ดูแบบคำตอบเดียว
  #7  
เก่า 04-12-2009
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


2 คนขับ'สปีดโบ๊ต'มอบตัว-สารภาพ พัทยารีบล้อมคอกให้กรมเจ้าท่าดูแล


คนขับเรือสปีดโบ๊ตเข้ามอบตัวแล้ว โดนตั้งข้อหากระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และบาดเจ็บ ส่วนคนขับเรือ "ธวัชชัยนำโชค 7" ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มฐานบรรทุกผู้โดยสารเกิน ขณะที่นักท่องเที่ยวเหยื่อเรือชน ยังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 6 คน โดย 2 คน อาการโคม่ายังไม่รู้สึกตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่เมืองพัทยาตื่นตัว "ล้อมคอก" ออกตรวจเข้มเรือสปีดโบ๊ต ด้านนายกเมืองพัทยา เตรียมยกพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด ให้กรมเจ้าท่าเข้าไปดูแลจัดระเบียบช่องทางการเดินเรือ คุมเข้มเรื่องความปลอดภัยนักท่องเที่ยว

จากกรณีเรือสปีดโบ๊ต "ธวัชชัยนำโชค 7" บรรทุกนักท่องเที่ยวชาวจีน เกาหลี และไต้หวัน 30 ชีวิต กลับจากเที่ยวเกาะล้าน มุ่งหน้าเข้าท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กับเรือสปีดโบ๊ต "ส.นิวเฟรนด์" ที่นำนักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลาง อังกฤษและรัสเซีย จำนวน 13 คน ออกจากท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย เพื่อไปดำน้ำที่เกาะล้าน เกิดเฉี่ยวชนกันอย่างจังบริเวณอ่าวพัทยา เนื่องจากมีเรือภัตตาคารจอดลอยลำปิดบังเส้นทาง จนคนขับเรือทั้ง 2 ลำมองไม่เห็นกันเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิต 2 ศพ และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมากนั้น

ความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้เกี่ยว ข้องกับอุบัติเหตุ เรือสปีดโบ๊ตชนกัน เมื่อตอนสายวันที่ 3 ธ.ค. พ.ต.อ. สรายุทธ สงวนโภคัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า นายไพโรจน์ ตอบกลาง อายุ 33 ปี คนขับเรือ ส.นิวเฟรนด์ และนายนิเวศ บัวดี อายุ 35 ปี คนขับเรือธวัชชัยนำโชค 7 ได้เข้ามอบตัวกับตนแล้ว จึงส่งให้ ร.ต.อ.เกรียงไกรวุทธ บัวกล้า ร้อยเวรเจ้าของคดีดำเนินคดี เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ นอกจากนี้ กรมเจ้าท่า กรมขนส่งทางน้ำที่ 6 สาขาพัทยา แจ้งความดำเนินคดีนายนิเวศ ตาม พ.ร.บ. การเดินเรือน่านน้ำไทยเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือบรรทุกน้ำหนักเกิน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับ 1,000-10,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผกก.สภ.เมืองพัทยา กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างสาเหตุเกิดจากมองไม่เห็นกัน เนื่องจากเรือภัตตาคารบดบังเส้นทาง ประกอบกับช่วงเกิดเหตุมีลมคลื่นแรง หัวเรือกระแทกกับคลื่นจนหัวเรือเชิดมองไม่เห็นเส้นทาง พอรู้ตัวอีกทีเรืออยู่ในระยะกระชั้นชิด พยายามหักหลบแล้วแต่ไม่พ้น จากการตรวจสอบทราบอีกว่า เรือ ส.นิวเฟรนด์ เป็นของนายทองสุข เอี่ยมสอาด อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 576/1 หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนเรือธวัชชัยนำโชค 7 เป็นของนายดลรวี หรือธวัชชัย ทองประดา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 206/101 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งตำรวจและทางกรมเจ้าท่า กำลังพิจารณาว่าต้องมีความผิดด้วยหรือไม่

ด้าน ร.ต.อ.เกรียงไกรวุทธ บัวกล้า ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังสอบสวนคนขับเรือทั้ง 2 ลำ นำหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวออกไปแล้ว และจากการสอบสวนยังพบว่าเรือธวัชชัยนำโชค 7 ขาดต่อใบอนุญาตใช้เรือ ซึ่งกรมเจ้าท่าสามารถเรียกไปเปรียบเทียบปรับได้เอง

ส่วนอาการคนเจ็บที่นอนรักษาตัวที่ รพ.พัทยาเมโมเรียล จำนวน 6 คน คือ น.ส.ขจรจิตร ปัดชาสี เด็กเรือ ส.นิวเฟรนด์, น.ส.ซาง กังลาน ชาวจีน, น.ส. ชิว ยิน เม่ย ชาวฮ่องกง, น.ส.วาง เจียนฮัม ชาวจีน ส่วนใหญ่มีร่องรอยฟกช้ำ มีเพียง น.ส.ชิว ยิน เม่ย ที่ซี่โครงซ้ายหัก 3 ซี่ ส่วนอีก 2 คนคือ นางฮัง ซิวเจียน และนางเทียน กุย เซียน ชาวจีน อาการโคม่ายังไม่รู้สึกตัว แพทย์ระบุว่ามีอาการสภาวะน้ำท่วมปอด ซึ่งเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยที่รับประกันนักท่องเที่ยว รวมทั้งเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนประจำประเทศไทย มาดูแลคนเจ็บอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกันนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมคณะผู้บริหารเมืองพัทยา เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ รพ.พัทยาเมโมเรียล โดยกำชับทีมแพทย์และพยาบาล ให้ดูแลผู้บาดเจ็บอย่างดีที่สุด จากนั้นนายอิทธิพลเปิดเผยว่า เมืองพัทยาจะร่วมประชุมกับกรมเจ้าท่า เพื่อหาแนวทางแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก โดยเมืองพัทยา ซึ่งเดิมรับผิดชอบพื้นที่ชายฝั่งลงไปในทะเล 50 เมตร ต่อไปจะให้กรมเจ้าท่ารับผิดชอบพื้นที่ในทะเลทั้งหมด โดยเฉพาะการจัดระเบียบช่องทางการเดินเรือเข้า-ออกจากท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮา ย พร้อมทั้งคุมเข้มในเรื่องของความปลอดภัยนักท่องเที่ยว การบรรทุกผู้โดยสารเกินและการใช้เสื้อชูชีพ โดยเมืองพัทยาจะรับผิดชอบเฉพาะเรื่องการกู้ภัยเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ตลอดทั้งวันมีเจ้าหน้าที่จากเมืองพัทยากว่า 50 คน เดินตรวจสอบเรือสปีดโบ๊ต ป้องกันไม่ให้บรรทุกน้ำหนักเกิน และกำชับให้นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการสวมเสื้อชูชีพ ขณะที่จุดเกิดเหตุมีเรือจอดลอยลำจำนวนมาก ทั้งเรือประมงขนาดเล็ก เรือนำเที่ยว เรือสปีดโบ๊ต และมีเรือภัตตาคารขนาดใหญ่ 2 ลำ ซึ่งไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปจัดระเบียบทำให้เกิดเหตุเรือชนกันบ่อย ครั้งกระทั่งเกิดเหตุสยองดังกล่าว



จาก : ไทยรัฐ วันที่ 4 ธันวาคม 2552



ครั้งที่ไปร่วมประชุม "โครงการจัดทำแผนแม่บทการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง" เมื่อเดือนที่แล้ว สองสายไม่ได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น เนื่องจากเวลามีน้อย และตัวผู้ซักถามและผู้ตอบได้ถูกกำหนดไว้หมดแล้ว แต่ได้เขียนความคิดเห็นในประเด็นต่างๆฝากไว้พิจารณาด้วย ซึ่งเรื่องการจัดระเบียบและ Zoning ของเรือสปีดโบ๊ตก็เป็นประเด็นหนึ่งที่ได้เสนอไป แต่ก็คงเป็นเสมือนเสียงนกเสียงกา อ่านแล้วก็ผ่านๆไปไม่ได้นำมาพิจารณา หรืออาจจะไม่ได้อ่านเสียด้วยซ้ำ

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม