เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #5  
เก่า 30-11-2010
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


นักวิชาการโวย "หมู่เกาะสุรินทร์-สิมิลัน "เสียหายรุนแรงปล่อยให้ดำน้ำทำปะการังฟอกขาว



นางสาวนลินี ทองแถม นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านปะการังและนิเวศน์ทะเลสถาบันวิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช)กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ว่า เกิดวิกฤตครั้งใหญ่สำหรับปะการังในท้องทะเลอันดามัน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญและแหล่งที่จะประกาศเป็นพื้นที่มรดกโลก โดยเฉพาะพื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์ และ หมู่เกาะสิมิลัน ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา จากการสำรวจเบื้องต้นพบแหล่งปะการังบางแห่งในบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์และหมู่เกาะสิมิลัน เกิดฟอกขาวทั้งหมด ส่งผลกระทบต่อจำนวนประชากรของปะการังในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน

นางสาวนลินีกล่าวอีกว่า จากการสำรวจสภาพแนวปะการังรอบเกาะต่างๆในบริเวณหมู่เกาะพีพี จ. กระบี่ ซึ่งได้แก่ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล เกาะไผ่ เกาะยูง เกาะบิด๊ะใน และเกาะบิด๊ะนอก โดยวิธีการ Manta tow เมื่อวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2553 โดยนักวิชาการจากสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล จ.ภูเก็ต พบว่า แนวปะการังส่วนใหญ่ของทุกๆเกาะอยู่ในสภาพเสียหาย มีปะการังตายมากกว่าปะการังมีชีวิตประมาณ 2 เท่าและเสียหายมาก มีปะการังตายมากกว่าปะการังมีชีวิตประมาณ 3 เท่า โดยเฉพาะจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น อ่าวมาหยา อ่าวต้นไทร หาดยาว อ่าวรันตี แหลมตง ส่วนบริเวณที่แนวปะการังยังอยู่ในสภาพปานกลาง ได้แก่บริเวณที่เป็นหน้าผาหิน ซึ่งมีปะการังปกคลุมอยู่ค่อนข้างน้อยโดยธรรมชาติอยู่แล้ว

สำหรับสาเหตุหลักของความเสียหายของแนวปะการังเหล่านี้นั้น น.ส.นลินีกล่าวว่า คือการฟอกขาว อันเนื่องมาจากการสูงขึ้นอย่างผิดปกติของอุณหภูมิน้ำทะเลในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเริ่มเกิดในช่วงปลายเดือนเมษายน 53 ปะการังบริเวณหมู่เกาะพีพีเริ่มตายลงจากการฟอกขาวตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2553 โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำที่สำคัญและมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน เช่น ด้านตะวันออกของเกาะยูงและเกาะไผ่ หินกลาง แหลมตง อ่าวรันตี อ่าวต้นไทร ซึ่งเป็นแนวปะการังน้ำตื้นที่มีปะการังเขากวางเป็นชนิดเด่น เดิมส่วนใหญ่มีปะการังอยู่ในสภาพปานกลาง-ดี แต่จากการสำรวจในครั้งนี้พบว่าปะการังเขากวางกว่าร้อยละ 90 ได้ตายลง ทำให้แนวปะการังยู่ในสภาพเสียหายถึงเสียหายมากดังกล่าว

นางสาวนลินีกล่าวอีกว่า เมื่อเทียบผลการสำรวจในครั้งนี้กับการสำรวจความเสียหายของแนวปะการังหลังเหตุการณ์สึนามิในปี 2548 ซึ่งในปี 2548 พบว่าแนวปะการังของหมู่เกาะพีพีหลายบริเวณมีสภาพดีมาก มีปะการังมีชีวิตมากกว่าปะการังตายประมาณ 3 เท่า และส่วนใหญ่อยู่ในสภาพดีถึงสภาพปานกลาง มีปะการังมีชีวิตมากกว่าปะการังตายประมาณ 2 เท่าหรือในสัดส่วนใกล้เคียงกัน แต่ในการสำรวจครั้งนี้พบแนวปะการังที่ยังอยู่ในสภาพดีเหลืออยู่น้อยมาก และไม่พบแนวปะการังที่อยู่ในสภาพดีมากเหลืออยู่เลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าความเสียหายของแนวปะการังจากการฟอกขาวในครั้งนี้ ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงมากกว่าความเสียหายจากสึนามิเมื่อเดือนธันวาคม 2547

“ข้อสังเกตที่พบขณะทำการสำรวจในครั้งนี้ พบว่าแนวปะการังหลายบริเวณยังมีนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวดำน้ำเป็นจำนวนมาก แต่นักท่องเที่ยวยังขาดความรู้ความเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับแนวปะการัง ดังกล่าวนอกจากนี้ยังพบว่าในหลายบริเวณยังมีทุ่นจอดเรือไม่เพียงพอกับเรือท่องเที่ยวที่มีจำนวนมาก มีการเหยียบปะการังของไกด์นำเที่ยวและนักท่องเที่ยว การทิ้งสมอเรือในแนวปะการัง รวมทั้งพบอวนและลอบที่อยู่ในสภาพใหม่และเก่าจำนวนมากในแนวปะการัง ผู้ประกอบการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวให้อาหารปลาในแนวปะการัง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้มีสาหร่ายขึ้นคลุมปะการังจำนวนมากในหลายบริเวณ เช่น เกาะไผ่ หินกลาง เนื่องจากปลาเปลี่ยนพฤติกรรมไปกินอาหารจากนักท่องเที่ยวแทนที่จะกินสาหร่ายที่ขึ้นคลุมปะการัง ซึ่งหากไม่มีการจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โอกาสที่แนวปะการังบริเวณหมู่เกาะพีพี จ. กระบี่ จะกลับมีความสวยงามสมบูรณ์ดังเดิมคงเป็นไปได้ยากหรืออาจต้องใช้เวลานานมาก”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมมาอีกว่า นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกด์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้มีคำสั่ง322/2553 ลงวันที่ 30 กันยายน 2553 แต่งตั้ง รองอธิบดี ทช.และผู้เชี่ยวชาญนักวิชาการจากสถาบันการศึกษา เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย มหิดล มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเกษตร มหาวิทยาลัยราชฎัภภูเก็ต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และบุคลากรของกรม ทช.และกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธ์พืช ร่วมพิจารณาหาทางแก้ปัญหาและหาทางอนุรักษ์ฟื้นฟู โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากสภาพปะการังในน่านน้ำไทยเกิดปัญหาฟอกขาวที่เกิดจากสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของอณหภูมิน้ำทะเลที่ผิดปกติและเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก โดยคณะกรรมการจะจัดการประชุมกันในวันที่ 30 พ.ย. นี้



จาก : มติชน วันที่ 29 พฤศจิกายน 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 30-11-2010 เมื่อ 18:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:14


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger