![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
"โควิด-19" ช่วยธรรมชาติฟื้นตัว นากทะเลโผล่เล่นน้ำหาดในหาน ภูเก็ต - ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี โควิด-19 ช่วยธรรมชาติฟื้นตัว สุดทึ่ ! นากทะเลโผล่เล่นน้ำ หลังปิดหาดในหาน จ.ภูเก็ต ธรรมชาติได้หยุดพักหลังถูกทำลายมายาวนาน https://mgronline.com/news-clips/dopcLf7e5sE ********************************************************************************************************************************************************* นับถือใจ "โตโน่" ทุ่มสุดตัว ว่ายน้ำข้าม 12 เกาะ สุราษฎร์-สมุย เพื่อทะเลไทย "โครงการ ONE MAN & THE SEA หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย" ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการดี ๆ ที่ต้องการปลุกจิตสำนึกให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญของระบบนิเวศทางทะเล ลงมือช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ที่นำทีมโดย "โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์" กับภารกิจว่ายน้ำข้าม 12 เกาะ สุราษฎร์ธานี-สมุย รวมระยะทาง 82 กม. ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. - 5 เม.ย. 63 โดยระหว่างว่ายน้ำได้เปิดให้ผู้สนใจร่วมบริจาคเพื่อสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์และเครื่องมือแพทย์ให้แก่สัตว์ทะเลและโรงพยาบาลริมชายฝั่ง หลังหนุ่ม "โตโน่-ภาคิน" ทำดีที่สุดแล้ว พิชิตได้ถึงเกาะที่ 9 ก่อนจำเป็นต้องยกเลิกภารกิจชั่วคราว หลังมีประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ขอบคุณน้ำใจคนไทยที่ร่วมบริจาคมากกว่า 2.4 ล้าน เชื่อคงได้พบกันใหม่ https://mgronline.com/travel/detail/9630000032901 ********************************************************************************************************************************************************* ราว "ธานอส" ดีดนิ้ว...ผลพวงมนุษย์เก็บตัวหนีโควิดฯ ทะเลอินเดียสะอาดขึ้น เต่าหญ้าเกือบครึ่งแสนขึ้นวางไข่รอบ 2 ![]() ไม่เพียงแค่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เท่านั้น หากแต่การเก็บกักตัวอยู่กับบ้านของผู้คนหลาย ๆ ประเทศในช่วงนี้ยังถือเป็นการเยียวยาธรรมชาติไปในตัวอีกด้วย ก่อนหน้านี้สื่อต่างประเทศหลายๆ เจ้า อาทิ รอยเตอร์, ซีเอ็นบีซี ฯลฯ ได้รายงานถึงสภาพน้ำในคลองเมืองเวณิส ที่กลับมาใสสะอาดขึ้น ภายหลังจากที่อิตาลีได้ออกมาตรการปิดเมืองและขอให้ผู้คนอยู่กับบ้าน ล่าสุดสื่ออินเดียได้รายงานว่า ตอนนี้ชายหาด ของรัฐ Odisha ไม่ว่าจะเป็น Gahirmatha และ Rushikulya ได้มีเต่าหญ้าทะเล Olive Ridley พากันขึ้นมาวางไข่ครั้งที่สองกันหลายหมื่นตัว ตามรายงานระบุว่าปีที่ผ่านมา เต่าหญ้าทะเล Olive Ridley แทบจะไม่กลับขึ้นมาวางไข่ครั้งที่สองเลย เนื่องมาจากชายหาดที่ากปรกและการรบกวนจากนักท่องเที่ยว กระทั่งในปีนี้การแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้คนอินเดียเก็บตัวอยู่กับบ้าน ชายหาดหลายแห่งมีเวลาฟื้นตัวจนสะอาดกระทั่งบรรดาเต่าพากันขึ้นมาวางไข่รอบสอง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อุทยานระบุว่าเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา มีเต่าประมาณ 72,142 ตัวที่ขึ้นมาวางไข่บนชายฝั่งของอิเดีย ซึ่งเฉพาะที่ Rushikulya ที่เดียวน่าจะมีเต่าอย่างน้อย 475,000 ตัวมาวางไข่เป็นจำนวนกว่า 60 ล้านฟองเลยทีเดียว โดยระยะฟักตัวของเต่าหญ้านั้นจะอยู่ที่ 45 วันซึ่ง ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ทางเจ้าหน้าที่จะจัดเวรยาม อาสาสมัครเพื่อเฝ้าระวังไข่เต่าจากทั้งสุนัขและเรือเพื่อให้การฟักตัวผ่านไปด้วยดี สำหรับเต่า Olive Ridley ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ พบได้ในเขตน้ำอุ่นบริเวณมหาสมุทรอินเดีย แปซิฟิก และเซาท์แอตแลนติก มีขนาดตัวอยู่ที่ 0.6-0.8 เมตร และมีน้ำหนักสูงถึง 45 -50 กิโลกรัม โดยเฉลี่ยจะมีอายุประมาณ 50 ปี https://mgronline.com/entertainment/.../9630000033114
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 01-04-2020 เมื่อ 03:52 |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก BBCThai
ช่องโหว่ชั้นโอโซนฟื้นตัว ปิดแคบลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลเปลี่ยนทิศทางลมกระแสหลักของโลกกลับเป็นปกติ ![]() Image copyrightGETTY IMAGES ท่ามกลางข่าวร้ายเรื่องโรคระบาดที่กำลังถาโถมเข้ามา ยังมีข่าวดีด้านสิ่งแวดล้อมอยู่บ้าง โดยมีรายงานว่าช่องโหว่ในชั้นโอโซนของบรรยากาศโลกยังคงมีแนวโน้มจะปิดแคบลงเรื่อย ๆ และมีการฟื้นคืนสภาพมากพอ จนเริ่มส่งผลดีต่อระบบภูมิอากาศของโลกโดยรวม ผลการศึกษาของทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติจากแคนาดา สหรัฐฯ และออสเตรเลีย ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature พบว่าการหนาตัวขึ้นของชั้นโอโซนที่เคยได้รับความเสียหาย ทำให้กระแสลมกรดซีกโลกใต้ (Southern Jet Stream) พัดกลับคืนสู่ทิศทางที่ควรจะเป็น จนหลายภูมิภาคในซีกโลกใต้ไม่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศรุนแรงบ่อยครั้งเหมือนเดิม ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยที่พบว่า ช่องโหว่ในชั้นโอโซนส่งผลรบกวนต่อสภาพอากาศโดยรวมของโลกได้ โดยการใช้สารเคมีจำพวกคลอโรฟลูโอโรคาร์บอน (ซีเอฟซี) ซึ่งมักใช้เป็นสารทำความเย็นและใช้ในการผลิตสเปรย์ต่าง ๆ เป็นตัวการทำลายชั้นโอโซนให้บางลง อย่างไรก็ตาม พิธีสารมอนทรีออลที่นานาประเทศลงนามเมื่อปี 1987 ได้จำกัดการใช้สารซีเอฟซีอย่างได้ผล ทำให้ช่องโหว่ของชั้นโอโซนขนาดมหึมาเหนือขั้วโลกใต้เริ่มหดแคบลง โดยภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อเดือนก.ย.ของปีที่แล้ว ชี้ให้เห็นว่าช่องโหว่ดังกล่าวมีขนาดลดลงมาอยู่ที่ 16.4 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นขนาดเล็กที่สุดนับแต่ปี 1982 ดร. อันทารา บาเนอร์จี ผู้นำทีมวิจัยจากองค์การบริหารงานด้านมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือโนอา (NOAA) บอกว่าก่อนช่วงปี ค.ศ. 2000 กระแสลมกรดซีกโลกใต้ ซึ่งเป็นลมพัดเร็วกระแสหลักสายหนึ่งของระบบไหลเวียนในบรรยากาศโลก ได้เริ่มเบี่ยงทิศทางลงมายังด้านทิศใต้มากขึ้น โดยมีความเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยที่ราว 1 องศาละติจูดในทุก 10 ปี ทำให้หลายพื้นที่ในซีกโลกใต้ต้องพบกับสภาพภูมิอากาศแปรปรวน ![]() Image copyrightAFP แต่หลังจากเริ่มต้นสหัสวรรษใหม่เป็นต้นมา ทีมผู้วิจัยพบว่ากระแสลมกรดซีกโลกใต้หยุดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะดังกล่าว และเริ่มพัดกลับไปในทิศทางเดิม ทำให้คาดการณ์ได้ว่าออสเตรเลียจะไม่ต้องเผชิญกับภัยแล้งที่รุนแรงมากเท่ากับที่ผ่านมา เนื่องจากกระแสลมกรดซีกโลกใต้จะไม่ผลักเอาพายุฝนออกไปห่างชายฝั่งอีกต่อไป ส่วนประเทศแถบอเมริกาใต้ตอนกลาง เช่นปารากวัย อุรุกวัย บราซิลตอนใต้ และอาร์เจนตินาตอนเหนือ อาจมีปริมาณฝนลดลง แต่ภูมิภาคแถบพาตาโกเนียอย่างชิลีและอาร์เจนตินาตอนใต้จะมีฝนตกมากขึ้น และจะมีระดับความเข้มของรังสีอัลตราไวโอเลตที่เป็นอันตรายลดลงด้วย "แต่ข่าวดีนี้อาจยังไม่ดีพอ หากเรายังไม่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะไปบั่นทอนผลดีที่เกิดจากการฟื้นฟูชั้นโอโซนให้ลดลง นอกจากนี้ เรายังคงไม่ทราบว่าชั้นโอโซนที่หนาตัวขึ้น จะช่วยชะลอการละลายของธารน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาได้ด้วยหรือไม่" ดร. บาเนอร์จีกล่าว https://www.bbc.com/thai/international-52068333
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
|
|