#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฏาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร บริเวณทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 14 ก.ค. 65 นี้ ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 13 ? 14 ก.ค. 65 ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร บริเวณทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 15 ? 17 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านบริเวณประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร บริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 18 ? 19 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงอีก ทำให้ประเทศไทยมีฝนน้อย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ข้อควรระวัง 13 ? 14 ก.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดอกจากฝั่งจนถึงวันที่ 14 ก.ค. 65 ********************************************************************************************************************************************************* ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2565)" ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 ในวันที่ 14 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้ 14 ก.ค. 2565 ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม และนครราชสีมา ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี และสระบุรี ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร บริเวณทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 14 ก.ค. 65 ไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
อีกแล้ว! น้ำทะเลลดต่ำสุดรอบ 2 ปีนี้ ปะการัง "เกาะทะลุ" โผล่เป็นวงกว้าง ประจวบคีรีขันธ์ - อีกแล้ว! น้ำทะเลลดต่ำสุดรอบ 2 ปีนี้ ปะการัง "เกาะทะลุ" โผล่เป็นวงกว้าง กรม ทช.ระบุไม่มีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต เพราะเพียงระยะเวลาสั้นๆ วันนี้ (13 ก.ค. ) นายเผ่าพิพัธ เจริญพักตร์ เลขานุการมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม กล่าวว่า วันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลลงต่ำสุดเป็นรอบที่ 2 ของปีนี้ ตามตารางน้ำขึ้นน้ำลงของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ที่แจ้งเอาไว้ โดยครั้งนี้น้ำลดต่ำมากกว่าช่วงกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยพบว่าบริเวณอ่าวมุก และอ่าวใหญ่ ชายหาดเกาะทะลุ ตำบลทรายทอง อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีปะการังทยอยโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำเป็นบริเวณกว้างตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทางผู้ประกอบการรีสอร์ต และผู้ประกอบการพานักท่องเที่ยวดำน้ำ จะไม่มีใครนำนักท่องเที่ยวเข้ามาในจุดที่ปะการังโผล่แต่อย่างใด จนกว่าน้ำจะกลับขึ้นเข้าสู่สภาวะปกติ คาดว่าน่าจะเป็นช่วงเย็นนี้ นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งปรากฏการณ์น้ำทะเลลงต่ำสุดอีกรอบในปีนี้ ซึ่งเท่าที่ติดตามจากรายงานทราบว่า เป็นรอบที่ 2 ตามตารางน้ำขึ้นน้ำลงของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวงดกิจกรรมดำน้ำในช่วงที่น้ำลงต่ำสุดเพื่อความปลอดภัยต่อทรัพยากรและนักท่องเที่ยว ซึ่งได้รับความร่วมมืออยู่แล้ว สำหรับกรณีดังกล่าวมักเกิดขึ้นในทุกปีในช่วงนี้ โดยในวันนี้เท่าที่ได้รับรายงาน พบว่า อากาศไม่ร้อน ปะการังที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำไม่มีผลกระทบเพราะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นของแต่ละวัน ซี่งขณะที่ได้รับรายงานน้ำยังคงลดลงอยู่ โดยพื้นที่ชายฝั่งทะเลอื่นๆ ก็จะเหมือนกัน https://mgronline.com/local/detail/9650000066793
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|