เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #5  
เก่า 28-08-2009
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


เลี้ยงนวลจันทร์ทะเลเชิงพาณิชย์ อีกหนึ่งทางเลือกชาวประมงชายฝั่ง


นวลจันทร์ทะเลโตเต็มที่

กว่า 30 ปีที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ได้รวบรวมลูกปลา นวลจันทร์ทะเลจากธรรมชาติมาทดลองเลี้ยงไว้ในบ่อดินเพื่อรวบรวมไว้เป็นพ่อแม่ พันธุ์ พร้อมทั้งร่วมกับกองพัฒนาอุตสาหกรรมสัตว์น้ำในการพัฒนาการแปรรูปผลิตภัณฑ์ ปลานวลจันทร์ทะเลในรูปแบบต่างๆ อาทิ ปลานวลจันทร์รมควัน ปลาก้างนิ่ม ปลาต้มเค็ม-ต้มหวานบรรจุกระป๋อง ซึ่งได้รับการยอมรับว่ามีรสชาติดีและสะดวกในการบริโภค แต่เนื่องจากเกษตรกรไม่มีการเลี้ยงอย่างต่อเนื่องจึงยังไม่สามารถพัฒนาผล ผลิตไปสู่เชิงพาณิชย์ได้


"ตอนนี้มีกำลังดูอยู่ 2 แนวทางคือส่งเสริมให้ชาวบ้านเลี้ยงแล้วนำมาแปรรูปเองเพื่อพัฒนาเป็นโอท็อป ของจังหวัด ทำแบบครบวงจรไปเลย เพราะถ้าขายปลาเป็นๆ ราคาจะถูกมาก จึงต้องนำมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม หรือไม่ก็ส่งเสริมให้มีการเลี้ยงเชิงพาณิชย์ป้อนโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูป เพื่อการส่งออก เพราะปลาชนิดนี้เป็นที่ต้องการของต่างประเทศมากโดยเฉพาะไต้หวัน จีนและประเทศในแถบยุโรป"

จินตนา นักระนาด ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงแนวทางการส่งเสริมเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเลแก่ชาวบ้าน โดยเน้นในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นหลัก เนื่องจากปลาชนิดนี้พบมากในบริเวณแถบชายฝั่งทะเลของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ง่ายในการส่งเสริมเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้าน สอดรับกับนโยบายของกรมประมงที่มุ่งเน้นการพัฒนาการเพาะเลี้ยงปลานวลจันทร์ ทะเลอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา โดยมีหน่วยงานต่างๆ ภายใต้สำนักวิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งได้ให้ความร่วมมือในการพัฒนาอาหาร สำหรับพ่อแม่พันธุ์ ตลอดจนเทคนิคการเพาะฟักและอนุบาล โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์เป็นหน่วยงานหลักในการ ผลิตไข่และลูกปลาแรกฟักให้แก่ศูนย์วิจัยต่างๆ และสถานีอื่นๆ นำไปทดลองอนุบาลและส่งเสริมการเพาะเลี้ยงให้แก่เกษตรกรที่สนใจต่อไป

ผู้ อำนวยการศูนย์คนเดิมระบุอีกว่า สาเหตุที่เกษตรกรไม่นิยมเลี้ยงในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากราคารับซื้อปลาชนิด นี้ในท้องตลาดมีราคาต่ำเฉลี่ยระหว่าง 18-25 บาทต่อกิโลกรัม แต่ปัจจุบันมีนักธุรกิจชาวไต้หวันได้เข้ามาลงทุนเลี้ยงอย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยนำเข้าลูกพันธุ์จากไต้หวันมาเลี้ยงที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์แล้วส่งปลาขนาด 500-1,000 กรัมไปขายที่ตลาดมหาชัย สนนราคากิโลกรัมละ 70-80 บาท รวมถึงการใช้ปลานวลจันทร์เป็นเหยื่อในการตกปลาทูน่า ทำให้การเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเลเริ่มได้รับความสนใจจากเกษตรกรมากขึ้น

ด้าน ฐานันดร์ ทัตตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง กรมประมงเปิดเผยว่า ปัจจุบันศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์มีพ่อแม่พันธุ์ปลา นวลจันทร์ทะเลอายุ 6-7 ปี ขุนเลี้ยงไว้ในบ่อดินประมาณ 200 ตัว นอกจากนี้ยังมีปลาวัยรุ่นขนาดต่างๆ ตั้งแต่ 250-300 กรัมไปจนถึงขนาด 0.5-1 กิโลกรัม รวบรวมเลี้ยงไว้เพื่อคัดเลือกเป็นพ่อแม่พันธุ์รุ่นต่อๆ ไปอีกจำนวนไม่น้อยและยังมีหน่วยงานอื่นๆ อาทิ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งฉะเชิงเทรา ศูนย์ศึกษาการพัฒนาประมงอ่างคุ้มกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.จันทบุรี และศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี เป็นต้น ทำให้กรมประมงมีความพร้อมในการที่จะศึกษาพัฒนาการเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเลได้ เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบ คีรีขันธ์ยังได้ร่วมกับกองพัฒนาอุตสาหกรรมสัตว์น้ำจืดฝึกอบรมการเพาะเลี้ยง และการแปรรูปปลานวลจันทร์ทะเล ทั้งวิธีการถอดก้างปลา ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในประเทศฟิลิปปินส์ การทำปลาก้างนิ่มรมควันเพื่อทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มในปลานวลจันทร์ทะเล ตลอดจนการพัฒนาแปรรูปวิธีต่างๆ เช่น ปลานวลจันทร์ทะเลต้มเค็ม ไส้กรอกปลาและชิ้นปลาเพื่อเป็นแนวทางและส่งเสริมการตลาดต่อไป


****************************************************


ขยายพันธุ์"นวลจันทร์ทะเล"ผลงานวิจัย "มนตรี บัวบาล"



แม้จะเป็นนักวิชาการชำนาญการ สังกัดศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ มีผลงานวิจัยจนเป็นที่ยอมรับระดับประเทศ แต่ "มนตรี บัวบาล" ก็หันมาสวมหมวกเกษตรกรอย่างเต็มขั้น ด้วยการนำผลงานวิจัยที่ประสบความสำเร็จของศูนย์ไปขยายผลให้ชาวบ้านในพื้นที่ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย


กว่า 20 ปีที่คร่ำหวอดกับงานวิจัยที่ศูนย์แห่งนี้ ในที่สุดเขาก็ประสบผลสำเร็จในการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ปลานวลจันทร์ทะเลใน บ่อซีเมนต์เมื่อปี 2540 หลังใช้เวลาศึกษาทดลองอยู่หลายปี เนื่องจากธรรมชาติปลาชนิดนี้ แม้จะเติบโตในน้ำจืดได้ แต่เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์มันจะต้องลงไปในท้องทะเลลึกเท่านั้น

"ผมก็ เป็นลูกน้ำเค็มเหมือนกัน บ้านเกิดอยู่ที่จ.ตรัง หลังจบป.ตรีที่ม.สงขลานครินทร์ คณะทรัพยากรธรรมชาติก็ไปทำงานอยู่ที่ภูเก็ตอยู่พักใหญ่ก่อนจะมาบรรจุเป็นข้า ราชการที่ศูนย์แห่งนี้ ช่วงนั้นก็เรียนต่อปริญญาโทที่จุฬาฯ สาขาวิทยาศาสตร์ทางทะเลไปด้วย จบแล้วก็ยังอยู่ที่นี่ไม่ได้ย้ายไปไหน ทำงานร่วมกับผอ.จินตนา นักระนาด ผอ.ศูนย์มาตลอด" มนตรีเผย

แม้จะมี ดีกรีมหาบัณฑิตทางวิทยาศาสตร์ทางทะเล ประสบผลสำเร็จในงานวิจัยหลายแขนง แต่เขาก็ไม่ได้ทำตัวเป็นนักวิชาการอยู่บนหอคอยงาช้างให้ความรู้ทางทฤษฎี แต่กลับชอบลงพื้นที่การทำงานร่วมกับชาวบ้านเพื่อนำผลงานทางวิชาการที่ได้ไป ถ่ายทอดให้ชาวบ้านในพื้นที่รอบๆ ศูนย์และพื้นที่ใกล้เคียง

"การทำ งานของผมจะต่างกับคนอื่นๆ อาจจะด้วยเนื้องานที่รับผิดชอบก็ได้ บางครั้งก็ไม่มีวันหยุดหรอก อย่างเวลาลงพื้นที่ก็ต้องกินอยู่กับเขาเป็นอาทิตย์ๆ ก็มี หรือเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ของปลานวลจันทร์ ปกติจะตรงกับช่วงสงกรานต์พอดี เขาก็ได้หยุดกัน แต่ผมก็ไม่เคยหยุด ต้องคอยดูมัน เพราะถ้าพ้นช่วงนี้ไปต้องรอไปอีกปี" นักวิชาการคนเดิมบอก

จึงไม่แปลกหากเห็นผู้ชายวัยกลางคน ดีกรีมหาบัณฑิต สวมหมวกแก๊ป ผูกผ้าขาวม้า สาละวนอยู่กับบ่อเลี้ยงปลานวลจันทร์ของชาวบ้าน หลังศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ผลักดันให้เป็นปลา เศรษฐกิจส่งเสริมให้ชาวบ้านเลี้ยงเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน ตามนโยบายของอธิบดีกรมประมงคนปัจจุบันนั่นเอง



จาก : คม ชัด ลึก วันที่ 27 สิงหาคม 2552
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:52


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger