เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #2  
เก่า 26-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ห่วงโลมาเผือกชายฝั่งฮ่องกงสูญหายเกือบหมด



บทความสารคดีของเว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซีเผยแพร่เรื่องราวความห่วงใยของผู้คนต่อสถานการณ์การพบเห็น "โลมาเผือก" หรือโลมาสีชมพู ตามพื้นที่ชายฝั่งเกาะฮ่องกง โดยเฉพาะบริเวณใกล้สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ "เช็ค แลป ก็อก" ซึ่งเคยถูกพบเห็นและนับได้มากราว 250 ตัว เมื่อช่วงทศวรรษ 1990 กระทั่งเมื่อช่วงปี 2560 มีความพยายามนับฝูงโลมาเผือกอีกครั้ง แต่นับได้เพียง 32 ตัว หรือลดลงมากถึงกว่า 32 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงปี 2560-2561

สาเหตุที่ทำให้ฝูงโลมาเผือกตามพื้นที่ชายฝั่งฮ่องกงลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วนั้น เหล่านักวิทยาศาสตร์ทางทะเลและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชี้ว่า เพราะหลายปัจจัยตั้งแต่การพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเล รวมถึงการถมทะเลสร้างสนามบินและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ อย่างรวดเร็ว ปัญหาการจราจรคับคั่งทางทะเล รวมถึงการท่องเที่ยว ปัญหามลภาวะทางน้ำและปัญหาด้านการประมง เพราะชาวประมงไม่ชอบ

ตัวอย่างของปัญหา อาทิ การจราจรทางน้ำคับคั่งบริเวณชายฝั่งฮ่องกงเกือบตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้หลายครั้งพบเห็นโลมาถูกใบพัดเรือพัดตายซากลอยน้ำ อีกทั้งแผนพัฒนาสร้างสะพานและเครือข่ายถนนเชื่อมโยงจุดต่างๆ ล้วนส่งผลกระทบถึงวิถีชีวิตของฝูงโลมาบริเวณนั้น ขณะที่ธุรกิจการล่องเรือเที่ยวชมฝูงโลมาก็ได้รับความนิยมอย่างมากตลอดช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา

โลมาเผือก หรือที่ชาวประมงฮ่องกงเรียก "ฮัค ไค" หรือ "ปัค ไค" หมายถึง "ดำต้องห้าม" หรือ "ขาวต้องห้าม" บริเวณชายฝั่งฮ่องกงถูกพบครั้งแรกเมื่อช่วงปี พ.ศ.2180 โดยนายปีเตอร์ มุนดี พ่อค้านักเดินเรือชาวอังกฤษ ซึ่งทำธุรกิจค้าใบชาส่งให้อังกฤษ เขาเรียกโลมาเผือกยุคนั้นว่า "ปลาดาบ" ทั้งยังไม่รู้ชัดว่าโลมาเป็นสัตว์เลือดอุ่นและเลี้ยงลูกด้วยนม กระทั่งข้อมูลโลมาชนิดนี้ถูกศึกษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนรู้ว่าสีอ่อนของโลมาชนิดนี้เพราะมันเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำขุ่นและเป็นสัตว์เลือดอุ่น ทำให้ร่างกายได้รับแสงน้อย จึงทำให้สีผิวหนังพัฒนาเป็นสีสว่าง ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่สีชมพู

โลมาเผือกพบเห็นได้ทั่วไปในพื้นที่แถบบังกลาเทศ บรูไน จีนตอนใต้ รวมถึงฮ่องกง ไต้หวัน อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และไทย หากินอาหารประเภทสัตว์ทะเลเล็กๆน้อยๆ รวมถึงแมงกะพรุน.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1829878

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:37


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger