เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 13-10-2010
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


ตามดูวาฬบรูด้า ............ โดย วินิจ รังผึ้ง





ช่วงนี้ข่าววาฬบรูด้าเข้ามาป้วนเปี้ยนหากินอยู่แถวๆชายฝั่งแหลมผักเบี้ย บางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี ได้สร้างความคึกคักให้กับท้องทะเลบริเวณนั้นเป็นอย่างยิ่ง แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยว นักดูนก นักดูปลา เดินทางมาเหมาเรือออกไปตามดูวาฬบรูด้ากันวันละมากมายหลายลำ เป็นการสร้างรายได้ กระจายเม็ดเงินลงไปสู่ชาวบ้านจำนวนมาก ความจริงข่าวการพบวาฬบรูด้านั้นมีมาเป็นระยะๆ ที่โน่นบ้าง ที่นี่บ้าง ทั้งทะเลฝั่งอ่าวไทยและทะเลฝั่งอันดามัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่มีที่ไหนและครั้งใดจะมีความคึกคักและมีผู้คนให้ความสนใจเท่ากับครั้งนี้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะการพบวาฬบรูด้าในพื้นที่อื่นๆ เป็นการพบเห็นชั่วครั้งชั่วคราว ชาวบ้าน ชาวเรืออาจจะพบกันวันสองวันหรืออยู่เป็นสัปดาห์แล้วก็หายไปไม่พบอีก ซึ่งจะมีการพบเห็นบ่อยๆและยาวนานครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ก็ที่บ้านบ่อนอก ประจวบคีรีขันธ์ ที่นั่นก็มีคนไปดูและถ่ายภาพมาได้บ้างเหมือนกัน แต่วาฬบรูด้าก็ไม่ได้อยู่นานและขึ้นมาโชว์ตัวกันอย่างถึงใจเหมือนครั้งนี้

ชาวประมงพื้นบ้านแถวบางตะบูนบอกว่าพบวาฬบรูด้าฝูงนี้มาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมแล้ว และก็ยังคงวนเวียนกินฝูงปลากะตักอยู่ไม่ไกลฝั่งยาวนานมาจนถึงวันนี้ นั่นจึงทำให้เกิดเป็นข่าวเผยแพร่ออกไปทั้งทางหน้าหนังสือพิมพ์และทางทีวี จนทำให้เกิดการรับรู้ของผู้คนและเกิดเป็นกิจกรรมพาคนไปลอยเรือดูวาฬเหมือนอย่างในต่างประเทศเขาทำกัน ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกและเป็นแห่งแรกของเมืองไทยก็ว่าได้ สิ่งที่เกิดขึ้นก็น่าจะมาจากการที่ปีนี้มีปริมาณฝนตกลงมามาก ปริมาณน้ำจืด ตะกอนดิน และอินทรีย์สารต่างๆจากบนผืนแผ่นดินก็ไหลลงไปสู่ทะเลใกล้ชายฝั่งเป็นจำนวนมาก อันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ชาวบ้านเรียกว่า “ช่วงน้ำเบียด” หรือช่วงที่น้ำจืดหลากไหลลงไปชนกับน้ำเค็มจนเกิดการขยายตัวของแพลงก์ตอนในท้องทะเลขึ้นมากมายใกล้ชายฝั่ง ซึ่งแพลงก์ตอนจำนวนมากมายเหล่านี้ก็จะเป็นตัวดึงให้ฝูงปลาขนาดเล็กจำพวกปลากะตักที่มีจำนวนมากมายมหาศาลในท้องทะเล อพยพเข้ามากินแพลงก์ตอน ฝูงปลากะตักและปลาเล็กๆเหล่านี้ก็เป็นตัวดึงปลาใหญ่และเจ้าวาฬบรูด้าที่ชื่นชอบการกินปลากะตักอย่างยิ่งให้เดินทางเข้ามาอ้าปากไล่ช้อนฝูงปลากะตักกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลินจนไม่ยอมหนีไปไหน

ความจริงนักชีววิทยาทางทะเลบอกวาฬบรูด้านั้นเป็นวาฬชนิดที่หากินอยู่ประจำพื้นที่ ไม่ใช่นักเดินทางไกลไปทั่วท้องทะเลหรือข้ามมหาสมุทรไกลๆเหมือนวาฬชนิดอื่นๆ บางคนก็เลยบอกว่าเป็นวาฬประจำถิ่นแถวๆแหลมผักเบี้ย บางตะบูนเสียเลย ซึ่งผมมีความเห็นว่าคำว่าหากินประจำถิ่นของเจ้าวาฬบรูด้านั้นมันคงไม่ใช่วนเวียนอยู่แค่อ่าวใดอ่าวหนึ่งหรือรอบๆเกาะใดเกาะหนึ่งเท่านั้น แต่อาณาเขตหากินของมันก็คงต้องเป็นร้อยๆตารางกิโลเมตรนั่นแหละ ประเภทหากินประจำถิ่นวนเวียนอยู่ในอ่าวไทยอะไรทำนองนั้น และที่เป็นลักษณะพิเศษของวาฬบรูด้าในท้องทะเลไทยนั้น นักชีววิทยาทางทะเลจากต่างประเทศได้ให้ความสนใจและตั้งข้อสังเกตว่ามันมีขนาดเล็กกว่าวาฬบรูด้าที่พบตามท้องทะเลอื่นๆของโลก ซึ่งอาจจะสามารถแยกเป็นวาฬบรูด้าชนิดใหม่ของโลกก็มีทางเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องมีการศึกษาวิจัยกันให้ได้รายละเอียดมากกว่านี้





หลายคนอาจจะสนใจไปล่องเรือดูวาฬบรูด้าก่อนที่มันจะออกทะเลไกลไปเสีย ก็อยากให้มาลองทำความรู้จักกับวาฬบรูด้ากันก่อน ซึ่งความจริงสัตว์จำพวกวาฬหรือที่หลายๆคนเรียกปลาวาฬนั้น แม้นจะมีรูปร่างมีครีบมีหางและอาศัยอยู่ในทะเลเหมือนปลา แต่มันก็ไม่ใช่ปลาแต่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนกับคนอย่างเรา วาฬเป็นสัตว์เลือดอุ่น ไม่ได้เป็นสัตว์เลือดเย็นเหมือนกับปลา ทั้งยังหายใจโดยใช้ช่องจมูกหายใจเอาอากาศเข้าไปสู่ปอดไม่ได้ใช้เหงือกกรองเอาอ๊อกซิเจนในน้ำเหมือนปลา ดังนั้นวาฬจึงจำเป็นต้องโผล่ขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ โดยเมื่อวาฬโผล่ช่องหายใจที่อยู่ส่วนบนของหลังขึ้นพ้นผิวน้ำ มันก็จะต้องพ่นน้ำออกให้หมดจากท่อหายใจเหมือนกับตอนที่เราดำน้ำด้วยท่อสนอร์เกิ้ลเมื่อโผล่ขึ้นมาพ้นน้ำก็ต้องเป่าพ่นน้ำที่ค้างอยู่ในท่อออกให้หมดก่อนจะสูดหายใจเข้าไป เราจึงเห็นวาฬพ่นน้ำเกือบทุกครั้งที่มันโผล่ขึ้นมาหายใจ วาฬนั้นจะตั้งท้องแล้วออกลูกเป็นตัว ไม่ได้ออกลูกเป็นไข่เหมือนปลา โดยวาฬบรูด้านั้นจะตั้งท้องราว 1 ปี และคลอดลูกออกมามีขนาดลำตัวยาวราว 2-3 เมตร แม่วาฬจะว่ายน้ำคลอเคลียพยุงลูก ดันตัวขึ้นมาให้หัดหายใจ และให้นมจากเต้าที่อยู่บริเวณใต้ครีบกับลูกอ่อน และจะเลี้ยงดูให้นมลูกไปประมาณ 1 ปีซึ่งใกล้เคียงกับมนุษย์เรา วาฬบรูด้านั้นเมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดยาว 14-15 เมตร มีน้ำหนักตัวราว 20-25 ตันเลยทีเดียว และจะมีอายุยืนยาวได้ถึงราว 50 ปี สิ่งที่สัตว์จำพวกวาฬและโลมาซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีความแตกต่างจากปลาอีกอย่างก็คือ วาฬและโลมามีแพนหางราบขนานกับพื้น ไม่ได้ตั้งขึ้นเหมือนปลา และใช้แพนหางโบกกระพือว่ายน้ำขึ้นลงทางแนวตั้ง ไม่ได้ส่ายหางไปมาด้านข้างเหมือนกับปลา

วาฬบรูด้านนั้นจัดเป็นวาฬขนาดกลาง ลำตัวมีสีเทาเข้มรูปทรงยาวเรียวเพียวน้ำ ใต้ท้องมีสีจางกว่า ส่วนหัวเรียวแหลมแผ่กว้างบนหัวมีแนวสัน 3 สันยาวไปจนถึงช่องหายใจ ด้านล่างของปากบริเวณใต้คางไปจนถึงท้องจะมีแนวร่องยาวเรียงกันราว 40-70 ร่อง เหมือนเป็นรอยพับของหีบเพลงที่สามารถจะคลี่ขยายออกมาเป็นถุงอวนขนาดใหญ่เวลาที่วาฬบรูด้าปากกว้างฮุบน้ำที่เต็มไปด้วยฝูงปลาขนาดเล็กเข้าไปในถุงใต้ปาก โดยวาฬบรูด้าเป็นวาฬที่ไม่มีฟัน แต่จะมีแผงกรองที่เรียกว่าบาลีน(Baleen) ซึ่งเป็นเส้นกรองเรียงถี่ๆคล้ายกับแปรงหรือหวีเรียงรายอยู่ในปากราว 250-370 แผ่น แผ่นกรองเหล่านี้จะเป็นตัวดักปลาและอาหารเล็กๆ ไว้ตอนที่มันพ่นน้ำที่ฮุบออกมาจากปาก ปรกติจะพบวาฬบรูด้าครั้งละ 1-2 ตัว แต่ที่แหลมผักเบี้ยและบางตะบูน เพชรบุรีนี้ มีการพบรวมกันบริเวณนั้นนับสิบตัวเลยทีเดียว

แม้นจะตื่นเต้นกับกิจกรรมดูวาฬกันเป็นล่ำเป็นสันครั้งแรกในประเทศไทย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่ต้องขอเตือนกันไว้ก่อนก็คือ เรื่องของความปลอดภัยของท่านที่จะออกไปลอยเรือดูวาฬบรูด้า สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงก็คือ สภาพอากาศ เช่นต้องเช็คดูให้แน่นอนเสียก่อนว่าวันที่จะออกไปดูนั้นคลื่นลมสงบเงียบดีไหม ถ้าทะเลปั่นป่วนมีคลื่นลมก็อย่าออกไปเสี่ยงเลยครับ เพราะจุดที่จะไปดูวาฬนั้นอยู่กลางทะเล ไม่มีที่หลบคลื่นลม ต้องไปลอยลำให้คลื่นโยนไปมาให้เกิดความเสี่ยงหรือเกิดอาการเมาคลื่นเล่นเสียเปล่าๆ และทะเลที่มีคลื่นนั้นก็ยากจะสังเกตเห็นวาฬที่โผล่ขึ้นมาพ้นน้ำ ไม่เหมือนกันช่วงทะเลเรียบๆ โผล่ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลๆอย่างชัดเจน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงให้มากอันดับถัดมาก็คือ ขนาดของเรือที่ออกไปจะต้องไม่เล็กจนเกินไป เพราะแล่นออกห่างจากฝั่งราวชั่วโมงเศษ และอาจจะแล่นหรือลอยลำหาจุดที่ปลาขึ้นเป็นเวลานานถึง 3-4 ชั่วโมงก็มี และเรือที่ออกไปต้องมีชูชีพสำหรับผู้โดยสารทุกคน ประเภทไม่เป็นไรหรอกทะเลเรียบไม่ต้องมีชูชีพก็ได้นั้นอย่าไปใช้บริการอย่างเด็ดขาด อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยงครับ และสุดท้าย การเข้าไปดูวาฬบูด้านั้น ควรเคารพกฎกติกาที่จะไม่ไปรบกวนวาฬมากนัก เมื่อพบแล้วควรจอดเรือลอยลำอยู่ด้านเดียวกันในระยะห่างราว 300 เมตรขึ้นไป เพราะจะได้ไม่ไปกดดันให้วาฬต้องตื่นหนี หรือเข้าไปใกล้จนทำให้ฝูงปลากะตักที่วาฬได้ตีวงล้อมไล่ต้อนให้มารวมกันก่อนที่จะฮุบเหยื่อแตกหนีไปเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย ซึ่งวาฬจะอดอาหารจานโปรดเสียเปล่าๆ และในที่สุดก็จะหนีออกไปให้ไกลๆ ก็จะอดดูกัน หรือหากทำให้มันรู้สึกว่าบริเวณนี้ถูกรบกวนมากและดูไม่ปลอดภัย ปีหน้ามันอาจจะไม่เข้ามาอีกเลยก็เป็นได้ ฉะนั้นก็ขอให้ใช้ความระมัดระวังกันหน่อยทั้งเจ้าของเรือและผู้ที่จะเข้าไปดู เพื่อให้กิจกรรมของคนและวิถีชีวิตของวาฬดำเนินไปได้ด้วยกันอย่างมีความสุขทั้งสองฝ่าย




จาก ........... ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 12 ตุลาคม 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 13-10-2010
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


ทช.ศึกษาพบวาฬบรูด้าตามแนวชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนจำนวนมาก แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งอาหาร


กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศึกษาพบวาฬบรูด้าตามแนวชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนจำนวนมาก แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งอาหาร พร้อมขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามคำแนะนำในการชมวาฬบรูด้าที่ถูกต้อง ป้องกันการรบกวน

นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยว่า จากผลการศึกษาวาฬบรูด้าในอ่าวไทยของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พบว่า วาฬบรูด้าอพยพเคลื่อนย้ายตามแหล่งอาหารและฤดูกาลมาในพื้นที่อ่าวไทย ตั้งแต่บริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการ ชายฝั่งทะเลเขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม จนถึงจังหวัดเพชรบุรี พบได้ง่ายที่แหลมผักเบี้ย และบางครั้งอาจพบได้บริเวณชายฝั่งของจังหวัดชลบุรี โดยพบห่างจากฝั่งตั้งแต่ 4-30 กิโลเมตร พบมากที่สุดในพื้นที่อ่าวไทยตอนบนจำนวน 20-25 ตัว โดยที่พบครั้งแรกในปีนี้เป็นวาฬบรูด้าคู่แม่ลูกเข้ามากินอาหาร คือปลาขนาดเล็กในกลุ่มของปลากะตัก และพบวาฬบรูด้าจากการสำรวจ 1 ครั้ง 1 วัน มากที่สุดถึง 18 ตัว จากปกติพบครั้งละ 1-3 ตัว ซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งอาหาร อย่างไรก็ตาม การนำนักท่องเที่ยวลงเรือประมงไปสังเกตวาฬบรูด้า ขอให้ชะลอเครื่องยนต์หรือดับเครื่องยนต์เมื่ออยู่ใกล้วาฬบรูด้า และควรอยู่ห่างในรัศมี 100-300 เมตร

อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวด้วยว่า วาฬบรูด้าแม่ลูกอ่อน จะคอยปกป้องลูก แม้ไม่ใช่สัตว์ดุร้าย แต่ถ้าเรือเข้าใกล้มาก อาจโดนกระแทกได้จึงต้องป้องกันให้นักท่องเที่ยวสวมเสื้อชูชีพในการชมวาฬบรูด้า ซึ่งเป็นชนิดพันธุ์สัตว์หายาก และต้องอนุรักษ์ไว้ โดยมีการจัดอบรมให้ความรู้และจัดทำคู่มือแก่ชาวประมงที่เป็นผู้ประกอบการท่องเที่ยวชมวาฬบรูด้า เพื่อแนะนำข้อควรปฏิบัติในการดูวาฬบรูด้าที่ถูกต้อง และไม่ให้เป็นการรบกวนหรือคุกคามวาฬบรูด้าจนเกินไป




จาก ........... สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ วันที่ 12 ตุลาคม 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:05


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger