![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
พอมีที่ว่างให้เรือจอดแล้ว...พ่อคนขับเรือของเราจึงค่อยๆขยับเรือเข้าไปจอดเที่ยบท่าวัดแมวกระโดด...ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือไหนๆ เรามักเป็นเรือลำสุดท้ายที่เข้าเทียบท่า และเป็นลำสุดท้ายที่ออกจากท่าเสมอ... ![]() ![]() ![]() ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 27-11-2014 เมื่อ 22:43 |
|
#2
|
||||
|
||||
|
วัดแห่งนีมีศาลาไม้เก่าแก่อายุร้อยกว่าปีเพียงหลังเดียว ไม้ที่ใช้สร้างวัด เป็นไม้แผ่นใหญ่ๆ ที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบัน ส่วนที่วัดนี้ได้ชื่อว่า "วัดแมวกระโดด หรือ แมวลอดบ่สง" นั้น เป็นเพราะในอดีตวัดนี้มีแมวมาอาศัยอยู่มากมาย และเจ้าอาวาสที่วัดนี้ ก็สอนให้แมวกระโดดลอดห่วงให้นักท่องเที่ยวชม ปัจจุบันนี้ เหลือแมวไม่กี่ตัว (สายชลเห็นอยู่สามตัว) และไม่มีแมวมากระโดดให้เราชมแล้ว แต่ที่นี่กลับมีคุณค่ามาก ในแง่เป็นที่เก็บบุษบกไม้ที่ใช้ประดิษฐานพระพุทธรูป ที่มีอายุเก่าแก่ไว้เป็นจำนวนมาก และมีองค์พระพุทธรูปเก่าแก่ที่ล้วนงดงามทรงคุณค่าอย่างยิ่ง
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 06-12-2014 เมื่อ 10:40 |
|
#3
|
||||
|
||||
|
จากข้อมูลที่ค้นได้ พบว่า.... "บนศาลาของวัดแห่งนี้ มีพระพุทธรูปหลายขนาดเรียงรายอยู่รอบๆศาลา พุทธลักษณะสง่างาม ผอมบาง คิ้วโค้งเรียว อันเป็นลักษณะของพระพุทธรูปตามความเชื่อของคนในรัฐฉาน เรียกพุทธลักษณะอย่างนี้ว่า Jumpudirit Style ซึ่งมีลักษณะที่สำคัญคือ มีมงกุฎและสายคาดเอวที่อลังการด้านหน้าของพระพุทธรูป อันมีเรื่องเล่าว่าพระพุทธเจ้าได้แสดงให้กษัตริย์ Jumpudirit ตระหนักว่าเครื่องนุ่งหามที่อลังการเป็นเพียงสิ่งลวงตาเท่านั้น ชนชาวฉาน มีชื่อเสียงในการทำเครื่องเขินด้วยไม้ รวมถึงการสร้างพระพุทธรูปด้วย พระพุทธรูปของรัฐนี้ไม่ว่าจะใหญ่โตแค่ไหนจึงมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่าพระพุทธรูปสำริดแบบที่เราเห็นทั่วไป" หมายเหต: ข้อมูลจาก http://www.bloggang.com/viewblog.php...oup=71&gblog=9
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 27-11-2014 เมื่อ 22:45 |
|
#4
|
||||
|
||||
|
เสียดายที่ในตัววัดแมวกระโดดมืดมาก เพราะเปิดไฟไว้ไม่กี่ดวง จึงเป็นการยากที่จะถ่ายภาพมาก เราเดินชมอยู่ได้ไม่นานนัก ก็ออกมายืนพูดคุยกันอยู่ที่ระเบียงหน้าวัด ![]() คุณผู้หญิงท่านนี้ คงเหนื่อยและเพลียอย่างหนัก เลยนอนหลับสบายอยู่ในเรือ ไม่สนใจจะขึ้นไปชมวัด หรือผู้คนที่ยืนกันอยู่ดูบนระเบียงวัด และกำลังมองเธอด้วยความอิจฉา ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 27-11-2014 เมื่อ 22:46 |
|
#5
|
||||
|
||||
|
ที่ระเบียงวัดแมวกระโดด เราเห็นสวนมะเขือเทศลอยน้ำ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้ แต่ก็ไม่ชัดเจนนัก เพราะมีไม้ลักษณะเหมือนรั้วกั้นอยู่ เราอยากจะเข้าไปเดินดูใกล้ๆ แต่ตะวันใกล้จะลับขอบฟ้า....เวลาหมด หมดเวลา เราจะต้องกลับเข้าฝั่งกันแล้วค่ะ
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 27-11-2014 เมื่อ 22:49 |
|
#6
|
||||
|
||||
|
หลังออกจากวัดแมวกระโดด.... เรือพาเราแล่นกลับไปที่ท่าเรือ ระหว่างทาง เราผ่านกลุ่มเรือของชาวประมงของแท้ ที่เมื่อเช้าช่วยกันวางตาข่ายจับปลาขวางทางน้ำอยู่อย่างขมักเขม้น เมื่อเราผ่านมาอีกครั้งในยามเย็น ชาวประมงเหล่านั้น ก็ยังลอยเรืออยู่ที่เดิม แต่ครั้งนี้ พวกเขาง่วนอยู่กับการใช้ไม้พายฟาดน้ำโครมๆจนน้ำกระจาย อยู่บนเรือที่กระจายเป็นหน้ากระดานสับหว่างกันสองแถว โดยหันหัวเรือไปทางตาข่ายที่เขาขึงขวางทางน้ำอยู่ น้องอาร์ตเล่าว่า...พวกชาวประมงกำลังใช้พายฟาดน้ำ เพื่อให้เกิดเสียงดัง ปลาตกใจก็จะพากันว่ายไปติดตาข่ายที่เขาขึงขวางไว้ เป็นการหาปลาที่ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีมาแต่ครั้งโบราณกาลจริงๆ
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 29-11-2014 เมื่อ 13:21 |
|
#7
|
||||
|
||||
|
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 29-11-2014 เมื่อ 13:22 |
![]() |
|
|