![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
หนุ่มไลฟ์โชว์ โลมาปากขวดฝูงใหญ่ ว่ายหยอกล้อทะเลบ้านกรูด ![]() วันที่ 9 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอิทธิพัทธ์ เนียมทัต อายุ 22 ปีชาวประมงบ้านกรูด ได้เฟซบุ๊กไลฟ์โชว์ให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของท้องทะเลบ้านกรูด ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะวิ่งเรืออยู่กลางทะเลพบฝูงโลมาปากขวดฝูงใหญ่ ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก กว่า 30 ตัว ว่ายน้ำแข่งเคียงข้างเรือประมงอยู่นาน นายอิทธิพัทธ์ เปิดเผยว่า วันนี้ท้องฟ้าโปร่งใสคลื่นลมสงบมาก ขณะนำเรือออกทะเลเพื่อไปกู้อวนปลา ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลบ้านกรูดกับอ่าวบ่อทองหลาง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 5 ไมล์ทะเล ระดับน้ำลึกประมาณ 30 เมตร ระหว่างที่กำลังขับเรือกลับเข้าชายฝั่งที่หาดบ้านกรูด พบเห็นฝูงโลขนาดใหญ่ ประเมินด้วยสายตาและพยายามนับดูแล้ว น่าจะมีไม่น้อยกว่า 30 ตัว ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ น่าจะมากันเป็นครอบครัวใหญ่ และพบว่าในฝูงดังกล่าวมีโลมาสีชมพูรวมอยู่ด้วย โดยว่ายกระโดดโต้คลื่นทะเล และเมื่อเรือประมงเข้าใกล้ ปรากฎว่า ฝูงโลมาต่างตามว่ายหยอกล้ออยู่แถวข้างเรือทำให้สามารถถ่ายคลิปวีดีโอเห็นโลมาขนาดใหญ่ได้เห็นอย่างชัดเจน เมื่อนั่งข้างเรือและห้อยเท้าไปข้างนอกเรือรู้สึกเหมือนได้ขี่หลังโลมาเลยที่เดียวเพราะใกล้มาก ซึ่งเมื่อเห็นว่าโลมาเข้าใกล้เรือ ได้ชะลอเรือให้แล่นช้าลงเพื่อความปลอดภัยของฝูงโลมา ตนเองและลูกเรือประมางอีก 4 คนที่อยู่บนเรือได้เห็นฝูงโลมาว่ายน้ำเคียงข้างเรืออยู่นานกว่า 20 นาที วันนี้รู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นอย่างใกล้ชิด ซึ่งปกติก็มักจะเห็นบ่อยๆแต่ว่ายอยู่ไกลๆ ไม่เคยได้ใกล้ชิดขนาดนี้ และไม่เคยเจอรวมฝูงใหญ่มากขนาดนี้มาก่อน โดยฝูงโลมาทั้งหมดได้ว่ายน้ำมุ่งหน้าไปทางอ่าวประจวบคีรีขันธ์ ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็พบวาฬบรูด้า 1 ตัวว่ายน้ำหากินที่ท้องทะเลบ้านกรูดน้ำ ความยาวประมาณ 10 กว่าเมตรได้ โดยเชื่อว่าเพราะทะเลมีความอุดมสมบูรณ์ ทุกคนหันมาช่วยกันดูแลอนุรักษ์ฯกันมากขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลกันต่อไป ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ภายหลังได้รับแจ้งจากชาวประมงบ้านกรูด ว่าพบโลมาฝูงใหญ่ รู้สึกดีใจมาก เมื่อตรวจสอบตามคลิปวีดีโอและภาพถ่ายที่ส่งมานั้น ชี้ว่า โลมาฝูงดังกล่าวคือ โลมาปากขวด ซึ่งโลมาปากขวดนั้นเมื่อโตเต็มที่ จะมีความยาวถึง 2.7 เมตร น้ำหนัก 230 กิโลกรัม ลูกแรกเกิดขนาดประมาณ 1 เมตร โลมาปากขวดมีลำตัวอ้วน โหนกหัวกลมมน จะงอยปากค่อนข้างสั้นและใหญ่ ครีบข้างเรียวยาว ครีบหลังค่อนข้างใหญ่และโค้ง อยู่กึ่งกลางหลัง ลำตัวสีเทา ท้องสีขาวอมชมพู มีแถบสีดำพาดจากหลังดวงตาถึงครีบข้าง เมื่อโตเต็มวัยมีจุดสีเทาเข้มประปรายตามข้างลำตัวและท้อง โลมาปากขวดเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 12 ปี ตั้งท้องนาน 12 เดือน ออกลูกทุก 4-6 ปี ลูกจะกินนมแม่นานประมาณ 1.5-2 ปี โดยโลมาปากขวดมีอายุยืนมากกว่า 40 ปี ในประเทศไทยมีจำนวนประชากรรวมประมาณ 185 ตัว พบได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยฝั่งอ่าวไทยพบมากที่จังหวัดตราด ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช และสงขลา ส่วนฝั่งทะเลอันดามันพบมากที่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และตรัง อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การพบฝูงโลมาฝูงใหญ่นี้ เป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล ผลจากชาวประมงช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ ทำให้วันนี้เราจะพบเห็นสัตว์ทะเลชนิดต่างๆได้มากขึ้น ไม่ว่าการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล วาฬบรูด้า และฝูงโลมาตามท้องทะเลทั้งฝั่งอันดามัน และฝั่งอ่าวไทย อย่างไรก็ตามหากพี่น้องชาวประมงพบเห็นฝูงโลมาว่ายน้ำใกล้เรือประมง ขอให้ชะลอความเร็วของเรือและระวังเรื่องใบพัดเรือ เพื่อความปลอดภัยของฝูงโลมาด้วย https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_3920430
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
เศร้า! พบซาก 'เต่าตนุ' ขนาดใหญ่เกยตื้นหาดระยอง ![]() 9 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่จากสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ระยอง เข้าตรวจสอบซากเต่าตนุตายเกยตื้นบริเวณชายหาดทะเลระยอง ใกล้กับกลุ่มประมงพื้นบ้านปลวกเกตุ ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง หลังจากได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้าน ว่ามีเต่าตนุขนาดใหญ่ตายเกยตื้นชายหาดดังกล่าว ตรวจสอบพบว่า เต่าตนุตัวดังกล่าว เป็นเต่าตนุเพศเมีย อายุประมาณ 10 ปี วัดลำตัวยาวกว่า 1 เมตร ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการผ่าซากเต่าตนุตัวดังกล่าว เพื่อตรวจหาสาเหตุการตาย พบว่า ภายในกระเพาะของเต่ามีเศษหญ้าและเศษอาหารรวมทั้งเม็ดทราย แต่ไม่พบมีเศษถุงพลาสติกอยู่ในกระเพาะแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังพบว่าปอดของเต่าอักเสบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บอวัยวะภายใน ซากกระดองเต่า รวมทั้งเศษอาหารที่พบในกระเพาะไปตรวจสอบหาสาเหตุการตายของเต่าตัวนี้อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ นางสาว อรณี จงกลแพทย์ สัตวแพทย์ของสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ระยอง เผยว่า เบื้องต้นนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายของเต่าตัวนี้ได้ พบเพียงว่าบริเวณปอดของเต่ามีการอักเสบ และจากการตรวจสอบยังพบว่าเต่าตนุตัวนี้มีหมายเลข 111 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหมายเลขประจำตัวของเต่าแต่ไม่พบมีการฝังชิบติดตัวเอาไว้แต่อย่างใด https://www.naewna.com/likesara/485272
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
|
|