กลัวจะตกสมัยเลยต้องใช้ twitter กับ facebook กับเขาบ้าง

[admin]

เพิ่งจะหัดใช้ ยังไ่ม่ค่อยคล่องมือเท่าไหร่ โดยเฉพาะ twitter กว่าจะหาที่โพสต์ข้อความได้ งมอยู่ตั้งนานสองนาน

หรือเราจะแก่ซะแล้ว

https://twitter.com/baanphuoob

http://www.facebook.com/baanphuoob

[admin]

ทั้ง twitter และ facebook น่าจะช่วยเสริมการทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี ใครยังไม่มีใช้ก็สมัครได้เลย ของฟรี

ท่านี้เป็นท่าเย้ของเกาหลี เป็นนักศึกษาพระคัมภีร์มาจากประเทศเกาหลี ไม่รู้ชอบกินเกาเหลาหรือเปล่า


รูปนี้ทั้งไทยและเกาหลีช่วยกัน เย้


ส่วนที่โดดเป็นลิงเป็นค่างนี้เป็นนักศึกษาพระคัมภรีจากสมุทรปราการ มีทั้งบาเธอร์ และ ซิสเตอร์ ร่วมกระโดดเป็นลิง และ ชะนี


คนขวาสุดเสื้อสีน้ำตาลก็เป็นซิสเตอร์

[admin]

ท่าเย้ของเด็กไทย เลียนแบบเกาหลี


ท่ากระโดดก็ไม่น้อยหน้าใคร

[admin]

ลูกแขกที่มาพักน่ารักดี


คนนี้ชื่อน้องเพลง คุณแม่เป็นคนอุ้ม คุณพ่อเข้าห้องน้ำแล้วเอากระเป๋าของคุณแม่น้องเพลงแขวนไว้แล้วลืม ขับรถไป 30 กว่ากิโลแล้วนึกได้โทรมาให้ช่วยหาจำไม่ได้ว่าเอากระเป๋าไปลืมไว้ที่ไหน ทุกคนช่วยกันหาทั้งบ้าน รวมทั้งในห้องน้ำรวมก็ไม่เจอ จนกระทั่งคุณพ่อน้องเพลง ขับรถกลับมาถึงบ้านแล้วรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำผู้หญิงตัวเองเข้าไปปัสสาวะ แล้วแขวนกระเป๋าไป พอเปิดเข้าไปก็เจอกระเป๋าแขวนอยู่ตรงที่เดิม ซึ่งห้องนี้หลายคนเปิดเข้าไปดูแล้ว รวมทั้งที่รักของผม ก็เปิดเข้าไปดูแต่มองไม่เห็นกระเป๋าที่แขวนอยู่ ในกระเป๋ามีแหวนเพชร และ เงินของลูกค้าธนาคารที่คุณแม่น้องเพลงยังไม่ได้เอาไปเข้าบัญชีเนื่องจากเป็นวันหยุด คุณพ่อน้องเพลงบอกว่าเขาเชื่อเรื่องเจ้าที่เจ้าทาง เพราะตอนจะกลับออกไปลืมบอกเจ้าที่ไว้ เรื่องแปลกคือไม่มีใครเห็นกระัเป๋าที่แขวนไว้ทางขวามือ ซึงถ้าเปิดประตูเข้าไปจะแขวนอยู่ทางขวามมือระดับสายตา และ ประตูห้องน้ำก็เปิดออกด้านนอก ไม่ได้เปิดเข้าไปด้านใน คุณพ่อน้องเพลงเลยฝากเงินไว้ให้ 100 บาท ช่วยซื้อพวงมาลัยและจุดธูปบอกเจ้าที่ให้ด้วยก่อนลากลับ





twitter ส่วนตัวก็มีนะครับ

https://twitter.com/poaran

ยังไม่รู้จะเอาอะไรไปใส่เลย

[สายชล]

เพื่อไม่ให้ตกรถไฟ....สายชลก็เลยไปสมัครเป็นสมาชิก ทั้งในนามส่วนตัวและของ SOS ไว้ทั้งที่ Facebook และ Twitter แต่พอเข้าไปเล่นได้สักพัก ก็เกิดอาการเบื่อและไม่มีความสุขกับสังคมแบบนั้น ตอนนี้ก็เลยไม่ค่อยได้เข้าไปดู


เมื่อวาน...สองสายได้พบน้องรักที่ไปเปิด Website ของตัวเองและเพื่อนๆคอเดียวกัน จน Website มีสมาชิกมากมายเข้าไปช่วยกันสร้างสีสรรค์จนโด่งดัง แต่ปรากฎต่อมาว่า สมาชิกใน Website ค่อยๆหายไปอยู่ใน Facebook ที่ละคนสองคน จนหายไปเกือบหมด เพราะพากันไปติดเกมส์และสังคมของ Facebook ทำให้ Website ที่เคยรุ่งเรืองกลับเงียบเหงาและเฉาไปมาก เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีคนเข้าไปอาศัย Website แห่งนั้นเป็นที่โฆษณาหากินส่วนตัว โดยไม่ได้คิดที่จะสร้างประโยชน์ให้กับ Website เลยแม้แต่น้อย จนในที่สุด...เจ้าของ Website ที่ต้องเสียเงินไปเป็นเรือนหมื่นต่อปี จำใจปิด Website นั้นเป็นการถาวร เพื่อความสบายใจของตัวเอง


สายชลได้ยินเรื่องราวของน้องรักแล้วก็เศร้าใจ และเสียดาย Website ดีๆที่จะต้องมาหายไปจากโลกไซเบอร์ และก็ได้แต่หวังว่า บ้าน SOS ของเรา คงจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเดียวกับ Website แห่งนั้น จนถึงกับต้องปิดตัวเองไปด้วยชะตากรรมแบบเดียวกัน....

[-Oo-]

บ้าน SOS เป็นบ้านที่มีแต่ความอบอุ่น
เป็นบ้านที่เป็นสื่อกลางในการทำกิจกรรรมดีๆ เพื่อทะเล
พี่สองสายมั่นใจได้ค่ะว่าพวกเราเข้ามาแวะเวียนเสมอ
เพราะที่ตรงนี้ - บ้าน SOS เป็นที่ๆมีวัตถุประสงค์คือเป็นบ้านของคนรักทะเล
เป็นบ้านที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่วนรวมโดยชัดเจน และพวกเราก็ให้ใจกันไปเต็มที่

ในส่วนของโอเอง ถือว่า FB เป็นเหมือน social community ส่วนตัว
ที่เอาไว้ติดต่อและ UPdate กับเพื่อนๆ ในชีวิตประจำวัน
คล้ายๆ เป็น UPdate blog ส่วนตัวมากกว่า
ที่มัน Active เพราะว่ามันเป็นโปรแกรมที่อยู่บนมือถือ
สามารถโหลดรูปลง สามารถ Comment กันได้ real time
(แต่ทุกอย่างมันเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆอ่ะค่ะ จะเอามาลงในนี้คงไม่เหมาะแน่ๆ ฮี่ฮี่)

วัตถุประสงค์มันแตกต่างกัน กับบ้าน SOS มากๆ

ส่วนของ Twitter วัตถุประสงค์ของเขาคือ communications chanel เพื่อการ PR ของโปรเจค ของคนดัง มันเป็นอีกสื่อนึง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการโปรโมทเรื่องของตัวเองจริงๆ ซึ่งก็แตกต่างจาก FB

ที่อธิบายเพราะว่า โอเป็นคนนึงที่ Active ทั้งใน FB
Follow ความรู้สึกนึกคิดของคนดังใน Twitter
และก็เข้าบ้าน SOS ทุกวัน (ถ้าได้ online) ^^*

[สายชล]

ขอบคุณจ้ะน้องโอที่ยังมาเยี่ยมเยือนและสร้างสีสรรค์ให้กับบ้าน SOS ของเราอย่างสม่ำเสมอ..พี่หวังว่าน้องจะน่ารักเช่นนี้ตลอดไปนะจ๊ะ


จริงๆแล้ว SOS ก็จัดเป็น social network ที่เป็นที่รวมตัวของคนคอเดียวกัน คือคนที่รักทะเลและสิ่งแวดล้อมเหมือนๆกัน มารวมตัวอยู่ด้วยกัน ร่วมทำกิจกรรมดีๆด้วยกัน เราพูดเรื่องเดียวกัน และสามารถนำเรื่อง...ภาพ...และวิดิโอ มาลงเพื่อแชร์กัน หากมีโทรศัพท์ที่ต่อ Internet ได้ ก็สามารถลงเรื่องและภาพแบบ real time ได้เหมือนๆกับ FB...Twitter....Hi5...และ ฯลฯ

แต่ SOS จะผิดกันกับ social network อื่นๆ ก็ตรงที่บ้านหลังนี้เปิดให้สาธารณชนเข้าอ่านได้เกือบทุกห้อง (ยกเว้นห้องนั่งเล่น) เราจึงต้องมีคนมานั่งคอยกลั่นกรองเรื่องและภาพ ที่จะนำมาลง ไม่เปิดให้ลงอะไรก็ได้ตามใจชอบ และ อีกอย่างหนึ่งที่ SOS ไม่มี ก็คือ "เกมส์" ที่เป็นสิ่งดึงดูดใจให้คนมาเล่นจนติดงอมแงม


พี่เห็นด้วยว่า FB เป็น social network ชนิด social community ส่วนตัว ที่บางเรื่องที่สมาชิกนำมาคุยกัน หรือภาพที่นำมาโชว์กันนั้นเป็นเรื่อง "ส่วนตั๊ว ส่วนตัว" จริงๆ ชนิดที่บางเรื่องหรือบางภาพคนหัวเก่าอย่างพี่ รู้สึกว่าจะทนอ่านหรือทนเห็นไม่ได้


นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้พี่ไม่ชอบ FB และทำให้มีเรื่องให้ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดเอากับลูกๆ ที่เล่น FB เหมือนกัน จนทำให้ลูกต้องถอดถอนชื่อของแม่ออกจากเพื่อนร่วมกลุ่มไปเลย.....

[-Oo-]

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สายชล

ขอบคุณจ้ะน้องโอที่ยังมาเยี่ยมเยือนและสร้างสีสรรค์ให้กับบ้าน SOS ของเราอย่างสม่ำเสมอ..พี่หวังว่าน้องจะน่ารักเช่นนี้ตลอดไปนะจ๊ะ

หงึกหงัก...รับทราบคร๊าบผม ^^*