![]() |
|
#30
|
||||
|
||||
|
อภิหายนะแห่งปี 3 ภัยพิบัติซัด "ญี่ปุ่น" ![]() ปี 2554 สุดยอดมหันตภัยทางธรรมชาติที่ส่งผลสะเทือนมนุษย์ ครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น แม้จะเป็นดินแดนที่เผชิญแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง แต่แผ่นดินไหวในเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้ก่อคลื่นยักษ์สึนามิโถมซัดเมือง กวาดบ้านเรือนและคร่าชีวิตผู้คนทั้งที่พบร่างและ สาบสูญไปกว่า 20,000 ราย ทั้งนำไปสู่วิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่กัมมันตรังสีรั่วไหลเขย่าขวัญผู้คนในคราวเดียวกัน 9 ริกเตอร์เขย่าใต้ทะเล เมื่อเวลา 14.46 น. วันที่ 11 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่นญี่ปุ่น เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลขนาด 9.0 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งญี่ปุ่นทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยมีจุดเกิดแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินเพียง 32 กิโลเมตร นับเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และเป็น 1 ใน 1 แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดของโลกเท่าที่มีการบันทึกมาตั้งแต่พ.ศ.2443 แผ่นดินไหวดังกล่าวรุนแรงเสียจนทำให้เกาะฮอนชูเลื่อนไปทางตะวันออก 2.4 เมตร พร้อมกับเคลื่อนแกนหมุนของโลกไปเกือบ 10 เซนติเมตรเลยทีเดียว สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 15,729 ราย บาดเจ็บ 5,719 ราย และสูญหาย 4,539 ราย ในพื้นที่ 10 จังหวัด เช่นเดียวกับอาคารที่ถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายกว่า 125,000 หลัง บ้านเรือนราว 4.4 ล้านหลังคาเรือนทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ และอีก 1.5 ล้านคนไม่มีน้ำใช้ สึนามิ 40 เมตร ซัดถล่ม ในวันเดียวกันนั้นเอง แผ่นดินไหวก่อให้เกิดคลื่นสึนามิทำลายล้างซึ่งสูงที่สุดถึง 40.5 เมตร ในมิยาโกะ อิวาเตะ โทโฮะกุ บางพื้นที่พบว่าคลื่นได้พัดพาลึกเข้าไปในแผ่นดินลึกถึง 14 กิโลเมตร มีรายงานว่า เมืองทั้งเมืองถูกทำลายจากคลื่นสึนามิ รวมทั้งเมืองมินามิซานริกุ ซึ่งมีผู้สูญหายกว่า 9,500 คน แรงคลื่นสึนามิทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองคุจิและพื้นที่ส่วนใต้ของโอฟุนาโตะรวมทั้งบริเวณท่าเรือถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง เมืองอื่นที่ได้รับรายงานว่าถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายอย่างหนักจากคลื่นสึนามิ ได้แก่ ริกุเซนตากาตะ โอนางาวะ นาโตะริ โอตสึชิ และยามาดะ ในจังหวัดอิวาเตะ เมืองนามิเอะ โซมะ และ มินามิโซมะ ในจังหวัดฟูกูชิมะ และโอนางาวะ นาโตะริ อิชิโนะมากิ และเคเซนนุมะ ในจังหวัดมิยางิ ทีมงานนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต กับองค์การนาซ่า สหรัฐอเมริกา ใช้ข้อมูลภาพจากดาวเทียมของนาซ่าและข้อมูลดาวเทียมของยุโรปเรดาร์ พบว่าคลื่นยักษ์ครั้งนี้เป็นสึนามิผสม หรือสึนามิ 2 ลูกพัดมารวมกัน ซึ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อปะทะฝั่ง รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศว่ามูลค่าความเสียหายจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิอาจมีมูลค่าสูงถึง 309,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 9.2 ล้านล้านบาท ธนาคารกลางญี่ปุ่นอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบอย่างน้อย 6 ล้านล้านบาท เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2554 เพื่อพยายามฟื้นฟูสภาพการตลาดให้กลับคืนสู่สภาพปกติ วิกฤตนิวเคลียร์ฟูกูชิมะ "ความวัว" จากแผ่นดินไหวและสึนามิยังไม่ทันจบ "ความควาย" จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะก็เข้ามาแทรกทันที เมื่อแรงแผ่นดินไหวและพลังคลื่นสึนามิก่อให้เกิดเหตุระเบิดขึ้นในโรงไฟฟ้า 3 ครั้ง บริษัทโตเกียวอิเล็กทริก เพาเวอร์ หรือ เทปโก เจ้าของโรงไฟฟ้า ประกาศสถาน การณ์ฉุกเฉิน ประชาชนซึ่งอยู่อาศัยในรัศมี 20 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้าถูกสั่งอพยพ ก่อนเพิ่มพื้นที่เป็นในระยะรัศมี 30 กิโลเมตรในเวลาต่อมา รวมแล้วมีผู้ถูกอพยพไปมากกว่า 200,000 คน เมื่อวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ย่างเข้าสู่เดือนที่สอง ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แม้ฟูกูชิมะไม่ใช่อุบัติเหตุนิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุด แต่ยุ่งยากซับซ้อนที่สุด การวิเคราะห์ภายหลังบ่งชี้ว่าเครื่องปฏิกรณ์ 3 เครื่องหลอมละลายและน้ำหล่อเย็นรั่วไหล จากนั้นตรวจจับไอโอดีนและซีเซียมกัมมันตภาพรังสีได้ในน้ำประปาในฟูกูชิมะ โตชิงิ กุนมะ โตเกียว ชิบะ ไซตามะ และนิอิงาตะ ตามด้วยการพบกัมมันตภาพรังสีในดินบางพื้นที่ของฟูกูชิมะ ผลิตภัณฑ์อาหารถูกพบว่าปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีในหลายพื้นที่ของญี่ปุ่น จนกระทั่งวันที่ 5 เม.ย.2554 จังหวัดอิราบากิห้ามการประมงปลาแซนด์เลซ ต่อมาปลายเดือนก.ค. เนื้อวัวปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีถูกพบวางขายอยู่ที่ตลาดในกรุงโตเกียว ซึ่งกลายเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลก ในช่วงเวลาวิกฤตหนัก คนงาน 300 คน ที่ประกอบด้วย ช่างเทคนิค ทหาร เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ที่ทำงานสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันรอบละ 50 คน หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ฟูกูชิมะ 50" ช่วยกันระบายความร้อนที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ โดยไม่คำนึงถึงอันตรายต่อชีวิต หลายคนระบุพร้อมพลีชีพ จนในวันที่ 7 ก.ย. วีรบุรุษเหล่านี้ได้รับ "รางวัลเจ้าชายแห่งอัสตูเรียส" อันทรงเกียรติของสเปน ในสาขาสันติภาพ ทุกวันนี้บรรยากาศในเมืองฟูตาบะ จ.ฟูกูชิมะ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโรงงานไฟฟ้าเพียง 20 ก.ม. อยู่ในสภาพเงียบเหงา บ้านเรือน ร้านค้า โรงเรียน ถูกปิดตายทิ้งร้างไร้ผู้คน คาดว่าอีกกว่า 20 ปี ชาวเมืองถึงจะกลับเข้าไปใช้ชีวิตตามปกติได้ น้ำท่วมไทยซ้ำเติมอีกยก ช่วงท้ายปี ญี่ปุ่นซึ่งกำลังเร่งฟื้นตัวจากหายนะในประเทศ กลับ ต้องเจอผลกระทบซ้ำจากเหตุน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ของไทย! น้ำท่วมไทยที่เริ่มตั้งแต่เดือนต.ค. ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ชิ้นส่วนการผลิตต่อโรงงานของญี่ปุ่นที่ตั้งฐานการผลิตอยู่ในหลายจังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา บริษัทรายใหญ่ที่ได้รับผลกระทบได้แก่ โตโยต้า ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก บริษัท ไพโอเนียร์ ที่ทำเครื่องเสียงรถยนต์ นอกจากนี้บริษัทอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบยังมี โซนี่, นิคอน, อีซูซุ บริษัทญี่ปุ่นถือเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่มาตั้งฐานการผลิตในไทยตลอดช่วง 3 ทศวรรษ และงบลงทุนของญี่ปุ่นในไทยมีมูลค่าถึง 1 แสนล้านบาทในปี 2553 เงินลงทุนจากญี่ปุ่นยังถือเป็นรายได้หลักของไทย และสินค้าที่กระจายไปสู่ตลาดโลกเหล่านี้ยังได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งในเรื่องราคา ความล่าช้าในการขนส่ง และภาวะสินค้าขาดตลาด ความปั่นป่วนในปีนี้จึงทำให้มนุษย์ตัวเล็กๆ ได้ตระหนักถึงความน่าเกรงขามของธรรมชาติอีกครั้ง จาก ........................ ข่าวสด วันที่ 30 ธันวาคม 2554
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|