตามแผน สาระสำคัญไม่ใช่แค่ปกป้องจากสิ่งที่เรามีอยู่ แต่ทรัพยากรทางทะเลที่เสื่อมโทรมเราต้องฟื้นฟูด้วย ซึ่งความเสื่อมโทรมเหล่านี้มาจากกิจกรรมการท่องเที่ยวของมนุษย์ การประมง การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ปะการังฟอกขาว เป็นต้น นายวราวุธ กล่าวอีกว่า เราพบปัญหามากมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในไทย จากการใช้ประโยชน์จากท้องทะเลเพื่อการท่องเที่ยว การดำรงชีวิต พัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสร้างรายได้ปีละหลายแสนล้าน ซึ่งถึงเวลาที่เราต้องดูแลธรรมชาติให้กลับคืนมาบ้าง ที่ผ่านมามีการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ทั้งการออกกฎหมาย การจำกัดนักท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ การเร่งฟื้นฟูป่าชายเลนที่ขณะนี้มีพื้นที่ป่าชายเลนสมบูรณ์ 1.53 ล้านไร่ จากพื้นที่ 2.86 ของพื้นที่ป่าชายเลนทั่วประเทศ ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่แต่เดิมมีปัญหาเป็นระยะทางยาวกว่า 700 กิโลเมตร ซึ่งทางกรมทช. ได้แก้ปัญหาจนขณะนี้เหลือเพียง 80 กิโลเมตร การดูแล 8 กลุ่มหาดทะเล .ช่วงโควิด-19 รัฐบาลมีมาตรการงดการเดินทางและปิดแหล่งท่องเที่ยว ส่งผลให้เราพบเห็นสัตว์ป่า และสัตว์ทะเลหายากมากขึ้น ทั้งฝูงพะยูนเกือบ 20 ตัวที่เกาะลิบง จ.ตรัง ฝูงวาฬเพชฌฆาตดำมากกว่า 30 ตัว โผล่ขึ้นมาเล่นน้ำใกล้เกาะรอกฝูงฉลามวาฬจำนวนมาก ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา และฝูงฉลามหูดำเข้ามาหากินที่หมู่เกาะพีพี และเกาะห้อง จ.กระบี่ และการวางไข่ของเต่ามะเฟือง เต่าตนุ กว่านับแสนฟองในช่วงระยะเวลาแค่ 2 เดือน รวมทั้งทรัพยากรปะการังที่เริ่มฟื้นฟูตัวเอง. นายวราวุธ กล่าว รมว.ทส. กล่าวย้ำว่า ผืนทะเลกว้างใหญ่มีสิ่งมีชีวิตตั้งแต่ขนาดเล็กจนตาเรามองไม่เห็น ไปจนถึงสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างวาฬสีน้ำเงิน ซึ่งปัจจุบันเหลือไม่ถึง 10,000 ตัว และอาจจะมีสิ่งมีชีวิต ที่เราไม่เคยพบเจออีกก็เป็นได้ การดูแลท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เพียงแค่เจ้าหน้าที่ภาครัฐคงยากที่จะดูแลได้หมด ต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคน รวมทั้งภาคเอกชน และทุกประเทศทั่วโลก ทะเลเชื่อมต่อกันเป็นผืนเดียวกัน ผลจากการกระทำของเรา สามารถส่งผลกระทบไปได้ไกลกว่าที่เราคิด เทคโนโลยีเป็นแค่เครื่องมือช่วยให้การจัดการปัญหาง่ายและรวดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่การแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนที่สุด คือ ปรับพฤติกรรมของเรา เพื่อส่งคืนทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์สู่ลูกหลานเราต่อไป นายโสภณ ทองดี อธิบดีทช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายในงานกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้จัดแสดงนิทรรศการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เช่น การใช้เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับในการสำรวจสัตว์ทะเลหายาก ระบบพยากรณ์ทางสมุทรศาสตร์กับการเฝ้าระวังปะการังฟอกขาว การประยุกต์ใช้ขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมจัดวางเป็นปะการังเทียม เป็นต้น ทั้งนี้กรมทช. พร้อมจะขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้นโยบายของรัฐบาล และสานต่อการปฏิบัติงานตามพันธกรณีที่ประเทศได้ร่วมลงนามความตกลง เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู ปกป้องทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้คงอยู่และยั่งยืน พร้อมส่งต่อให้เยาวชนรุ่นต่อไป https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_4276749
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ
ทส. ปล่อยทุ่นดักขยะ 7 พื้นที่ รับวันทะเลโลก รมว.ทส.วราวุธ แนะแก้ปัญหายั่นยืนด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนในการใช้ประโยชน์จากทะเล เสริมนวตกรรม งานวันทะเลโลก ซึ่งตรงกันวันที่ 8 มิถุนายนของทุกปี จัดขึ้นในธีม "นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของมหาสมุทร" (Innovation for a Sustainable Ocean) โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นประธานเปิดงานในวันนี้ ได้กล่าวเปิดงานว่า ปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์จากท้องทะเล ทั้งเพื่อการท่องเที่ยว การดำรงชีวิต พัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม สร้างรายได้ปีละหลายแสนล้าน ในทางกลับกัน คนเราก็ทำร้ายทะเลไม่ว่าจะเป็นการปล่อยน้ำเสียและการทิ้งขยะลงสู่สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการจับสัตว์น้ำจนเกินศักยภาพที่จะรองรับได้ วันทะเลโลก เปรียบเสมือนการกระตุ้นเตือนให้ทุกคนได้เห็นความสำคัญและคุณประโยชน์ของทะเลและมหาสมุทร ซึ่งการใช้ทรัพยากรธรรมชาติไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องใช้ตามความจำเป็น และศักยภาพที่ธรรมชาติรองรับได้ การเว้นระยะทิ้งช่วงให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัวและปรับสมดุลโดยธรรมชาติ เห็นได้ชัดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรค COVID-19, นายวราวุธกล่าว ซึ่งรัฐบาลเอง ได้มีมาตรการงดการเดินทางและปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลทุกแห่ง รวมถึงอุทยานแห่งชาติกว่า 140 แห่ง ทำให้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมีการได้ฟื้นฟูโดยธรรมชาติ จนพบสัตว์ทะเลหายากในหลายพื้นที่ เช่น ฝูงพะยูน เกือบ 20 ตัว โผล่ว่ายน้ำรวมฝูงกันออกหากินใกล้เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง หรือ ฝูงวาฬเพชฌฆาตดำ มากกว่า 30 ตัว โผล่ขึ้นมาเล่นน้ำใกล้เกาะรอก ฝูงฉลามวาฬ จำนวนมาก ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ฝูงฉลามหูดำ เข้ามาหากินที่หมู่เกาะพีพี และเกาะห้อง จ.กระบี่ หรือการวางไข่ของเต่ามะเฟือง เต่าตนุ และแม้กระทั่งปลาพะยูนเข้ามาใกล้ชายหาดสวนสน จ.ระยอง หลังไม่ได้พบนานนับสิบปี นายวราวุธกล่าวอีกว่าว่า การดูแลท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เพียงแค่เจ้าหน้าที่ภาครัฐคงยากที่จะดูแลได้หมด ต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคน รวมทั้งภาคเอกชน แลทุกประเทศทั่วโลก ทะเลเชื่อมต่อกันเป็นผืนเดียวกัน ผลจากการกระทำของเรา สามารถส่งผลกระทบไปได้ไกลกว่าที่เราคิด การใช้เทคโนโลยีอาจช่วยให้การจัดการปัญหาง่ายและรวดเร็วขึ้น แต่การแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนที่สุด คือ ปรับพฤติกรรมของมนุษย์ เพื่อส่งคืนทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์สู่ลูกหลาน นายวราวุธกล่าว นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า เพื่อเข้ากับธีมในปีนี้ ได้มีการปล่อยทุ่นดักขยะพร้อมกัน 7 พื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดผ่าน VDO Conference และมีการจัดแสดงนิทรรศการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เช่น การใช้เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับในการสำรวจสัตว์ทะเลหายาก ระบบพยากรณ์ทางสมุทรศาสตร์กับการเฝ้าระวังปะการังฟอกขาว การประยุกต์ใช้ขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมจัดวางเป็นปะการังเทียม เป็นต้น ที่จังหวัดเพชรบุรี นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ทส. เป็นประธานกิจกรรม ที่ ชายหาดชมจันทร์ ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยข้าราชการกระทรวงฯ และเครือข่ายประชาชนอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล กว่า 200 คน โดยมีการวาง Boom ดักขยะบริเวณปากแม่น้ำ เพื่อดักจับขยะก่อนไหลลงสู่ทะเล เช่นกัน นายยุทธพล กล่าวว่าแม้ 3 เดือนที่ผ่านมาCovid-19 จะทำให้สิ่งแวดล้อมทางทะเลหลายแห่งสะอาดขึ้น แต่ที่น่าเป็นห่วงคือปริมาณขยะพลาสติกและขยะหน้ากากอนามัยที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญ เพราะที่ผ่านมาขยะทะเลเกือบทั้งหมดล้วนมาจากกิจกรรมการใช้ชีวิตบนชายฝั่ง "ปีก่อน ประเทศไทยขยับจากประเทศที่ปล่อยขยะทะเลมากที่สุดในโลก อันดับ 6 ลงไปอยู่อันดับที่ 10 ฉะนั้นปีนี้เราต้องทำให้ได้ดีกว่าเดิม" นายยุทธพลกล่าว ในขณะเดียวกัน Greenpeace Thailand ได้ออกเคมเปญร่วมเรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกร่วมลงนามในสนธิสัญญาทะเลหลวง (Global Ocean Treaty) ซึ่งจะช่วยให้ 1 ใน 3 ของพื้นที่มหาสมุทรทั่วโลกเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์เพื่อเป็นแหล่งฟื้นฟูและปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ "องค์การสหประชาชาติ (UN) ขยายความของเป้าหมายนี้ไว้อย่างชัดเจนว่าพื้นที่ทั้งบนบกและทะเลบนโลกของเรา 30% จะต้องได้รับการปกป้องเพื่อให้แน่ใจว่าในอนาคตโลกใบนี้จะยังคงเอื้อต่อการเป็นที่อยู่อาศัยต่อไป หากสนธิสัญญาฉบับนี้เกิดขึ้นได้จริงจากการลงนามของผู้นำทั่วโลก การฟื้นฟูของมหาสมุทรทั่วโลกก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน" Greenpeace ระบุ วันทะเลโลก World Oceans Day จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองและกระตุ้นจิตสำนึกให้คนทั้งโลกหันมาใส่ใจร่วมกันอนุรักษ์ท้องทะเล กำหนดขึ้นอย่างเป็นทางการโดยสหประชาชาติ เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2552 โดยแนวความคิดนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 จากประเทศแคนาดา ในการประชุมความร่วมมือของกลุ่มประชาคมโลก (The Earth Summit) ที่เมืองริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล https://www.bangkokbiznews.com/news/..._campaign=life
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้ ?อย่าให้ถึงขั้น ต้องสตาฟปลาทู ให้ลูกหลานรู้จัก? ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้ "อย่าให้ถึงขั้น ต้องสตาฟปลาทู ให้ลูกหลานรู้จัก" นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอบ้านแหลม นายกเทศมนตรีตำบลหาดเจ้าสำราญ และประชาชนและ ร่วมเปิดงาน วันทะเลโลก ณ หาดชมจันทร์ ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเปิดเผยว่า ความงดงามของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่เพชรบุรีไม่เพียงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนเมืองเพชรบุรี กระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเป็นอย่างดี แล้ว ยังทำให้ชาวบ้านมีรายได้สร้างครอบครัวจากท้องทะเล ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์น้ำทะเลยังเป็นสิ่งบ่งชี้ ความอุดมสมบูรณ์ ของทะเลท้องถิ่น ปรากฏการณ์สัตว์น้ำทะเลตาย สื่อความหมายถึงมนุษย์ทำลายสิ่งแวดล้อม อย่าให้ถึงขั้น ต้องสตาฟปลาทู ให้ลูกหลานรู้จัก ถึงเวลาร่วมแรง ร่วมใจ อนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อมใต้ท้องทะเลท้องถิ่น เนื่องในวันทะเลโลก กระตุ้นเตือน ปลุกจิตสำนึก หันมาใส่ใจความสำเร็จจะเกิดได้เพราะมือของพวกเราทุกคน ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ทะเลเพชรบุรี เป็นทรัพยากรที่สร้างประโยชน์อย่างมหาศาล มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ และยังเป็นแหล่งยังชีพให้กับชาวบ้าน ชาวประมง แต่ปัญหาสำคัญของท้องทะเลไทย ขณะนี้คือเรื่องขยะในทะเล ต้องตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการร่วมกันรักษาให้ทะเลสะอาด ปราศจากขยะโดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนจะเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จากนั้นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อมคณะได้ร่วมกันปล่อยพันธ์ปลากะพง 100 ตัว ปูม้า 1,000 ตัว และกุ้งแชบ๊วยอีก200,000 ตัว ลงสู่ทะเลเพื่อขยายพันธ์สัตว์น้ำต่อไป http://thainews.prd.go.th/th/news/de...00608185502564
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#6
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS
รอลุ้น 12 มิ.ย.นี้ ทส.เคาะชื่ออุทยานเปิดท่องเที่ยว "วราวุธ" เตรียมประชุม 12 มิ.ย.นี้ พิจารณารายชื่ออุทยานแห่งชาติทั่วประเทศที่พร้อมเปิดท่องเที่ยวอีกครั้ง ขู่หากเปิดแล้วคนแน่น ขยะล้น สั่งปิดทันที เล็งจัดระเบียบนักท่องเที่ยวใช้ระบบจองตั๋ว ดึงท้องถิ่นสกัดนายทุนกินรวบท่องเที่ยวทางทะเล วันนี้ (8 มิ.ย.2563) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุมร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อเตรียมพิจารณามาตรการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทั้งหมด 155 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นเปิดให้ท่องเที่ยว 100% เปิดเพียงบางส่วน หรือยังปิดอุทยานฯ รองรับการผ่อนปรนระยะที่ 4 หลังจากมีการปิดอุทยานแห่งชาติทั้งหมดในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 เบื้องต้นจะเปิดรายชื่ออุทยานฯ ที่กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบ New Normal โดยจัดระบบการจองล่วงหน้า จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม รองรับไม่เกินร้อยละ 60-70 จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เคยรองรับได้ คาดว่าเปิดท่องเที่ยวได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม หากเปิดท่องเที่ยวแล้วพบว่า นักท่องเที่ยวทิ้งขยะจำนวนมาก สัตว์ตายจากขยะพลาสติก จะปิดอุทยานฯ อีกครั้ง เพราะการปิดอุทยานฯ ในช่วงการแพร่ระบาด COVID-19 พบว่าธรรมชาติฟื้นตัว สัตว์บก และสัตว์ทะเลอุดมสมบูรณ์ขึ้น "การเปิดครั้งนี้เป็น New Normal ของอุทยานฯ จะไม่ให้เข้า 100% อาจเปิด 60-70% ไม่ให้คนไปแออัดกัน ที่สำคัญถ้าเปิดแล้วพบขยะสกปรก สัตว์ตายเพราะพลาสติก จะปิดท่องเที่ยวอีกครั้ง เรื่องทรัพยากรเราต้องเด็ดขาด ไม่งั้นแก้ปัญหาไม่ได้" นอกจากนี้ จะให้ชุมชนท้องถิ่นเข้ามาร่วมจัดการท่องเที่ยวทางทะเล เน้นบริษัทที่ตั้งขึ้นโดยชุมชน หรือคนในพื้นที่ โดยอาจตรวจสอบชื่อผู้ถือหุ้นในบริษัท หรือที่ตั้งบริษัท หากบางแห่งไม่มีคนในชุมชนมาทำจริง ๆ ก็ต้องมีคนในพื้นที่เป็นไกด์ หรือคนนำเที่ยว เพื่อสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น อีกทั้งคนในพื้นที่จะมีความหวงแหนและคำนึงถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าคนนอกพื้นที่ หรือชาวต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจ พร้อมยกตัวอย่างกรณีพะยูนมาเรียม ที่ชาวบ้านเกาะลิบง จ.ตรัง เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลและปลุกกระแสอนุรักษ์ธรรมชาติ "คนที่จะหวงทรัพยากรธรรมชาติ คนที่จะดูแลแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลได้ดีที่สุด คือ คนที่อยู่ในท้องถิ่น" https://news.thaipbs.or.th/content/293401
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|