#1
|
|||
|
|||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2563
กรมอุตุนิยมวิทยา
ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส สำหรับยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-11 องศาเซลเซียส ในตอนกลางวันท้องฟ้าโปร่งกับมีแสงแดดจัด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ฝุ่นละออง ในระยะนี้ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีลมตะวันออกกำลังปานกลางพัดปกคลุมทำให้มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันน้อยลง ส่วนภาคเหนืออากาศยกตัวได้ไม่ดีในตอนเช้า และมีลมอ่อน ทำให้มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันเพิ่มขึ้น พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. รายละเอียดเพิ่มเติม ออกประกาศ 31 มกราคม 2563 05:00 น. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. - 1 ก.พ. 63 บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียสกับมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-14 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ ส่วนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 2 - 5 ก.พ. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไปทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรตลอดช่วง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. - 1 ก.พ. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน รักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 2 - 5 ก.พ. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย สำหรับชาวเรือตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป ขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังตลอดช่วง |
#2
|
|||
|
|||
ข่าวสด
ฮูประกาศแล้ว ?ไข้อู่ฮั่น? สถานการณ์ฉุกเฉินโลก สังเวยพุ่ง 213 ราย ป่วยเกือบ 9,700 คน ฮูประกาศแล้ว ?ไข้อู่ฮั่น? ? วันที่ 31 ม.ค. ไชน่าเดลี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ ไข้อู่ฮั่น ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 2,000 คน ส่งผลให้ยอดรวมผู้ป่วยที่ติดไวรัสอู่ฮั่นเฉพาะในประเทศจีนเพิ่มขึ้นเป็น 9,692 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 213 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 43 ราย ขณะที่องค์การอนามัยโลก (ฮู) ประกาศว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังการประชุมด่วนที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 ม.ค.ตามเวลาท้องถิ่น นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่าเหตุผลของการประกาศดังกล่าวไม่ใช่เพราะการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในจีน หากแต่เป็นการกระจายของเชื้อใน 18 ประเทศ กับจำนวนนผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้ว 98 คน ก่อให้เกิดความกังวลว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจแพร่ระบาดสู่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงทำให้ระบบสาธารณสุขอ่อนแอลง โครงกำแพงสหรัฐ-จังโก้พัง ลมกระโชกพัดล้ม คอนกรีตยึดเหล็กไม่แห้ง โครงกำแพงสหรัฐ-จังโก้พัง ? วันที่ 30 ม.ค. บีบีซี รายงานว่า โครงกำแพงพรมแดนสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโกในส่วนที่เพิ่งก่อสร้างถูกลมกระโชกพัดจนล้มเสียหาย ที่เมืองคาเล็กซิโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังคอนกรีตที่ใช้ยึดแผงเหล็กจากรั้วความสูง 9 เมตร ยังไม่แห้งสนิท เหตุเกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ หาเสียงเลือกตั้งในรัฐนิวเจอร์ซีว่า กำแพงกำลังสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ สำนักพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐรายงานว่า ขณะเกิดเหตุ มีลมกระโชกความเร็วราว 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แผงเหล็กจากรั้วที่ติดตั้งใหม่ล้มทับต้นไม้ตามแนวถนนในเมืองเม็กซิกาลี ซึ่งติดกับพรมแดนสหรัฐ ขณะที่คนงานใช้รถเครนพยายามซ่อมแซมรั้วที่เอียง นายคาร์ลอส ปิโทเนส เจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดนสหรัฐ กล่าวว่า โชคดีที่ทางการเม็กซิโกตอบสนองอย่างรวดเร็วและสามารถเบี่ยงการจราจรจากถนนใกล้เคียงได้ ไม่มีทรัพย์สินเสียหายและผู้บาดเจ็บ โครงการก่อสร้างกำแพงพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ความยาว 3,145 กิโลเมตร เป็นนโยบายของรัฐบาลนายทรัมป์ เพื่อสกัดกั้นผู้อพยพผิดกฎหมายเข้ามาในสหรัฐ เมื่อเดือนก.พ.62 นายทรัมป์ประกาศใช้งบประมาณกลาโหม 3,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (112,248 ล้านบาท) ก่อสร้างกำแพง และเดือนม.ค.ปีนี้ ศาลอุทธรณ์สหรัฐอนุญาตในการโยกงบประมาณกลาโหมมาก่อสร้างกำแพง หลังผ่านสภาคองเกรสและเผชิญเสียงค้านจากพรรคเดโมแครตที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร จนรัฐบาลเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ 35 วัน สำหรับกำแพงส่วนใหม่ที่ก่อสร้างจะมีความยาว 160 กิโลเมตร แต่ส่วนใหญ่จะแทนที่โครงสร้างกำแพงที่มีอยู่เดิม โคโรนา : วิจัยล่าสุดชี้ ?สัตว์ตัวกลาง? นำไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากค้างคาวมาสู่มนุษย์ Gloucestershire Wildlife Trust ค้างคาวเกือกม้าเล็ก (Lesser Horseshoe Bat) โคโรนา : วิจัยล่าสุดชี้ ?สัตว์ตัวกลาง? นำไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากค้างคาวมาสู่มนุษย์ ? BBCไทย ผลการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Lancet ฉบับวันที่ 29 ม.ค. 2563 เผยถึงข้อมูลเรื่องต้นตอของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ 2019-nCoV ที่ได้จากการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมว่า แม้แหล่งกำเนิดของเชื้อดังกล่าวจะมาจากค้างคาว แต่จะต้องมี ?สัตว์ตัวกลาง? ที่เป็นพาหะนำเชื้อโรคมาติดต่อสู่คนอีกทอดหนึ่ง ทีมนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยาและศูนย์ควบคุมโรคติดต่อหลายแห่งของจีน ได้ถอดรหัสข้อมูลพันธุกรรมทั้งหมดหรือ ?จีโนม? ของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พบในผู้ป่วยชาวจีน 9 คน โดยพบว่ารหัสพันธุกรรมของไวรัสดังกล่าวมีอยู่ถึง 10 แบบ ซึ่งแต่ละแบบมีความคล้ายคลึงกันมากถึง 99.98% โคโรนา : ต้นตอไวรัสอาจมาจากงูเห่าจีน ? งูสามเหลี่ยมจีน ออสเตรเลียเพาะไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้เจ้าแรกนอกประเทศจีน เพื่อใช้วิจัยทางการแพทย์ งานวิจัยชี้ กรุงเทพฯ เสี่ยงรับเชื้อไวรัสโคโรนาอันดับหนึ่งของโลก 5 คำถามเรื่องหน้ากากอนามัย บีบีซีไทยมีคำตอบ การที่เชื้อไวรัสไม่สู้จะมีความหลากหลายทางพันธุกรรมเช่นนี้ แสดงว่าเพิ่งเกิดการติดต่อมาสู่คนได้ไม่นานนัก เพราะโดยปกติไวรัสจะมีการปรับตัวและกลายพันธุ์ได้ในอัตราที่รวดเร็ว ทำให้ไวรัสชนิดที่มีการแพร่เชื้อในมนุษย์มายาวนานพอสมควรมีลักษณะทางพันธุกรรมที่แตกต่างหลากหลายมากกว่า ศาสตราจารย์ ชี เว่ยเฟิง หนึ่งในทีมผู้วิจัยจากห้องปฏิบัติการด้านระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์แห่งมณฑลชานตงบอกว่า ?เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ ที่รหัสพันธุกรรมของไวรัสจากคนไข้ซึ่งมาจากหลายพื้นถิ่น กลับมีความคล้ายคลึงกันอย่างสูง การค้นพบนี้ชี้ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำเนิดขึ้นจากแหล่งเดียวกันในระยะเวลาอันสั้น และถูกตรวจพบอย่างรวดเร็วมาก? เมื่อเปรียบเทียบจีโนมของไวรัส 2019-nCoV ที่นำมาศึกษา กับฐานข้อมูลของไวรัสที่เคยพบมาก่อน ปรากฏว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีความคล้ายคลึงทางพันธุกรรมกับไวรัสโคโรนาอีก 2 ชนิดที่มาจากค้างคาวมากที่สุดถึง 88% ในขณะที่มีความคล้ายคลึงกับไวรัสโรคซาร์ส (SARS) ที่ 79% และคล้ายกับไวรัสโรคเมอร์ส (MERS) เพียง 50% ดร. หวู่ กุ้ยเจิน สมาชิกอีกคนหนึ่งของทีมวิจัยจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติจีน (CCDC) ระบุว่า ?ข้อมูลเหล่านี้ชี้ว่าเชื้อไวรัส 2019-nCoV น่าจะมาจากค้างคาวค่อนข้างแน่นอน แต่ผลการสืบสวนล่าสุดกลับพบว่าไม่มีการจำหน่ายค้างคาวที่ตลาดสดขายส่งอาหารทะเลของเมืองอู่ฮั่น ทำให้สันนิษฐานได้ว่า น่าจะมีสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่เป็นตัวกลางแพร่เชื้อจากค้างคาวมาสู่มนุษย์ แต่เรายังไม่ทราบว่าเป็นสัตว์ชนิดใดแน่? ก่อนหน้านี้มีรายงานว่างูเห่าจีน (Chinese cobra) และงูสามเหลี่ยมจีน (Chinese krait) ที่นำมาวางจำหน่ายในตลาดสดเมืองอู่ฮั่น อาจเป็นสัตว์ตัวกลางที่ส่งต่อเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากค้างคาวมาสู่คน เนื่องจากงูพิษที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติล่าค้างคาวในถ้ำเป็นอาหาร แต่ก็ยังคงมีข้อสงสัยว่า ไวรัสโคโรนาสามารถปรับตัวให้อยู่อาศัยและขยายพันธุ์ในร่างกายของทั้งสัตว์เลือดเย็นและสัตว์เลือดอุ่นได้อย่างไร แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย แมลงปอ : 31-01-2020 เมื่อ 08:05 |
#3
|
|||
|
|||
ผู้จัดการออนไลน์
สุดยอด ! แม่เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่รังที่ 8 แล้ว พบไข่ดี 105 ฟอง พังงา - สุดยอด ! รังที่ 8 มาแบบ รัวๆ แม่เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ ในฤดูกาลนี้ ล่าสุดพบที่หน้าวิทยาลัยการอาชีพท้ายเหมือง เก็บไข่ดี 105 ฟอง ย้ายไข่ไปฟักที่ปลอดภัย เฮ! กันอีกรอบ ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบแม่เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ อีก 1 รัง จนถึงขณะนี้นับเป็นรังที่ 8 ของฤดูวางไข่ในปีนี้ โดยล่าสุดเมื่อเวลา 02.55 น. วันนี้ (31 ม.ค.) จากการแจ้งการพบร่องรอยการวางไข่ของเต่ามะเฟืองของ ชุดสำรวจการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล อุทยานแห่งชาติ เขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ที่บริเวณด้านหน้าวิทยาลัยการอาชีพท้ายเหมือง หมู่ 9 ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ. พังงา เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ เขาลำปี-หาดท้ายเหมือง จึงได้ร่วมกันขุดหาไข่ จากการตรวจวัดรอยมีขนาดรอยปลายพาย 180 ซม. กลางอก 80 ซม. จากการตรวจสอบพบรังไข่เต่าอยู่ในระดับน้ำทะเลท่วมถึง ความลึกของหลุม 70 ซม.จึงขุดหลุมตรวจสอบพบ ไข่ดี 105 ฟอง ไข่ลม 28 ฟอง จึงย้ายไข่ ไปไว้ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เมื่อเวลา 04.45 น. เป็นที่ปลอดภัยแล้ว พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวัง ได้ระเบิดแทนปลา! ชาวประมงสงขลาเจอลูกปืนคอติดอวนคาดจมทะเลมานานแล้ว ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบวัตถุระเบิด 2 ลูกบริเวณชุมชนเก้าเส้ง ลูกแรกบริเวณชายหาด อีกลูกชาวประมงเจอติดอวนขึ้นมา พบเป็นลูกกระสุนปืนคอ สภาพเก่า คาดจมในทะเลมานานแล้ว เมื่อช่วงดึก วานนี้ (30 ม.ค.) ชาวประมงพื้นบ้านพบกระสุนปืนขนาดใหญ่ติดอวนขณะออกลากอวนหาปลาในทะเล จึงนำกลับเข้าฝั่งบริเวณชายหาดบ้านเก้าเส้ง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ หลังรับแจ้ง ตำรวจ สภ.เมืองสงขลาและหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ตชด.44 ได้ไปตรวจสอบและเก็บกู้พบว่าเป็นลูกกระสุนปืนคอ ที่มีอายุใช้งานมาหลายปีและน่าจะจมอยู่ในทะเลและถูกคลื่นซัดขึ้นมา เนื่องจากมีหอยเกาะจำนวนมากและถูกน้ำทะเลกัด ซึ่งชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจึงได้เก็บไปตรวจสอบอย่างละเอียดถึงแหล่งที่มาของกระสุนปืนคอลูกนี้ว่าตกไปอยู่ในทะเลได้อย่างไร หรือเป็นของหน่วยใด ก่อนที่นำไปทำลาย ก่อนหน้านี้ เพจ ?ตำรวจภูธรเมืองสงขลา? รายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ สายตรวจหมวกทอง อินทรีย์ 1,2 เข้าตรวจสอบวัตถุคล้ายระเบิดบริเวณชายหาดชุมชนเก้าเส้งเช่นกัน ซึ่งได้เก็บกู้เรียบร้อยแล้ว |
#4
|
|||
|
|||
[COLOR="Purple"]เพจกรมอุทยานฯ เผยภาพหายาก "ตุ๊กแกป่าหางม้วนบาลา"
เพจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โพสต์ภาพ "ตุ๊กแกป่าหางม้วนบาลา Bent-toed Gecko ซึ่งเดิมมีรายงานพบในคาบสมุทรมลายู เฉพาะประเทศมาเลเซีย และในส่วนของประเทศไทยมีรายงานอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2561 ว่าพบที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ทั้งนี้ข้อมูลในเพจกรมอุทยานฯ กล่าวว่า มีรายงานที่พบตุ๊กแกชนิดนี้ในมาเลเซีย ที่ Gunung benom ในรัฐปาหัง ที่ระดับความสูง 215 เมตร จากระดับน้ำทะเล ลักษณะป่าที่พบเป็นป่าดิบชื้นแบบมลายู แบบเดียวกันกับที่พบในป่าฮาลา-บาลา ของไทย ซึ่งตัวที่พบในป่าบาลาก็พบในระดับความสูงไม่เกิน 300 เมตรจากระดับน้ำทะเลเช่นกัน ดูจากการพบตัวโดยตรงของตุ๊กแกป่าหางม้วนบาลานี้แล้ว ส่วนใหญ่จะพบในวันที่ฝนตก บนใบไม้ที่ไม่สูงจากพื้นดินมากนัก อาจเป็นเพราะเรื่องของการหาอาหาร ซึ่งคงเป็นแมลงขนาดเล็กที่พบเฉพาะในป่าที่ราบต่ำ ในรายละเอียดเรื่องนิเวศวิทยาอื่นๆ ยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม ตุ๊กแกป่าหางม้วนบาลานี้ เป็นรายงานการพบครั้งแรกของประเทศไทย เมื่อปี 2561 ชื่อภาษาไทยจึงให้ชื่อตามแหล่งที่พบครั้งแรกของไทย คือที่ป่าบาลา จังหวัดนราธิวาส เป็นป่าดิบชื้นที่ราบต่ำที่มีอาณาเขตบางส่วนเชื่อมต่อกับป่าใหญ่เบลุ่มที่เป็นพรมแดนเชื่อมต่อกับไทยและมาเลเซีย /COLOR] |
|
|