#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 14 - 16 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4 - 6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 -3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในวันที่ 17 - 19 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวต่อเนื่องกับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 -4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 17 ? 19 ธ.ค. 65
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
อังกฤษเตือนประชาชนรักษาระยะห่างจากวอลรัส 'ธอร์' หวั่นชะตากรรมซ้ำรอย 'เฟรยา' องค์กรพิทักษ์สัตว์ทะเลอังกฤษ เตือนประชาชน อย่าเข้าใกล้วอลรัส 'ธอร์' มากเกินไป หลังจากพบว่าสัตว์น้ำร่างยักษ์ตัวนี้ มาเยือนชายหาดของประเทศ เนื่องจากไม่ต้องการให้มันต้องมีจุดจบเหมือนวอลรัส 'เฟรยา' หลังจากที่มีผู้รายงานว่าพบเห็นวอลรัส 'ธอร์' ปรากฏตัวเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2565 แถบชายหาดย่านคาลชอต เมืองแฮมป์เชอร์ ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยรวมตัวกันเพื่อไปยลโฉมเจ้าสัตว์ร่างยักษ์ตัวนี้ อย่างไรก็ตาม องค์กรการกุศลกลุ่มนักดำน้ำอังกฤษเพื่อพิทักษ์สัตว์ทะเล (British Divers Marine Life Rescue : BDMLR) ได้ออกคำเตือนให้ประชาชนรักษาระยะห่าง ไม่ควรเข้าใกล้เจ้าธอร์มากเกินไปจนเป็นการรบกวนการพักผ่อนของมัน ซึ่งสัตว์เหล่านี้จำเป็นต้องเก็บพลังงานเอาไว้ใช้ในการเดินทางไกลในทะเล? แดน จาร์วิส ผู้อำนวยการขององค์กรกล่าวว่า ยิ่งมีคนไปวุ่นวายกับมันน้อยลงเท่าไหร่ มันก็มีโอกาสที่จะมีชีวิตรอดในธรรมชาติกลางมหาสมุทรได้มากเท่านั้น ก่อนหน้านี้ มีผู้สังเกตเห็น ธอร์ เป็นครั้งแรกที่เนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2565 จากนั้นก็มีร่องรอยว่า มันเดินทางไปตามชายฝั่งของฝรั่งเศสในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และมีชายฝั่งอังกฤษเป็นจุดหยุดพักล่าสุด ธอร์ ออกจากจุดล่าสุดที่มีผู้พบเห็นเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ก็มีโอกาสที่มันจะไปปรากฏตัวตามชายหาดอื่น ๆ ของอังกฤษอีก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าผู้ที่พบเห็นไม่ควรกระจายข่าวหรือแชร์โลเคชั่นบนโซเชียลมีเดีย จนทำให้มีคนจำนวนมากไปรบกวนมัน แต่ควรติดต่อแจ้งมายังองค์กร เมื่อปีที่แล้วมีวอลรัส 2 ตัว มาเยือนอังกฤษ ได้แก่ 'วิลลี่' และ 'เฟรยา' ซึ่งภายหลัง เฟรยา โดนทางการนอร์เวย์ สั่งให้ทำการุณยฆาต เนื่องจากมีคนเฝ้าดูมันเป็นจำนวนมากเพราะขาดการบริหารจัดการที่ดี จนกระตุ้นพฤติกรรมก้าวร้าวของมันที่ทางการนอร์เวย์มองว่า อาจเป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยว? องค์กร BDMLR จึงย้ำว่าการปล่อยให้สัตว์เหล่านี้อยู่ตามลำพังโดยปราศจากการรบกวน มีความสำคัญต่อชะตากรรมของมันอย่างมาก ซึ่งเท่าที่ผ่านมา องค์กรจะเป็นฝ่ายคอยจัดการไม่ให้มีคนเข้าไปรบกวนสัตว์เหล่านี้มากเกินไป เมื่อมันปรากฏตัวตามชายฝั่ง ธรรมชาติของวอลรัส เป็นสัตว์ที่เดินทางไกลและจำเป็นต้องจุดหยุดพักเพื่อฟื้นฟูกำลังระหว่างทาง ทุกครั้งที่มันโดนคนเข้าไปรบกวนการพักของมัน เช่น การเข้าไปดูใกล้ ๆ หรือส่งเสียงดัง จะส่งผลกระทบต่อการเอาชีวิตรอดในอนาคตของมันระหว่างการเดินทาง นอกจากนี้ วอลรัสยังถือเป็นสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองจากการรบกวนของมนุษย์ตามกฎหมายของอังกฤษ https://www.dailynews.co.th/news/1787047/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์
สุดสวยงาม พบทะเลแหวกรูปหัวใจ ที่ชุมชนท่องเที่ยวบ้านสามช่อง จ.พังงา 13 ธ.ค.2565 - ผู้สื่อข่าวนำคณะลงเรือหัวโทง ที่ท่าเรือบ้านสามช่องเหนือ ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา หลังจากได้รับแจ้งจากนายประสิทธิ์ นนทรีย์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านสามช่องเหนือ ว่า พบทะเลแหวก หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าโหนทราย จุดใหม่ที่มีลักษณะสวยงามคล้าวกับรูปหัวใจ น่าจะมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ของพื้นที่ได้ ซึ่งได้นั่งเรือไปประมาณ15นาที ก็พบกับทะเลแหวก อยู่ตรงข้ามกับหมู่บ้านสามช่องใต้ และอยู่กึ่งกลางระหว่าง เส้นทางแล่นเรือไปแหล่งท่องเที่ยวในอ่าวพังงาที่แยกเป็น3ช่องทางพอดี เมื่อจอดเรือลงไปที่ทะเลแหวกพบว่าเป็นผืนทรายหยาบๆและเปลือกหอย ที่จะโผล่ขึ้นมาให้เห็นในช่วงที่น้ำลดลงมากเท่านั้น บรรยากาศทิวทัศน์สวยงามเป็นอย่างมาก ทางทิศตะวันออกมีป่าชายเลนและป่าเกาะในอ่าวพังงาเป็นฉากหลัง ส่วนทางทิศตะวันตกมีหมู่บ้านสามช่องใต้และพระอาทิตย์ยามเย็นเป็นฉากหลัง โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพจากมุมสูงจะพบว่ามีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจ สวยงามและแปลกตา คาดว่าน่าจะส่งเสริมให้เป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่อีกหนึ่งจุดของจังหวัดพังงา โดยทางชุมชนท่องเที่ยวบ้านสามช่องเหนือเตรียมจัดทำตารางน้ำขึ้น-ลง เพื่อกำหนดเวลาให้บริการนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมได้ นายประสิทธิ์ นนทรีย์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านสามช่องเหนือ เปิดเผยว่า ชุมชนบ้านสามช่องเหนือ อยู่ที่หมู่ที่ 9 ตำบลกะไหล อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เป็นชุมชนที่อยู่บนเกาะ เดิมเรียกว่าทับเหนือ คำว่า 'ทับ' หมายความว่า ที่อยู่อาศัยชั่วคราวของชาวประมง ต่อมาเมื่อปี 2457 ก็ได้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็น บ้านสามช่องเหนือ ตามที่มาของลำคลองสามสายที่ไหลผ่านเหนือหมู่บ้าน คือ คลองบางหลาม คลองเชียงใหม่ และคลองตาจอ และไหลมารวมกันเรียกว่า คลองสามช่อง ส่วนบ้านสามช่องใต้นั้น เป็นหมู่บ้านที่แยกตัวออกมาจากบ้านสามช่องเหนือ เนื่องจากขณะนั้นมีผู้คนโยกย้ายการทำมาหากินไปอยู่ที่ตอนใต้ของหมู่บ้านกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่ที่อยู่ตอนใต้มีจำนวนผู้คนมากขึ้น เพื่อสะดวกในการปกครอง ทางราชการจึงแยกหมู่บ้านอออกเป็นสองหมู่บ้านเรียกว่า บ้านสามช่องเหนือ และบ้านสามช่องใต้ ซึ่งปัจจุบันชุมชนท่องเที่ยวบ้านสามช่องเหนือนั้น เป็นหนึ่งในชุมชนท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดพังงา https://www.thaipost.net/district-news/282801/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|