เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 05-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


"ธรณ์" ยกปีนี้ปีทองทะเลไทย แทบไม่พบปะการังฟอกขาว

นักวิชาการทางทะเล ยกปีนี้ปีทองทะเลไทย ระบุคนหยุดทำให้ทะเลสงบ ฝั่งอันดามันน้ำไม่ค่อยร้อนฝนมาเร็วปะการังแสดงอาการฟอกขาวน้อย แนะใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูทะเลหลังเจอปัญหามาตลอดหลายปี



วันนี้ 4 พ.ค.2563 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนักวิชาการทางทะเล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า แทบทุกปีในช่วงนี้เป็นเวลาที่เราอาจพบปะการังฟอกขาวแต่ปีนี้เป็นปีทองทะเลไทย นอกจากคนหยุดทำให้ทะเลสงบ ปะการังเกือบทั้งหมดยังดูดีไม่มีอาการ

ผมตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ปลายมีนาคม เมื่อเริ่มมีการแจ้งเตือนจากออสเตรเลียว่าปะการังชายฝั่ง Great Barrier Reef เริ่มแสดงอาการฟอกขาว มาถึงเดือนเมษายน หลายที่ฟอกขาวโดยเฉพาะเกาะแถว Townsville ที่คุ้นเคยสมัยเรียนอยู่ที่นั่น เคราะห์ดีที่ปลายเมษายน บางส่วนที่ฟอกเริ่มมีสีกลับคืนมา ลักษณะนี้คล้ายปะการังไทยเมื่อ 3-4 ปีก่อน นั่นคือฟอกขาวแต่ไม่ตายและฟื้นได้

ออสเตรเลียเจอปะการังฟอกขาวอย่างหนักในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าพวกที่เหลืออยู่ในคงพอทนต่อน้ำร้อนและฟื้นตัวได้ระดับหนึ่ง ในเมืองไทยบางปีช่วงเมษายนต้นพฤษภาคม น้ำร้อนเกิน 30.5 องศาและแช่อยู่นาน บางปีขึ้นไปถึง 32-33 องศาด้วยซ้ำ

"แต่ปีนี้ในฝั่งอันดามันน้ำไม่ค่อยร้อน ฝนยังมาเร็วปะการังแสดงอาการฟอกขาวน้อยมากจะมีบ้างก็หมู่เกาะริมฝั่ง เช่น ตรัง และเป็นบางก้อนเท่านั้น ปะการังที่ออกอาการก็ดูไม่ขาวมาก แค่ซีด เชื่อว่าคงฟื้นได้"


ในฝั่งอ่าวไทยน้ำร้อนกว่าอันดามันแต่ดูแล้วยังไม่น่าเป็นห่วงมาก มีรายงานสีซีดแถวเกาะเต่า แต่ก็ไม่เท่าไหร่ ฝนมาเร็ว เมฆมากฟ้าครึ้ม ลดแสงแดดลดอุณหภูมิของน้ำ จะเป็นปัจจัยสำคัญช่วยปะการังได้

"นี่เป็นข่าวดีมากและเชื่อว่า 2 ปัจจัย ทั้งทะเลไร้คนและปะการังไม่ฟอกขาว จะถือเป็นช่วงฟื้นตัวที่สำคัญยิ่งของทะเลบ้านเรา หลังจากโดนโน่นนี่แทบไม่หยุดมาตลอดหลายปี"

ตอนนี้ก็อยู่ที่ว่า เราจะอาศัยโอกาสนี้ในการทำเรื่องดี ๆ ให้เกิดขึ้นมาในอนาคตได้ไหม โลกให้โอกาสเราฟื้นฟูทะเลแล้วหากไม่ใช้จังหวะนี้ให้เป็นประโยชน์ก็ไม่รู้จะมีโอกาสอีกเมื่อไหร่ ขอบคุณทุกหน่วยงานและทุกพี่น้องผู้ประกอบการคนในพื้นที่ผู้ช่วยกันสำรวจและรายงาน โดยเฉพาะที่เกาะเต่า เข้มแข็งกันดีมาก


https://news.thaipbs.or.th/content/292057
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 05-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


พบไมโครพลาสติกปริมาณหนาแน่นสูงสุดที่ก้นทะเลเมดิเตอร์เรเนียน


กระเบนราหูแหวกว่ายในทะเลที่มีขยะพลาสติกลอยฟ่อง

คณะนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ ซึ่งนำโดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ของสหราชอาณาจักร รายงานว่าพบชิ้นส่วนไมโครพลาสติกในปริมาณที่มีความหนาแน่นสูงสุดเท่าที่เคยพบมา ในดินตะกอนก้นทะเลเมดิเตอร์เรเนียนบริเวณนอกชายฝั่งของประเทศอิตาลี

ชิ้นส่วนไมโครพลาสติกซึ่งมีขนาดเล็กกว่า 1 มิลลิเมตรที่พบในครั้งนี้ มีจำนวนมากถึง 1.9 ล้านชิ้นต่อพื้นที่ก้นสมุทร 1 ตารางเมตร ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยเส้นใยจากเสื้อผ้าและเศษใยสังเคราะห์จากสิ่งทอประเภทอื่น ๆ รวมทั้งชิ้นส่วนพลาสติกขนาดจิ๋วที่แตกตัวมาจากขยะพลาสติกชิ้นใหญ่ตามกาลเวลา

จุดที่พบไมโครพลาสติกสะสมตัวในปริมาณหนาแน่นสูงสุดนั้น คือบริเวณแอ่งใต้ทะเล Tyrrhenian ซึ่งอยู่ระหว่างแผ่นดินใหญ่ของประเทศอิตาลี เกาะคอร์ซิกา และเกาะหลักของแคว้นปกครองตนเองซาร์ดีเนีย ทำให้นักวิทยาศาสตร์มีความกังวลว่ากระแสน้ำก้นสมุทรที่พัดพาเอาออกซิเจนและสารอาหารต่าง ๆ ไปหล่อเลี้ยงบรรดาสัตว์ใต้ทะเลลึก จะถูกไมโครพลาสติกปนเปื้อนในปริมาณสูงไปด้วย


แผนภาพแสดงกระบวนการที่ไมโครพลาสติกเคลื่อนจากแหล่งกำเนิดบนพื้นดินและผิวน้ำลงสู่ก้นมหาสมุทร Image copyrightSOURCE: I.KANE/UNI OF MANCHESTER

ดร. เอียน เคน หนึ่งในผู้นำทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์บอกว่า ไมโครพลาสติกมักสะสมตัวหนาแน่นที่จุดใดจุดหนึ่งของพื้นมหาสมุทร เนื่องจากกระแสน้ำทรงพลังที่ก้นทะเลทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "กองตะกอนพัดพา" (drift deposit) ซึ่งคล้ายกับเนินทรายใต้น้ำ

"กองตะกอนพวกนี้อาจรวมตัวเป็นแนวยาวได้หลายสิบกิโลเมตร และอาจหนาถึงหลายร้อยเมตร เป็นตะกอนที่สะสมตัวได้มากที่สุดประเภทหนึ่งบนโลกโดยมีตะกอนละเอียดเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ เราจึงคาดเดาได้ไม่ยากว่าจะพบชิ้นส่วนไมโครพลาสติกปะปนอยู่ในตะกอนชนิดนี้ด้วย" ดร. เคนกล่าว


ไมโครพลาสติกจำนวนมากได้แก่เส้นใยจากเสื้อผ้าและเศษใยสังเคราะห์จากสิ่งทออื่น ๆ

ทีมผู้วิจัยยังทดลองใช้แท็งก์น้ำขนาดใหญ่ จำลองกระบวนการที่ทราย โคลน และตะกอนต่าง ๆ ในหุบเหวและร่องลึกก้นสมุทร สามารถไหลไปอย่างทรงพลังได้เหมือนกับเหตุการณ์หิมะถล่ม ซึ่งการทดลองนี้ทำให้ทราบว่า กระบวนการดังกล่าวช่วยพัดพาเอาไมโครพลาสติกจากผิวน้ำให้จมลึกลงไปได้อีก และสามารถกระจายตัวออกไปได้ไกลถึงหลายร้อยกิโลเมตรที่ก้นทะเล

งานวิจัยก่อนหน้านี้ประมาณการว่า ขยะพลาสติกราว 4 ล้านตัน - 12 ล้านตันที่แม่น้ำสายต่าง ๆ พัดพามาได้ไหลลงสู่มหาสมุทรในทุกปี โดยผู้คนมักให้ความสนใจกับแพขยะขนาดยักษ์กลางมหาสมุทรหรือตามแนวชายฝั่งที่สะดุดตา ซึ่งเป็นเพียง 1% ของขยะพลาสติกในทะเลทั้งหมดเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 99% ซึ่งหายไปไม่พบร่องรอย นักวิทยาศาสตร์คาดว่าได้สลายตัวกลายเป็นไมโครพลาสติกชิ้นเล็กจิ๋วที่จมลงสู่ก้นสมุทรในปริมาณมหาศาล


https://www.bbc.com/thai/international-52527035

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:31


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger