![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
กัปตันเรือ นั่งจิบกาแฟเคล้าสายลม ลืมไปว่าอุ่นแกงทิ้งไว้ ไฟไหม้เรือ จากกรณีเมื่อเวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา วันที่ 2 ก.ค. ได้เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้เรือซีลวอล์คเกอร์ แสงอรุณ ไดร์ฟวิ่ง พานักท่องเที่ยวดำน้ำ ที่บริเวณกลางทะเล ใกล้หาดตายาย พื้นที่เกาะล้าน สร้างความเสียหายอย่างหนัก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ![]() ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. นายเอกภาพ ชัยสมบูรณ์ เจ้าหน้าฝ่ายป้องกันภัยพิบัติทางทะเลเมืองพัทยา ได้เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด โดยไฟได้ลุกไหม้ที่ชั้นสองตอนนี้เพลิงได้ดับลงแล้ว ส่วนเรือได้จอดทิ้งไว้อยู่กลางทะเลตรงจุดเกิดเหตุ ขณะที่ นายณรงค์ฤทธิ์ บุญมาฉาย เจ้าของเรือ ได้เปิดเผยสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ว่า เกิดจากกัปตันเรือคือ นายไพบูลย์ วิเศษศรี อายุ 59 ปี และภรรยาได้ประกอบอาหารโดยใช้หม้ออลูมิเนียม มีถังแก๊สขนาด 15 กก. เตาหัวเดียวอยู่บนชั้นสองของเรือ แต่เจ้าตัวได้ลงมานั่งจิบกาแฟเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างล่าง จนลืมหม้ออาหารที่ตั้งไฟไว้ด้านบน จนกระทั้งได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงรีบวิ่งขึ้นไปดูก็พบว่าเปลวไฟกำลังลุกไหม้ มีควันพวยพุงขึ้นอย่างไม่ขาดสาย แม้พยายามดับแล้วแต่ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงต้องสละเรือหนีเอาตัวรอดจนกระทั้งมีเจสกี้และเรือใกล้เคียงเข้าช่วยเหลือดังกล่าว เบื้องต้นชั้นสองของตัวเรือได้รับความเสียหายอย่างหนัก และยังมีอุปกรณ์ดำน้ำถูกเปลวไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมดเช่นกัน และยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_4430950
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
เศร้า! พบ 'โลมา' ตายเกยชายหาดเขาหลัก 'เต่าหญ้า' บาดเจ็บนำส่งไปรักษาต่อ ![]() เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 นายประถม รัสมี ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 เปิดเผยว่า สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 โดยส่วนส่งเสริมและประสานงานเครือข่ายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10-11 ได้รับการประสานจากนักวิชาการของศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ว่า ได้รับแจ้งจากพนักงานของเขาหลัก ลากูน่า รีสอร์ต มีปลาโลมาขึ้นมาเกยตื้นที่ชายหาดเขาหลักด้านหน้ารีสอร์ต หมู่ที่ 7 ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา จึงร่วมกันเข้าไปตรวจสอบ พิกัด ๙๕๕๐๒๗ N ๔๑๗๑๒๕ E พบเป็นปลาโลมากระโดดเสียชีวิตแล้ว พบร่องรอยบาดแผลฉีกขากคล้ายโดนกัดบริเวณหลัง วัดขนาดความยาวจากปลายปากถึงหาง 159 ซม. จากนั้นเดินทางไปยังศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้าออกเรือประมง พังงา หมู่ที่ 5 ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เพื่อรับมอบเต่าหญ้า ที่ทางศูนย์ฯ ได้รับมอบจากเรือประมงโชคทวี 7 มีนายอำพันธ์ ทองห่อ เป็นผู้ควบคุมเรือ เป็นผู้พบเต่าหญ้าตัวนี้ลอยตัวอยู่กลางทะเล ไม่สามารถดำหรือว่ายน้ำได้อย่างปกติ ตรวจวัดขนาดของกระดองเต่า ความยาว 57 ซม. ความกว้าง 55 ซม. มอบหมายให้ ศอปล.10 นำปลาโลมาและเต่าหญ้าไปส่งมอบให้กับศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน เพื่อดำเนินการตรวจสอบการตายของปลาโลมากระโดและอาการบาดเจ็บของเต่าหญ้าต่อไป https://www.naewna.com/likesara/503003 ********************************************************************************************************************************************************* ขึ้นป้ายเตือน! 'แมงกะพรุนพิษ'ระบาดหาดสมิหลา-ชลาทัศน์ หลายหน่วยงานตื่นตัว หลังแมงกะพรุนพิษ โดนนักท่องเที่ยวหลายคน จึงนำป้ายแจ้งเตือนให้ระวังแมงกะพรุนพิษบริเวณชายหาดสมิหลา-ชลาทัศน์ มาติดตั้งริมชายหาด ให้เลี่ยงการลงเล่นน้ำทะเลในช่วงนี้ ![]() เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นักท่องเที่ยวหลายคน โดนแมงกะพรุนพิษเล่นงานในขณะที่ลงเล่นน้ำทะเล ริมชายหาดสมิหลาและชายหาดชลาทัศน์ทำให้ปวดแสบปวดร้อน ไปตามๆกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก ที่มาเล่นน้ำทะเลกับพ่อแม่ผู้ปกครอง ทำให้หน่วยงานหลายหน่วยงานตื่นตัว โดยเฉพาะเทศบาลนครสงขลา ซึ่งเป็นหน่วยงาน ที่ดูแลชายหาดสมิหลาและชายหาดชลาทัศน์โดยตรง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของจังหวัดสงขลาอีกด้วย จึงได้นำป้ายแจ้งเตือนมาปัก เพื่อเตือนนักท่องเที่ยว และประชาชน ที่บริเวณชายหาดสมิหลาและชายหาดชลาทัศน์ โดยมีข้อความ "แจ้งเตือนภัย!!! ระวังแมงกะพรุนพิษ บริเวณชายหาดสมิหลาและชายหาดชลาทัศน์และ เลี่ยงลงเล่นน้ำทะเล หากพบเจอห้ามจับ สำหรับผู้ที่ถูกพิษของแมงกะพรุน ให้ราดด้วยน้ำส้มสายชูเท่านั้น ติดต่อสายด่วน 1132 1669 และ โทร 074-314245 เทศบาลนครสงขลา พร้อมมีภาพแมงกะพรุนพิษ ให้ดูอีกด้วย ว่าหน้าตาเป็นแบบนี้โดยทำการติดตั้งป้ายรวม 4 จุด คือ ที่ชายหาดบริเวณทางเข้าชายหาดสมิหลา 1 จุด ที่ชายหาดชลาทัศน์ 3 จุด จุดที่ 1 บริเวณชายหาดใกล้กับคนอ่านหนังสือ จุดที่ 2 บริเวณเก้าอี้ดำหลังสนามกีฬาติณสูลานนท์ จุดที่ 3 บริเวณ ที่จอดรถลานวัฒนธรรม ตรงข้ามจุดตรวจถาวรเรือใบ ถนนชลาทัศน์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้เป็นช่วง เปิดเทอมวันธรรมดา จะมีเด็กๆมาเที่ยวไม่มากนัก เนื่องจากหลังจากกลับจากไปโรงเรียน ก็จะพักผ่อนอยู่กับบ้าน คาดว่า ในวันเสาร์และวันอาทิตย์นี้ บริเวณชายหาดสมิหลาและชายหาดชลาทัศน์ ก็จะมีนักท่องเที่ยว เดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเหมือนปกติ ซึ่งการติดตั้งป้าย แจ้งเตือนภัยของเทศบาลนครสงขลาระวังแมงกะพรุนพิษจะมีผลทำให้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวชายหาดสมิหลาและชายหาดชลาทัศน์ จะได้ระวังตัวในการเลี่ยงลงเล่นน้ำทะเลในช่วงนี้ โดยให้บุตรหลานนั่งเล่นทราย ริมชายหาดแทน ไม่ต้องเดินลงไปเล่นน้ำทะเล โดยพ่อแม่ผู้ปกครอง เมื่อเห็นป้ายแจ้งเตือนก็จะได้กำชับ บุตรหลานให้เลี่ยงลงเล่นน้ำทะเลเพื่อความปลอดภัย ของเด็กๆเอง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 สงขลา ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลนักท่องเที่ยว บริเวณชายหาดสมิหลาและชายหาดชลาทัศน์ในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ตลอดทั้งวัน เพื่อเฝ้าระวังช่วยเหลือ หากนักท่องเที่ยวโดนแมงกะพรุนพิษก็จะสามารถช่วยเหลือได้ ทันที รวมทั้งจะมีการติดตั้ง ทำเสาวางน้ำส้มสายชูเพิ่ม 30-40 จุด บริเวณชายหาดสมิหลาและชายหาดชลาทัศน์ เพื่อให้ความสะดวกกับนักท่องเที่ยวและประชาชน หากโดนแมงกะพรุนพิษก็สามารถที่จะ นำน้ำส้มสายชูจากบริเวณที่ใกล้ที่สุดไปใช้ได้ทันที https://www.naewna.com/likesara/502825
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#3
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ
พบซากโลมากระโดด เกยชายหาดเขาหลัก พบซากโลมากระโดด เกยชายหาดเขาหลัก และเรือประมง?พบเต่าหญ้าบาดเจ็บ 1 ตัว ![]() วันที่2กรกฎาคม? 2563? นายประถม รัสมี ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 เปิดเผยว่า สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 โดยส่วนส่งเสริมและประสานงานเครือข่ายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยาป่าชายเลนที่ 10 และ 11 ได้รับการประสานจากนักวิชาการของศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ว่าได้รับแจ้งจากพนักงานของเขาหลัก ลากูน่า รีสอร์ต มีโลมาขึ้นมาเกยตื้นที่ชายหาดเขาหลักด้านหน้ารีสอร์ต หมู่ที่ 7 ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา จึงร่วมกันเข้าไปตรวจสอบ พิกัด ๙๕๕๐๒๗ N ๔๑๗๑๒๕ E พบเป็นปลาโลมากระโดด เสียชีวิตแล้ว พบร่องรอยบาดแผลฉีกขากคล้ายโดนกัดบริเวณหลัง วัดขนาดความยาวจากปลายปากถึงหาง 159 ซม. ![]() จากนั้นเดินทางไปยังศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้าออกเรือประมง พังงา หมู่ที่ 5 ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เพื่อรับมอบเต่าหญ้า ที่ทางศูนย์ฯ ได้รับมอบจากเรือประมงโชคทวี 7 มีนายอำพันธ์ ทองห่อ เป็นผู้ควบคุมเรือ เป็นผู้พบเต่าหญ้าตัวนี้ลอยตัวอยู่กลางทะเล ไม่สามารถดำหรือว่ายน้ำได้อย่างปกติ ตรวจวัดขนาดของกระดองเต่า ความยาว 57 ซม. ความกว้าง 55 ซม. มอบหมายให้ ศอปล.10 นำปลาโลมาและเต่าหญ้าไปส่งมอบให้กับศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน เพื่อดำเนินการตรวจสอบการตายของปลาโลมากระโดดและอาการบาดเจ็บของเต่าหญ้าต่อไป https://www.bangkokbiznews.com/news/...mpaign=bangkok
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#4
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก GREENPEACE
มลพิษทางอากาศ บทเรียนจากการล็อคดาวน์ในช่วงโควิด-19 .................. โดย Minwoo Son หลายพื้นที่ทั่วโลกมีอากาศที่สะอาดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากการประกาศล็อกดาวน์ของหลายเมืองทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกันหลังจากที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเริ่มประกาศยกเลิกการล็อกดาวน์ทำให้ปัญหามลพิษทางอากาศกลับมาอีกครั้ง จากการวิเคราะห์พบว่ามลพิษทางอากาศในจีนกลับมาสู่ระดับก่อนการเกิดโรคระบาดในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมแล้วและดูเหมือนว่าฟิลิปปินส์ก็จะเป็นเช่นเดียวกัน ในทุกๆปีมีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรกว่าสี่ล้านห้าแสนคนจากปัญหามลพิษทางอากาศที่มาจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล ในปีพ.ศ.2561 มีรายงานว่าค่าใช้จ่ายมลพิษทางอากาศของทั่วโลกสูงถึง 8 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน ซึ่งคิดเป็น 3.3% ของ GDP โลก จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า 91% ของประชากรโลกอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีระดับมลพิษทางอากาศสูงกว่ามาตรฐานคุณภาพอากาศขององค์การอนามัยโลก ที่แย่ไปกว่านั้นคือมีหลักฐานบ่งชี้ว่ามลพิษทางอากาศสร้างความเสียหายต่อภูมิคุ้มกันของร่างกายในการต่อต้านไวรัสในระบบทางเดินหายใจซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19มากกว่าปกติและมลพิษทางอากาศที่สูงกว่าระดับปกตินั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังหลายชนิดที่เพิ่มความรุนแรงของเชื้อไวรัสโควิด-19 การศึกษาอื่น ๆ พบว่ามลพิษทางอากาศเพิ่มอัตราการเสียชีวิตของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเพื่อเตือนคุณอีกครั้งมลพิษทางอากาศกำลังกลับมา ![]() ภาพภูเขานัมซานในกรุงโซลพร่ามัวเป็นฝุ่นละเอียดละเอียดหนา (ขวา) เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่อากาศแจ่มใส (ซ้าย) ? Soojung Do / Greenpeace บทเรียนจากการล็อคดาวน์ในช่วงโควิด-19 โลกเปลี่ยนไปมากจากในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ปัญหามลพิษทางอากาศที่ดีขึ้นเห็นได้จากท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าสดใสเป็นครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้เห็นมาเป็นเวลานานทำให้หลายประเทศทั่วโลกตระหนักถึงปัญหามลพิษทางอากาศมากขึ้น สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าที่ส่งผลกระทบไปทั่วทุกมุมโลกทำให้โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งต้องหยุดการผลิตลง ทำให้การเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลกลดลงไปด้วย ในบางประเทศอย่างเช่นอินเดียมีการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลสำหรับการผลิตไฟฟ้าในปริมาณที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงฝุ่นควันที่มาจากการคมนาคมบนท้องถนนก็ลดลงไปด้วย ทำให้การปล่อยมลพิษจากภาคขนส่งลดลงเป็นอย่างมาก ภาวะชะงักงันของวิถีปกติเดิม (business-as-usual)สะท้อนอยู่ในอากาศที่เราหายใจข้อมูลดาวเทียมของนาซาแสดงให้เห็นว่าก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในประเทศใหญ่ ๆ ตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายงานพิเศษจากAir visual แสดงให้เห็นว่าระดับของ PM2.5 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากการประกาศล็อกดาวน์เมืองใหญ่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ประเทศที่ได้ชื่อว่ามีมลพิษทางอากาศมากที่สุดในโลกอย่างอินเดียนั้นสามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี รวมไปถึงมลพิษทางอากาศบริเวณดังกล่าวลดลงเป็นอย่างมากในช่วง 10 วันแรกของการประกาศล็อกดาวน์ตามการวิเคราะห์ของกรีนพีซอินเดีย ![]() เนื่องจากการประกาศล็อกดาวน์ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ทำให้ถนนและสวนสาธารณะรอบเมืองเบอร์ลินเกือบกลายเป็นสถานที่ร้าง การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าส่งผลกระทบไปทั่วโลก แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายแต่ก็ยังให้บทเรียนที่มีค่าแก่พวกเรา: - อากาศสะอาดที่เราทุกคนต้องการเกิดขึ้นได้เพียงแต่ต้องมีนโยบายที่มุ่งมั่นและทันต่อสถานการณ์พร้อมกันทุกประเทศทั่วโลก - เป็นไปได้ที่เราจะได้ท้องฟ้าสดใสกลับมาหากเราลดการปล่อยมลพิษจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลลงในทุกภาคส่วนรวมถึงอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วย - เป็นไปได้ที่เราสามารถดำรงชีวิตในแบบที่ก่อมลพิษให้น้อยที่สุด แม้จะเป็นในระดับบุคคล เช่น เดินทางน้อยลง ขี่จักรยานหรือเดินระยะทางสั้น ๆ ทำงานจากที่บ้านถ้าเป็นไปได้ เราสามารถหายใจด้วยอากาศบริสุทธิ์ เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกเริ่มประกาศคลายล็อกดาวน์ แต่เราต้องจำไว้ว่าเราสามารถหายใจด้วยอากาศดีเช่นเดียวกับในช่วงประกาศล็อกดาวน์ได้เพียงแต่ภาครัฐต้องมีนโยบายที่เข้มงวดมากพอ และนี่คือ 4 วิธี ที่เราสามารถทำให้ทุกคนสามารถหายใจได้ด้วยอากาศสะอาดแม้จะผ่านช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปพร้อมกับการกระตุ้นเศรษฐกิจและรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ 1.? เน้นการฟื้นฟูที่ยั่งยืน เพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศในระยะยาว ภาครัฐไม่ควรสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ปล่อยมลพิษทั้งในเรื่องของนโยบายหรือการปล่อยเงินกู้ให้กับอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงรวมไปถึงการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ภาครัฐควรสนับสนุนให้คนงานในภาคอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงได้พัฒนาทักษะในด้านอื่น ๆ และสามารถนำไปต่อยอดในภาคอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนได้ รัฐบาลควรเรียกร้องให้หน่วยงานและบริษัทดำเนินการทันทีเพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศ นอกจากนี้ยังจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายของความตกลงปารีสเพื่อจำกัดมิให้อุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกเพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส โดยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเนื่องจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกันของมลพิษทางอากาศ นั่นคือการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ![]() นักกิจกรรมกรีนพีซชูป้ายแบนเนอร์บริเวณโรงไฟฟ้าถ่านหิน Suralaya ในเมือง Cilegon จังหวัด Banten ประเทศอินโดนีเซีย เป็นตัวอย่างที่ดีเมื่อเยอรมนีได้ประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ หนึ่งพันสามร้อยล้านยูโรนั้นไม่รวมค่าเบี้ยประกันของผู้ซื้อสำหรับรถยนต์เบนซินและดีเซลใหม่ หากประเทศอื่น ๆ ใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจของพวกเขากับอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษทางอากาศก็อาจส่งผลกระทบได้ 2. ปฏิรูประบบพลังงานในปัจจุบัน ระบบพลังงานหมุนเวียนช่วยลดมลพิษทางอากาศและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ซึ่งแตกต่างจากระบบพลังงานที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งทำให้ปัญหามลพิษทางอากาศรุนแรงขึ้น ตัวอย่างเช่นในอินเดีย อากาศในบริเวณโดยรอบมีรายงานว่าสะอาดขึ้นเมื่อโรงไฟฟ้าถ่านหินสร้างกระแสไฟฟ้าน้อยลงในช่วงล็อกดาวน์ ภาครัฐต้องยกเลิกการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่วางแผนไว้และเพิ่มสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนในแผนพลังงานในอนาคตของประเทศ 3. สร้างระบบการคมนาคมขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ระบบขนส่งมวลชนเป็นแหล่งก่อมลพิษทางอากาศที่ทำให้คุณภาพของอากาศแย่ลง โดยเฉพาะในเขตตัวเมือง แต่เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ อาจเริ่มจากการสร้างทางเดินเท้าที่ปลอดภัย รวมถึงการกำหนดเส้นทางจักรยานที่ปลอดภัยจริง ๆ ให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้คนใช้จักรยานในการเดินทาง สิ่งสำคัญคือการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์แบบทางเลือกแทน เช่น รถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าหรือทางเลือกอื่น ๆ ในการเดินทางเพื่อไม่ก่อให้เกิดมลภาวะอื่น ๆ ตามมา เหนือสิ่งอื่นใดเราควรสร้างระบบขนส่งสาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง เพื่อให้มีทางเลือกในการใช้งานตามความต้องการของตัวเอง หลังจากการประกาศล็อคดาวน์ บางประเทศกำลังปรับเปลี่ยนระบบการคมนาคมขนส่งให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงอากาศสะอาดซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ควรจะได้รับ ![]() นักกิจกรรมจากกรีนพีซในCologne ประเทศเยอรมนีกำลังแสดงให้เห็นถึงพื้นที่มากขึ้นสำหรับคนเดินเท้าและการปั่นจักรยาน ? Anne Barth / Greenpeace 4. เสริมสร้างกฎหมายที่เกี่ยวข้องการป้องกันมลพิษทางอากาศ การเสริมสร้างกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศของเรา คุณภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นถ้ากฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยมลพิษจากโรงไฟฟ้าโรงงานอุตสาหกรรมและการขนส่ง ในที่สุดเป้าหมายของเราคือการขจัดแหล่งที่มาของมลพิษทางอากาศอย่างละเอียดแต่ถ้าเราเริ่มต้นด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นและมาตรฐานคุณภาพอากาศที่เข้มงวดมากขึ้น เราก็จะเข้าใกล้เป้าหมายนี้ การตรวจสอบข้อมูลแบบเรียลไทม์ของมลพิษทางอากาศควรได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ข้อมูลคุณภาพอากาศที่มีการติดตามและโปร่งใสจะทําให้ผู้คนได้รับข้อมูลและสามารถป้องกันตนเองเมื่อจําเป็น ในขณะที่ผลักดันรัฐบาลให้ดําเนินการเชิงรุกมากขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ น่าเสียดายในประเทศเช่นสหรัฐอเมริกาและแอฟริกาใต้ กฎการปล่อยมลพิษในรถยนต์และโรงไฟฟ้าถ่านหิน ค่อนข้างหละหลวมไม่รัดกุม สิ่งนี้ก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงทางสุขภาพมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบยั่งยืนไม่เพียงแต่ปรับปรุงคุณภาพอากาศแต่ยังมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนโลกเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ ถึงแม้ว่าพวกเราหลายคนต้องการที่จะกลับมาเป็นปกติหลังจาก การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มลพิษทางอากาศจะต้องไม่กลับสู่ระดับก่อนการระบาด ปฏิกิริยาของเรากับ ที่มีต่อการแพร่ระบาดครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเราสามารถอยู่ในโลกที่ยั่งยืนและมีสุขภาพดีแต่ตอนนี้เราต้องเรียนรู้บทเรียนที่เจ็บปวดเหล่านี้และปรับปรุงเพื่อนำไปสู่ที่ดีกว่าเดิมในอนาคต กรีนพีซจะยังคงรณรงค์เพื่อให้การแก้ปัญหามลพิษทางอากาศเป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูเพื่อความยั่งยืน อยากให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนี้และเพื่ออากาศที่เราทุกคนหายใจบนโลกเป็นอากาศสะอาดที่ทุกคนมีสิทธิ์จะได้รับ ไม่ใช่เพื่อตัวคุณเองแต่รวมถึงคนที่คุณรักและอนาคตของเราทุกคน https://www.greenpeace.org/thailand/...air-pollution/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
|
|