มิงกะลาบา...จากมัณฑะเลย์สู่เมืองเอกแห่งรัฐฉาน

[สายน้ำ]

เจดีย์พันองค์ ส่วย อิน ทัน (Shwe Inn Tain Pagoda)


ขึ้นเรือที่ท่าน้ำและเดินผ่านร้านค้าไปขึ้นรถสองแถวเพื่อขึ้นเขาไปยังลานจอดรถหน้าวัดเจดีย์พันองค์ แทนการเดินขึ้นทางบันไดหน้าวัด


เมื่อไปถึง เราแยกเป็น 2 กลุ่ม ส่วนใหญ่จะเดินเข้าไปชมเจดีย์และวัด ส่วนอีกกลุ่มเล็ก 5 คน ตามโกธงไปตะกายขึ้นยอดเขา เพื่อไปให้ถึงจุดชมวิว .... ทางขึ้นมี 2 ทาง แต่โกธงยืนยันว่ามีทางเดียว ซึ่งต้องตะกายป่ายปีนขึ้นไปพอหอมปากหอมคอ และตัวผมก็พลาดลื่นไถลจนได้แผลที่หัวเข่ามาเป็นของฝาก แต่เมื่อถึงยอดเขาและมองลงมาที่หมู่เจดีย์ หายเหนื่อยและหายเจ็บเป็นปลิดทิ้งในทันที

[สายน้ำ]

ลมเย็นสบาย วิวก็สวย...จากที่นี่ทองเห็นทะเลสาบอินเล และบริเวณโดยรอบได้อย่างชัดเจน

มีเหยี่ยวตัวหนึ่งบินมาเข้ากล้องพอดี

[สายน้ำ]

เจดีย์ส่วย อิน ทัน มีอายุกว่า 800 สร้างในราวศตวรรษที่ 17 มีทั้งเจดีย์เก่าและใหม่ ที่ได้บูรณะจากของเดิม เราผลัดกันสักการะเจดีย์สีทองบนยอดเขา และแยกย้ายกันไปเก็บภาพตามมุมของตัวเอง

ภาพนี้ น้องฉัตรช่วยเก็บภาพให้...เบื้องหลังคือทะเลสาบอินเล เขาสูงๆที่เห็น คือที่ตั้งของเมืองตองยี

[สายน้ำ]

ขาลงจากเขา....โกธงก็ยังยืนยันให้ลงทางเดิม แต่พอลงมาถึงพื้นก็พบว่า น้องกล้าเดินลงอีกทางซึ่งเป็นทางที่ทำใหม่ ไม่ต้องตะกายปีนป่ายเหมือนทางเก่าที่โกธงนำทางให้

ก่อนจะเดินเข้าไปสมทบกับคนอื่นๆ เราต้องเดินผ่านซากกำแพงเก่า และแนวเจดีย์หลากสีสัน

[สายน้ำ]

ด้านในกำแพงวัด มีหมู่เจดีย์สีทองอร่ามตั้งตระหง่านอยู่มากมาย....เหนือองค์เจดีย์ขึ้นไป มีเมฆสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ปกคลุมอยู่

[สายน้ำ]

เดินผ่านตัววัดออกไปทางด้านหน้า เพื่อลงบันไดไปด้านล่าง ยังมีแนวเจดีย์อีกมากมายเรียงรายกันอยู่ มีทั้งเจดีย์ใหม่ๆสีทองอร่าม คละอยู่กับเจดีย์เก่าๆที่ใกล้จะผุพัง

[สายน้ำ]

ศรัทธาอันแก่กล้าของชาวพม่า ดำรงคงอยู่ตั้งแต่ครั้งอดีตกาล ยืนยาวอย่างมั่นคงมาได้จนถึงปัจจุสมัย ช่างน่าเลื่อมใสจริงๆ