เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 06-01-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Greennews


เร่งล้อมคอกกันขโมยไข่เต่ามะเฟือง หลังพบไข่เต่ากว่าร้อยฟองถูกขโมยที่พังงา

รังเต่ามะเฟืองรังที่สามของฤดูกาลไม่รอดมือขโมย หลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี -หาดท้ายเหมือง จ.พังงา พบร่องรอยเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่บนหาดท้ายเหมือง แต่โชคร้ายถูกมือดีพบรังก่อน และลอบขโมยไข่เต่ามะเฟืองเกือบยกรัง ทิ้งไข่ลมไว้ให้ดูต่างหน้าเพียง 2 ฟอง ด้านเจ้าหน้าที่ระบุ เตรียมประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ? หน่วยงานท้องถิ่น ประกาศพื้นที่เป็นเขตควบคุม ห้ามคนผ่านเข้าออก กันก่อเหตุขโมยไข่เต่าซ้ำ

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา หฤษฎ์ชัย ฤทธิช่วย เปิดเผยว่า เมื่อเวลาเช้ามืดของวันที่ 4 มกราคม ชุดเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติร่วมกับเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จ.ภูเก็ต ออกลาดตระเวนพบร่องรอยเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่บนหาดท้ายเหมือง คาดว่าแม่เต่าขึ้นมาวางไข่ประมาณเที่ยงคืน ตรวจวัดขนาดของรอย ความกว้างของพายซ้ายถึงพายขวา 155 ซม อก 50 ซม. ไม่พบแม่เต่า



สภาพรังเต่ามะเฟืองรังที่ 3 ของฤดูกาล หลังจากถูกมือดีลอบขุดขโมยไข่ไป เหลือทิ้งไว้เพียงไข่ลม 2 ฟอง //ขอบคุณภาพจาก: Thon Thamrongnawasawat
อย่างไรก็ดี เมื่อเจ้าหน้าที่ขุดหาไข่ กลับพบเพียงไข่ลมถูกทิ้งไว้เพียง 2 ฟอง คาดว่าไข่เต่าส่วนใหญ่ถูกขโมยไปแล้ว จึงรวบรวมข้อมูลหลักฐานแวดล้อมเพื่อแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนต่อไป

ปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่ 2 จ.ภูเก็ต กล่าวว่า จากการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบร่องรอยล้อรถมอเตอร์ไซค์ขี่เข้าออกพื้นที่โดยไม่ผ่านด่านตรวจของอุทยานแห่งชาติ สอดคล้องกับหลักฐานกล้องวงจรปิด คาดว่าน่าจะเป็นผู้ที่ผ่านเข้าออกมาตกปลาในพื้นที่เป็นผู้ค้นพบรังเต่ามะเฟืองก่อนเจ้าหน้าที่ และขโมยไข่เต่าไป

"เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สอบปากคำชาวบ้านในพื้นที่แล้ว แต่จากการตรวจสอบไม่พบหลักฐานของกลาง และสิ่งชี้พิรุธ อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งต่อให้กับพนักงานสืบสวนต่อไป" ปรารพ กล่าว

เขากล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนหลักของภารกิจคุ้มครองรังเต่ามะเฟืองของเจ้าหน้าที่ นั่นก็คือการควบคุมการผ่านเข้าออกที่พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เพราะว่าเขตอุทยานประกาศเฉพาะพื้นที่ชายหาด และป่าชายหาดบนฝั่งเท่านั้น แต่ไม่ได้ควบรวมพื้นที่ในทะเลด้วย ดังนั้นบุคคลทั่วไปจึงสามารถผ่านเข้าออกพื้นที่ทางเรือได้ และสามารถนำรถมอเตอร์ไซค์มาวิ่งได้ตลอดแนวชายฝั่งโดยไม่ต้องผ่านด่านตรวจของเจ้าหน้าที่อุทยาน



เต่ามะเฟือง เต่ายักษ์ใหญ่แห่งทะเลอันดามัน จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน มีลำตัวยาวได้ถึง 2.5 เมตร น้ำหนักสูงสุดประมาณ 1 ตัน กระดองเป็นหนังหุ้ม ไม่แข็งเหมือนเต่าชนิดอื่น วางไข่บนหาดทรายครั้งละประมาณ 100 ฟองต่อรัง ใช้เวลาฟักเป็นตัวประมาณ 60 วัน //ขอบคุณข้อมูลจาก: กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังมีรอบเวลาในการออกลาดตระเวนที่ชัดเจน 2 ช่วง คือช่วงหัวค่ำ และช่วงเช้ามืด เปิดช่องให้ผู้ที่ไม่ประสงค์ดีออกปฏิบัติการได้ในช่วงกลางดึก ดังนั้นเขาจึงกล่าวว่า ภายหลังจากนี้ อุทยานแห่งชาติฯจะขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองในท้องที่มาช่วยลาดตระเวนพื้นที่ ตลอดจนออกประกาศพื้นที่หาดท้ายเหมืองในเป็นพื้นที่ควบคุม เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกผ่านเข้าออกโดยไม่ได้รับอนุญาต ตลอดช่วงฤดูวางไข่ของเต่ามะเฟืองจนถึงเดือนกุมภาพันธ์นี้

"แม้ว่าเราจะมีการแจกรางวัลให้กับผู้พบเห็นรังเต่ามะเฟืองแล้วมาแจ้งเจ้าหน้าที่ถึงรางวัลละ 20,000 บาท แต่จากเหตุการณ์นี้กลับพบว่ามีการให้ราคาไข่เต่ามะเฟืองในตลาดมืดในราคาที่สูงกว่ามาก จนสร้างแรงจูงใจให้มีผู้ลักลอบขโมยไข่เต่ามะเฟืองไปขายในตลาดมืด เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคที่ยังมีความเชื่ออย่างผิดๆว่าการกินไข่มะเฟืองจะช่วยบำรุงสุขภาพทางเพศ" ปรารพ กล่าว

"เป็นที่น่าเสียดายยิ่งที่แทนที่ฤดูกาลนี้เราจะมีเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ถึง 3 รัง จากเดิมที่ไม่เคยมีเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ในไทยมานานหลายปี แต่จากความเชื่อผิดๆดังกล่าวทำให้ลูกเต่ามะเฟืองที่กำลังใกล้สูญพันธุ์กว่า 100 ตัว ไม่มีโอกาสเกิดมาดูโลก"

เขาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ทางเจ้าหน้าที่พร้อมให้รางวัลทันที 30,000 บาท หากผู้ใดมีเบาะแสที่สามารถชี้ตัวไปถึงผู้บงการ และสามารถยึดคืนไข่เต่าของกลางได้


ซากแม่เต่ามะเฟืองที่เกาะพระทอง จ.พังงา //ขอบคุณภาพจาก: Kongkiat Kittiwatanawong

ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ให้ข้อมูลว่า ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบแม่เต่ามะเฟืองเสียชีวิตที่เกาะพระทอง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จากการชันสูตรเบื้องต้นพบเป็นเต่าเพศเมีย ตายมามากกว่า 5 วัน ไม่พบไข่ภายในช่องท้อง อวัยวะภายในย่อยสลายจนไม่สามารถเห็นรอยโรค ภายนอกลำตัวมีเชือกลอบขนาดเล็กเกี่ยวพันรอบตัวซึ่งคาดว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิต

"การสูญเสียแม่เต่ามะเฟืองแต่ละตัว ทำให้เราสูญเสียโอกาสการมีลูกเต่ามะเฟืองกำเนิดใหม่ กว่า 15,000 ตัว" ก้องเกียรติ กล่าว

อนึ่ง เต่ามะเฟืองได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วให้เป็นสัตว์สงวนของไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2562 ดังนั้นการขโมย จำหน่าย หรือครอบครองไข่เต่า ถือว่าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า โดยมีโทษสูงถึงติดคุก 3 -15 ปี หรือปรับ 300,000 ? 1.5 ล้านบาท


https://greennews.agency/?p=19969
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 06-01-2020 เมื่อ 05:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 06-01-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Greennews


10 ประเด็นเด่นสิ่งแวดล้อมไทยในรอบปี 2562 (ตอนที่ 1: น้ำโขงวิกฤต) ................... โดย ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ


ดร.ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ กำลังเดินสำรวจป่าไคร้ที่แห้งตายเพราะความผันผวนรุนแรงของระดับน้ำในแม่น้ำโขง //ขอบคุณภาพจาก: Chainarong Setthachua

กลางเดือนกรกฎาคม แม้จะเข้าสู่กลางฤดูฝน แต่ภาพของแม่น้ำโขงที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อแขนงต่างๆ รวมทั้งโซเชียลมีเดียได้สร้างความตกตะลึงให้กับสังคม เพราะน้ำโขงแห้งราวกับเดือนเมษายน ปลาและสัตว์น้ำต่างๆ ตายเป็นจำนวนมาก ชุมชนเมืองหลายแห่งต้องขาดน้ำดิบสำหรับทำน้ำประปา วิกฤตครั้งนี้ภาพและเรื่องราวแม่น้ำโขงวิกฤตยังถูกนำเสนอโดยสื่อต่างประเทศทั่วโลก ขณะที่เขื่อนไซยะบุรี เขื่อนไทยสัญชาติลาวประกาศกักเก็บน้ำและทดลองเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า

กลางเดือนตุลาคม ภาพแม่น้ำโขงวิบัติรอบที่สองถูกเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ อีกครั้ง คราวนี้นอกจากเห็นน้ำโขงแห้ง สัตว์น้ำตายเกลื่อนแล้ว ยังเห็นภาพต้นไคร้ที่ถือว่าเป็นแมวเก้าชีวิตยืนต้นแห้งตาย ทั้งที่ปกติแล้วช่วงนี้น้ำโขงจะท่วมต้นไคร้และเต็มฝั่งโขง

น้ำโขงที่แห้งขอดทำให้ชาวบ้านสองฝั่งโขงบางหมู่บ้านไม่สามารถซ้อมเรือยาวเพื่อร่วมงานบุญส่วงเฮือได้ ขณะที่น้ำในแม่น้ำโขงเริ่มใสราวกระจกและสะท้อนท้องฟ้าเป็นสีคราม

ตลอดเวลาในช่วงนี้ มีรายงานจากหลายพื้นที่ทั้งจากกัมพูชา ลาวใต้ มาจนถึงชายแดนไทย-ลาว ว่าปลาหลายชนิดอพยพผิดฤดูกาล ขณะที่นักวิชาการประมงเตือนว่าปลาถูกกระตุ้นให้อพยพผิดฤดูกาลจากการกระตุ้นของมนุษย์ (การสร้างเขื่อน) เพื่ออพยพขึ้นไปวางไข่ในแม่น้ำโขงตอนบนทั้งที่ไข่ในท้องของปลายังไม่พร้อมผสมพันธุ์ และปรากฏการณ์นี้จะทำให้ปลาหลายชนิดในแม่น้ำโขงสูญพันธุ์ในที่สุด

นอกจากนั้น ยังเกิดปรากฎการณ์น้ำสาขาไหลลงแม่น้ำโขงอย่างรวดเร็ว ชุมชนหลายแห่งที่ตั้งริมน้ำสาขาของแม่น้ำโขงในลาวขาดแคลนน้ำสำหรับทำประปา ขณะที่แถบจังหวัดนครพนม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องนำรถไปขุดบ่อกลางแม่น้ำโขง

29 ตุลาคม เขื่อนไซยะบุรีเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งระบบและส่งไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ขณะที่ชุมชนสองฝั่งโขงในไทยได้รวมตัวกันเคลื่อนไหววิพากษ์วิจารณ์เขื่อนอย่างรุนแรง

ท่ามกลางวิกฤตแม่น้ำโขง ช.การช่างเจ้าของหุ้นใหญ่เขื่อนไซยะบุรีลงทุนซื้อโฆษณาสื่อใหญ่ในประเทศเพื่อบอกว่าเขื่อนไซยะบุรีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการเชิญสื่อมวลชนไปชมเขื่อนไซยะบุรี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาของไทยได้ไปเยือนเขื่อนไซยะบุรีเป็นการส่วนตัว

กลางเดือนพฤศจิกายน ภาพวิกฤติแม่น้ำโขงถูกนำเสนอผ่านสื่ออีกรอบ คราวนี้เป็นข่าวเกี่ยวกับแม่น้ำโขงเปลี่ยนสีเป็นสีครามเข้ม นักท่องเที่ยวจำนวนมากตื่นตาตื่นใจอยากชมแม่น้ำโขงเปลี่ยนสี ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านระบุว่า การที่น้ำโขงใสทำให้จับปลาไม่ได้เลย

การที่แม่น้ำโขงเปลี่ยนสี ต่อมาก็ได้รับการอธิบายว่าแท้จริงแล้วน้ำโขงใสแจ๋วราวกระจก และสะท้อนสีของท้องฟ้าที่เข้มเป็นสีคราม ปรากฏการณ์ดังกล่าวเรียกว่า "ภาวะไร้ตะกอน" หรือ "hungry water" และจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อระบบนิเวศน์แม่น้ำโขง รวมถึงการสร้างปัญหาตลิ่งพังทลาย

นักวิชาการได้เตือนว่าวิกฤตแม่น้ำโขงวิกฤตรอบนี้คือภัยพิบัติทางสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และกระทบต่อผู้คนกว่า 70 ล้านคนในอนุภูมิภาคนี้

แม้น้ำโขงวิกฤตหนักจากเขื่อนไซยะบุรี แต่นักสร้างเขื่อนที่เป็นนักลงทุนไทยและเวียดนามก็ร่วมมือกันผลักดันโครงการเขื่อนหลวงพระบางที่จะสร้างเหนือเขื่อนไซยะบุรีขึ้นไป

ขณะที่คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงหรือ MRC กลับอธิบายว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่เป็นปรากฏการณ์เอลนินโญ

ในประเทศไทย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติกล่าวถึงแต่เขื่อนจีน แต่ไม่เคยกล่าวถึงผลกระทบจากเขื่อนไซยะบุรี ไม่มีการแจ้งระดับน้ำรายวันและคาดการณ์ล่วงหน้าเหมือนในกัมพูชา ที่สำคัญกลับผลักดันโครงการผันน้ำโขง-เลย-ชี-มูล ขณะที่บรรดานักการเมืองของไทยก็ผลักดันการผันน้ำโขงทั้งผันลงอีสานและเขื่อนป่าสัก

วิกฤตแม่น้ำโขงจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง และจะเป็นสนามรบด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญในปี 2563 นี้ด้วย


https://greennews.agency/?p=19975

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:23


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger