#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 30 เมษายน 2567
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วย ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ด้วย สำหรับลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และลมใต้พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ฝุ่นละอองในระยะนี้: ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน และการระบายอากาศในบริเวณดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ดี กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 29-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 30 เม.ย. ? 2 พ.ค. 67 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 3 ? 5 พ.ค. 67 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกพัดปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่ 30 เม.ย. ? 5 พ.ค. 67 ลมตะวันตกเฉียงเหนือและลมตะวันตกพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 30 เม.ย. ? 2 พ.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน รวมถึงระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 3 ? 5 พ.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง สำหรับชาวเรือควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก อสมท.
ใจฟู ฉลาม 281 ตัว ฉลามครีมดำ อันซีนอ่าวมาหยา 29 เม.ย.67 - ใจฟู ทีมสำรวจติดตามประชากรและพฤติกรรมของฉลามครีบดำอ่าวมาหยา พบมากสุดช่วงเช้าวันที่ 23 เมษายน ถึง 281 ตัว เมื่อวันที่ 18 - 24 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่ส่วนจัดการพื้นที่คุ้มครองทางทะเล กองอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงทีม Thai Sharks and Rays ได้ทำการสำรวจติดตามประชากรและพฤติกรรมของฉลามครีบดำ (Carcharhinus melanopterus) ในโครงการสำรวจจำนวนและพฤติกรรมตามธรรมชาติของฉลามครีบดำในอ่าวมาหยา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ (Shark Watch Project) โดยใช้วิธีถ่ายภาพทางอากาศ (อากาศยานไร้คนขับ) เพื่อนับประชากรฉลาม และติดตั้งกล้องถ่ายใต้น้ำ BRUV (Baited Remote Underwater Video) เพื่อสังเกตพฤติกรรมฉลาม จากการสำรวจเบื้องต้น พบประชากรของฉลามครีบดำมากที่สุด 281 ตัว ในช่วงเช้าของวันที่ 23 เมษายน 2567 ทั้งนี้ข้อมูลที่ได้จะนำไปวิเคราะห์ในเชิงลึกขั้นต่อไป ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่ 3 จ.ตรัง https://www.mcot.net/view/lRcoez0N
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก Nation
ชวนมาเที่ยวทะเลกระบี่ พิชิตบันได 419 ขั้น เช็กอินจุดชมวิวเกาะห้อง 360 องศา ททท.ชวนเที่ยวทะเลกระบี่ ท้าพิสูจน์ความแข็งแรงด้วยการเดินขึ้นบันได 419 ขั้น เพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิว 360 องศา บนเกาะห้อง ซึ่งสามารถมองเห็นความสวยงามของท้องทะเลเบื้องล่าง และหมู่เกาะต่างๆ ใน จ.กระบี่ และพังงา ใครที่ชอบความท้าทายไม่ควรพลาด ช่วงปลายเดือนเมษายน อากาศร้อนๆ แบบนี้ Nation STORY ขอพาไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เยี่ยมชมความสวยงามของ "เกาะห้อง" หรือเกาะเหลาบิเละ ที่เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะห้อง อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี แล้วที่นี่มีจุดไฮไลต์ไม่ควรพลาดอะไรบ้าง ว่าแล้วก็ก้าวขาลงเรือไปเที่ยวชมกันเลย เกาะห้อง มีลักษณะเป็นเกาะเขาหินปูน ด้านหน้าเกาะมีหาดทรายโค้งคล้ายรูปนกบิน ทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีเขียวมรกตสวยและใสมาก สุดปลายหาดด้านหนึ่งจะมีทางเดินเป็นบันไดเหล็ก 419 ขั้น ขึ้นไปบนยอดเขา ซึ่งเป็นจุดชมวิว 360 องศา สามารถมองเห็นชายหาดเกาะห้องและท้องทะเลสีฟ้าที่อยู่เบื้องล่าง รวมทั้งหมู่เกาะต่างๆ ในน่านน้ำทะเลของจังหวัดกระบี่และพังงา ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปด้วยความคึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาเที่ยวชมความงามเป็นจำนวนมาก หนึ่งในจุดเช็กอินไฮไลต์ของ อช.ธารโบกขรณี จุดชมวิว 360 องศาเกาะห้อง นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่เป็นไฮไลต์ของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เป็นโครงการก่อสร้างของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2562 ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 9,737,400 บาท มีเส้นทางตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงจุดสูงสุดรวม 239 เมตร มีบันไดรวม 419 ขั้น ขึ้นไปยังความสูง 109 เมตร นับเป็นหอชมวิว 360 องศาที่สูงที่สุด และมีแห่งเดียวในฝั่งอันดามัน สามารถมองเห็นเกาะต่างๆ นับ 10 เกาะ ใน จ.กระบี่ และพังงา เป็นจุดที่ทดสอบความแข็งแรงของนักท่องเที่ยวขาลุย และเป็นการพิสูจน์ว่ากำลังใจและกำลังขาของเรายังเที่ยวแบบลุยได้หรือไม่ เมื่อผู้มาเยือนสามารถพิชิตบันไดทั้ง 419 ขั้น ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้ว ได้พบกับความสวยงามของทะเลและเกาะแก่งในวิวแบบ 360 องศา ก็จะรู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว ททท.ชวนมาเที่ยวทะเลกระบี่ นางรุ่งทิพ ว่องปฏิการ คิมูระ รองผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ กล่าวว่า กระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าประทับใจเที่ยวได้ทั้งปี กระบี่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามหลากหลายทั้งทางบกและทางทะเล พร้อมกับแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมรวมถึงอาหารต่างๆ จึงขอเชิญชวนให้มาเที่ยวที่จังหวัดกระบี่กันให้มากๆ ทำความรู้จักอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี อ้างอิงจากเว็บไซต์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ไว้ว่า อุทยานฯ แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่อำเภออ่าวลึก เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชีงนิเวศที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง มีพื้นที่ 121 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยภูเขาหินปูน ป่าดิบ ป่าชายเลน และเกาะต่างๆ อุทยานฯ มีพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ป่าพรุ ป่าชายหาด ป่าชายเลน รวมถึง สังคมพืชน้ำใต้ท้องทะเล อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีพื้นที่ 104 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภออ่าวลึกและอำเภอเมืองกระบี่ ธารโบกขรณีเดิมชื่อ "ธารอโศก" เป็นป่าดงดิบอยู่ระหว่างหุบเขา มีธารน้ำไหลลอดภูเขาแล้วไหลลงสู่ทะเลที่ตำบลแหลมสัก สภาพพื้นที่ เป็นเขาสูงชันทอดตัวในแนวเหนือ-ใต้ ประกอบด้วยภูเขาหินปูน มีพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย เช่น ป่าดงดิบ ป่าชายเลน ป่าพรุ พื้นที่บางส่วนเป็นหมู่เกาะในทะเลอันดามัน ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวคือธันวาคม-ต้นเดือนพฤษภาคม สำหรับการเดินทาง หากมาจากอำเภอเมืองกระบี่ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) จากนั้น เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4039 (ถนนอ่าวลึก-แหลมสัก) อีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยาน ฯ สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ เช่น น้ำตกธารโบกขรณี ถ้ำลอด ถ้ำผีหัวโต ถ้ำชาวเล เขากาโรส เกาะห้อง ฯลฯ สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ธารโบกขรณี : เป็นธารน้ำธรรมชาติไหลลงมายังแอ่งน้ำน้อยใหญ่ซึ่งอยู่ต่างระดับกัน รายรอบด้วยป่าไม้ร่มรื่น ด้านเหนือของธารแห่งนี้มีมณฑปพระพุทธบาทจำลองที่แกะสลักจากไม้ ประดิษฐานอยู่ใกล้กับศาลาบูชาเจ้าพ่อโต๊ะยวน-โต๊ะช่อง ถ้ำลอดเหนือและถ้ำลอดใต้ : ถ้ำลอดใต้เป็นอุโมงค์ใต้เขาหินปูน มีธารน้ำไหลผ่านอุโมงค์แคบ มีหินงอกและหินย้อยสวยงาม ส่วนถ้ำลอดเหนือเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ มีแนวอุโมงค์คดเคี้ยวและยาวกว่าถ้ำลอดใต้ เรือสามารถแล่นผ่านได้ในช่วงน้ำลงเท่านั้น ถ้ำผีหัวโต : ลักษณะเป็นเขาหินปูนล้อมรอบด้วยบึงและป่าโกงกาง แต่เดิมภายในถ้ำแห่งนี้เคยพบหัวกะโหลกมนุษย์ ซึ่งมีขนาดโตกว่าปกติ จึงมีชื่อว่า "ถ้ำผีหัวโต" นอกจากนี้ บนผนังถ้ำยังปรากฏภาพเขียนสีก่อนสมัยประวัติศาสตร์จำนวนมาก อาทิ รูปคน รูปสัตว์ รวมถึง รูปอวัยวะต่างๆ และบนพื้นถ้ำมีเปลือกหอยทับถมกันอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้ำเพชร : บริเวณด้านหน้ามีพระพุทธรูปปูนประดิษฐานอยู่ และมีหินสะท้อนแสงซึ่งส่องประกายสวยงามราวกับเพชรตามผนังถ้ำ หากจะไปเที่ยวชมถ้ำนี้ ควรนำไฟฉายติดตัวไปด้วย หมู่เกาะห้อง : เป็นหมู่เกาะที่ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่หลายเกาะ เช่น เกาะเหลา หรือเกาะซากา เกาะเหลาเหรียม เกาะปากกะ เกาะเหลาลาดิง เป็นต้น โดยมีเกาะห้อง หรือเกาะเหลาปิเละ เป็นเกาะทางตอนใต้ที่ใหญ่ที่สุด ลักษณะทั่วไปเป็นเขาหินปูน มีแนวปะการังทั้งในระดับน้ำตื้นและน้ำลึก เหมาะแก่การตกปลา ดำน้ำดูปะการัง อ่านมาถึงตรงนี้ หากใครได้มีโอกาส ไม่ว่าจะพิชิตบันได 419 ขั้น ไปบนจุดชมวิวเกาะห้อง หรือทำกิจกรรมเที่ยวชมธรรมชาตอื่นๆ ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ก็ขอให้ช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะลงทะเลและในเขตอุทยานฯ รวมถึง ไม่ไปรบกวนสัตว์ในพื้นที่ เพื่อให้ธรรมชาติยังคงอุดมสมบูรณ์ไปตราบนานเท่านาน ขอบคุณข้อมูลจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคใต้ ททท.สำนักงานกระบี่ https://thai.tourismthailand.org สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่ Than Bok Khorani National Park https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/989199 วิกิพีเดีย https://www.nationtv.tv/lifestyle/travel/378943212
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|