#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 18 เมษายน 2566
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด รวมถึงระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนอ่าวไทยทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ไว้ด้วย ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ประเทศไทยตอนบนมีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมาก เนื่องจากการระบายอากาศไม่ดี ส่วนภาคใต้ยังคงมีการสะสมน้อย เนื่องจากการระบายอากาศในบริเวณดังกล่าวยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนตลอดช่วง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งเกิดขึ้นได้ สำหรับลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพ และระวังโรคลมแดดเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด ตลอดช่วง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
น้ำมันจากเรือเฟอร์รี่ลอยเกลื่อนหาดนางกำ ผู้ว่าสุราษฎร์ฯ สั่งดำเนินคดีบริษัทเดินเรือแล้ว สุราษฎร์ธานี - น้ำมันจากเรือราชา 10 ลอยเกลื่อนขายหาดนางกำ ผู้ว่าสุราษฎร์ฯ เต้นสั่งดำเนินคดีบริษัทเดินเรือเฟอร์รี่ ที่ปล่อยให้น้ำมันลอยเต็มอ่าวส่งผลกระทบต่อชายหาดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและสิ่งแวดล้อมเป็นบริเวณกว้าง พร้อมเตรียมฟ้องศาลเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งต่อไป .จากกรณี เกิดเหตุเรือ โดยสารข้ามฟากระหว่างอำเภอดอนสักไปยังอำเภอเกาะสมุย ราชา 10 ของบริษัทราชาเฟอรี่ จมลงที่หน้าท่าเรือฝั่งดอนสัก แบบตะแคงข้าง ขณะเกิดเหตุคลื่นลมแรงคาดว่าถูกคลื่นซัดเรือชนกับของแข็งใต้น้ำ หน้าท่าเรือโดยขณะนั้นระดับน้ำหน้าท่าลึกประมาณ 5-6 เมตร ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีผู้โดยสารอยู่บนเรือจึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดนั้น ล่าสุดวันนี้ (17เม.ย.) พบคราบน้ำมันลอยอยู่บริเวณชายหาดและโขดหินหาดนางกำ จำนวนมาก ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ทำให้นักท่องเที่ยวรีบทยอยเดินทางกลับ ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ15.00น.นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับนายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ผอ.ปภ.เขต11,ปภ.จังหวัด,นายวิชัย สมรูป ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่4,เจ้าท่าสาขาสุราษฎร์ธานี นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ นายอำเภอดอนสัก พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.ดอนสัก ลงพื้นที่ตรวจสอบคราบน้ำมันสีดำเป็นแนวยาวตลอดแนวชายหาดนางกำยาวกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งคราบน้ำมันดังกล่าวมาจากเรือของ บ.เดินเรือเฟอร์รี่ที่เกิดอุบัติเหตุทำให้มีน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นน้ำมันเตารั่วไหลลงสู่ทะเลและถูกคลื่นลมซัดมาเกยชายฝั่งส่วผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นบริเวณกว้าง ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้นำรถตักเจซีบีและรถไถ ไถคราดตักเอาทรายติดคราบน้ำมันออกไปทิ้งในจุดปลอดภัย พร้อมใช้สารไบโอหรือสารกำจัดคราบน้ำมันชีวภาพผสมกับน้ำฉีดสะลายคราบน้ำมันบริเวณโขดหิน นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้กำชับให้ขจัดคราบน้ำมันให้หมดภายในวันนี้ หากทิ้งข้ามวันส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมออกไปเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งการดำเนินการวันนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเอกชนและส่วนท้องถิ่นที่ออกมาร่วมด้วยช่วยกัน ส่วนการดำเนินคดีได้สั่งการให้เจ้าท่าจังหวัดรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้ง ความดำเนินคดีเอาผิดต่อผู้บริหารบริษัทราชาเฟอร์รี่และดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป ในขณะที่ นายวิชัย สมรูป ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 4 กล่าวว่า ในส่วนของ ทช.ต้องเฝ้าระวังผลกระทบที่เกิดขึ้นจากคราบน้ำมันที่อาจส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศน์ และต่อสัตว์น้ำ ปะการัง หญ้าทะเล รวมทั้ง โลมา ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้จำนวนหลายสายพันธุ์ และหากพบว่ามีสัตว์ทะเลตาย ก็จะเอาสัตว์มาผ่าพิสูจน์ถ้าพบว่าตายจากคราบน้ำมันเป็นสาเหตุก็จะเข้าข่ายความผิด ตาม พรบ.ทช.2558 โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ https://mgronline.com/south/detail/9660000035653
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|