![]() |
|
|||||||
![]() |
|
|
Share | คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ป้ายโปสเตอร์ที่เขาติดไว้หน้าโรงหนัง เป็นภาพของ "สรพงศ์ ชาตรี" ในเรื่อง "เสือภูเขา" ซึ่งสายชลเคยดูมานานกว่าสามสิบปีแล้ว จนจำไม่ได้ว่าเด็กที่เปลือยกายโชว์อยู่นั้นคือใคร ป่านฉะนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง... ![]() จากสุวรรณรามา มองลึกเข้าไปในซอย ก็เห็นตลาดสดเมืองเชียงคาน ทานอาหารเช้าเสร็จ จะไปเดินซื้อของในตลาดก็สะดวกสบาย ![]() ร้านสุวรรณรามานี้ไม่มีเด็กเสริฟนะคะ จะทานอะไร เราต้องบริการตัวเอง ในเช้าวันนั้น กว่าเราจะถูกเรียกไปรับไข่กระทะ และ กาแฟ มาเป็นอาหารมื้อเช้าได้ เวลาก็ผ่านไปกว่าสามสิบนาที ที่ช้านั้น เป็นเพราะแม่ครัวของร้านมีอยู่คนเดียว คนชงกาแฟกับแคชเชียร์ก็เป็นคนๆเดียวกัน กว่าเราจะได้ทานได้ดื่ม ก็เกิดอาการหน้ามืดตาลาย ไม่ได้ถ่ายภาพอาหารมาให้ดู อาจจะเพราะหิวจัด และระหว่างทาน เราไพล่ไปคิดถึงไข่กระทะกับกาแฟที่ร้าน "ทานตะวัน" เมืองหนองคาย ที่น้องดื้อเคยพาไปทาน ซึ่งอร่อยกว่านี้มากมายนัก... ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 15-06-2012 เมื่อ 13:02 |
|
#2
|
||||
|
||||
|
แม้อาหารเช้าของเราจะไม่อร่อยนัก แต่ก็ทำให้อิ่มท้อง....ที่นี้ ก็ได้เวลาเที่ยวชมเมืองเชียงคานกันต่อแล้วล่ะค่ะ อ่านหนังสือท่องเที่ยวเมืองเชียงคานแล้ว ที่ผ่านมา เรายังไม่ได้ไปชมจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่แถวๆแก่งคุดคู้ เราจึงควบเจ้ากระต่ายขาววิ่งขึ้นไปทางเหนือ มุ่งหน้าสู่แก่งคุดคู้กันอีกครั้ง พอถึงเสาหลักกิโลเมตรอันใหญ่ที่แก่งคุดคู้แล้ว เราก็เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเลียบแม่น้ำโขง ผ่านร้านอาหารริมโขงที่เราเคยมานั่งทานไม่นานนัก ก็ถึงจุดที่เราจะมาชมกัน นั่นคือ องค์จำลอง "อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม)" ของเมืองเชียงคาน ![]() ตัวอนุสาวรีย์จำลอง ตั้งอยู่บนลานปูนกว้างด้านซ้ายของถนนเลียบริมโขง ด้านหน้าของอนุสาวรีย์เป็นรูปปั้นผีตาโขน ![]() เบื้องหลังอนุสาวรีย์ มีพระเจดีย์ประดิษฐานอยู่สามองค์ คือ พระบรมธาตุเจดีย์ศรีกัลยาณิวัฒนามิ่งมงคลสยาม (อยู่ตรงกลาง) พระบรมธาตุเจดีย์ทองศรีเชียงคานจุฬามณี (อยู่ด้านขวา) พระบรมธาตุเจดีย์เงินศรีเชียงคานจุฬามณี (อยู่ด้านซ้าย) ซึ่งทั้งสามเจดีย์ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จัดสร้างขึ้นโดย มูลนิธิอุบลรังสีจุฬามณี (โดยอาจารย์ เกรียงไกร ชำนิการโกศล) ![]() ด้านข้างลานอนุสาวรีย์ มีบ้านพักเรือนไม้หน้าตาดูดี ให้เช่าพัก ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 15-06-2012 เมื่อ 23:15 |
|
#3
|
||||
|
||||
|
อีกฟากถนนของที่ตั้งอนุสาวรีย์ย่าโมจำลอง มูลนิธิอุบลรังสีจุฬามณีได้สร้างสวนสาธารณะเพื่อสุขภาพขึ้น โดยตั้งเลาะไปตามริมฝั่งแม่น้ำโขง สิ่งที่น่าสนใจก็คือ รูปปั้น "ผีขนน้ำแห่บั้งไฟ" ![]() ผีขนน้ำ (ไม่ใช่ผีตาโขน) เป็นประเพณีการละเล่นของชาวบ้านนาซ่าว ตำบลนาซ่าว อำเภอเชียงคาน ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ http://travel.sanook.com/767374/%E0%...8%B2%E0%B8%A7/ ด้านซ้ายของรูปปั้นผึขนน้ำ เป็นอาคารกังหันลมแบบที่เราเห็น ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ทราบต่อมาว่านั่นคือ "ห้องหุ่นผีตาโขนบก และ ผึขนน้ำ" แต่วันที่เราไป ไม่ได้เปิดให้เข้าชม ![]() ที่ชอบใจมาก คือบ้านทรงไทยซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ติดกับที่ตั้งอนุสาวรีย์แม่ย่าโม ชื่อ บ้านเจ้าคำ ซึ่งสวยงามและน่าพักอาศัยมากค่ะ ภายในบริเวณบ้านเจ้าคำยังมี อาคารห้องสมุดหอศิลป์เฉลิมพระเกียรติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นห้องสมุดและหอศิลป์ สำหรับเด็กและเยาวชนที่สนใจ บรรจุจัดเก็บเอกสาร หนังสือ ตำราค้นคว้าที่ค่อนข้างจะหาได้ยากในพื้นที่ ภาพประวัติเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและพระราชวงศ์จักรี และ ห้องเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิ วัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประดิษฐานพระบรม สารีริกธาตุ ซึ่งได้รับประทานจากสมเด็จพระสังฆราชฯ เพื่อให้ประชาชนผู้สนใจได้สักการบูชา ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ สร้างโดย มูลนิธิอุบลรังสีจุฬามณี.... [/
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 17-06-2012 เมื่อ 16:32 |
|
#4
|
||||
|
||||
|
เราเดินเล่นและซื้อของ อยู่ที่แก่งคุดคู้อยู่จนบ่ายคล้อย แล้วก็เข้าไปเตร็ดเต็ดเตร่อยู่แถวริมน้ำโขงของเมืองเชียงคาน... ![]() มองจากฝั่งไทย เห็นท่าน้ำของเมืองสานะคาม หรือ ชนะคราม (ชนะสงคราม) ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ทางยุทธศาสตร์ สมัยราชอาณาจักรล้านช้าง ซึ่งตามตำนาน บอกว่าเมืองเชียงคามของไทย ก็เคยตั้งอยู่ที่บริเวณเมืองนี้ ก่อนจะอพยพโยกย้าย ข้ามมาอยู่ฝั่งไทย ตัวเมืองสานะคามจริงๆแล้ว ไม่ได้อยู่ตรงข้ามเมืองเชียงคามซะเลยทีเดียว แต่อยู่ห่างจากบริเวณท่าน้ำที่เห็น ลงไปทางใต้ราว 2-3 กิโลเมตร หรือแถวๆภูเขาที่เห็นในภาพ...
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 18-06-2012 เมื่อ 11:55 |
|
#5
|
||||
|
||||
|
พอตกตอนเย็นก็กลับไปนั่งเล่นบนห้องพัก ที่บ้านตาหน่วม ได้ทันเห็นนกกระยางบินจากฝั่งลาว กลับมานอนฝั่งไทยพอดี ![]() เวลาที่เชียงคานเดินช้าจริงๆค่ะ....เรานั่งเล่น นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนถึงยามเย็นย่ำสนธยา แล้วก็พากันไปหาอะไรอร่อยๆ เดินไปทานไปอยู่ที่ถนนคนเดินชายโขง.... ![]()
__________________
Saaychol |
|
#6
|
||||
|
||||
|
ภูเรือ เช้าวันใหม่...เราตื่นกันแต่เช้ามืด (อีกแล้ว) เพราะวันนี้เราจะไปเที่ยวกันไกลหน่อยค่ะ คือเราจะใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 201 สายเชียงคาน-เลย แล้วแยกไปเที่ยวภูเรือ โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 203 ส่วนขากลับ เราจะแวะเข้าไปเยี่ยมภูหลวงสักหน่อย แล้วค่อยขับรถวนกลับเชียงคานเป็นวงกลม โดยใช้เส้นทางภูหลวง-ท่าลี่ ซึ่งจะเลาะเรื่อยไปตามลำน้ำเหืองต่อกับลำน้ำโขง จนกลับถึงเชียงคาน ![]() ทางหลวง 201 เป็นถนนไฮเวย์ 4 เลนส์ ทำให้การเดินทางระยะทาง 40 กว่ากิโลเมตร จนถึงทางแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 203 เป็นไปอย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว เมื่อเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 203 ซึ่งแม้จะเป็นถนนสองเลนส์ที่รถวิ่งสวนกัน แต่ถนนก็ดีมากและสวยมาก เพียง 50 กิโลเมตร เราก็ถึงทางแยกเข้าภูเรือ เลี้ยวไปตามทางคดๆโค้งๆ ที่สองข้างทางเป็นรีสอร์ตสวยๆราว 3 กิโลเมตร เราก็ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ของที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเรือ...
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 30-06-2012 เมื่อ 16:56 |
|
#7
|
||||
|
||||
เราจะขึ้นยอดภูเรือ ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพียง 5 กิโลเมตรเองค่ะ...รถเริ่มไต่ไปตามถนนสองเลนลาดยางแคบๆ แต่จะมีเวิ้งให้รถหลบเข้าข้างทาง เพื่อจะให้รถสวนกันได้อยู่เป็นระยะๆ ยิ่งรถขึ้นไปสูงมากเท่าไร เราก็ยิ่งเห็นต้นสนสองใบและสามใบมากขึ้นเท่านั้น และอากาศเริ่มเย็นขึ้นๆ จนเราตัดสินใจปิดแอร์รถและเปิดหน้าต่างแทน เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์จากภายนอก.... ![]() เกือบถึงยอดภูเรือ...ก็เจอที่ราบมีป่าสนเป็นดงทึบ สลับกับร้านขายของและลานจอดรถ เราไปต่อไม่ได้ เพราะถูกต้อนให้เข้าไปจอดรถที่ลานใต้ต้นสน พอออกจากรถได้ เราก็ได้สัมผัสกับความหนาวเย็น เครื่องวัดอุณหภูมิในรถบอกว่าขณะนั้นอุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส เล่นเอาต้องหาถุงน่องรองเท้า เสื้อกันหนาว และผ้าพันคอออกมาใช้ เพื่อป้องกันความหนาวเย็นจากลมหนาว ที่พัดวีดหวิวมาต้องกาย ![]() จากนั้น...เราก็ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯต้อนอีกครั้ง ให้ไปขึ้นรถกระบะสองแถวที่ทางอุทยานฯ จัดหามาให้ เพื่อนั่งขึ้นไปยอดภูเรือ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้รถราขึ้นไปวิ่งกันขวั่กไขว่บนยอดภู อันจะทำให้สภาพแวดล้อม ที่สวยงามและบริสุทธิ์ของยอดภูเรือต้องเสียไป ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 21-06-2012 เมื่อ 00:43 |
![]() |
|
|