เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #6  
เก่า 28-08-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก GREENPEACE


หน้ากากอนามัย 5,500 ตันไปจบลงที่ไหน ................... โดย เจนนี เยห์

กว่าหกเดือนแล้วที่ COVID-19 ได้สร้างหายนะให้กับโลก และหน้ากากอนามัยก็ได้กลายมาเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดครั้งประวัติกาลนี้ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของการใช้หน้ากากอนามัยชนิดใช้แล้วทิ้งก็ได้สร้างผลกระทบที่ไม่มีใครต้องการต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน หน้ากากอนามัยจำนวนมากที่ถูกทิ้งอยู่ตามชายฝั่งของ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส จีน และไต้หวัน คือหลักฐานของวิกฤตินี้ ในเวลานี้หน้ากากอนามัยได้กลายมาเป็นปรากฏการณ์ทางสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับปรากฏการณ์ทางสังคมโดยไม่ต้องสงสัย


หน้ากากอนามัย 5,500 ตันถูกผลิตขึ้นภายใน 3 เดือน

จากการประเมินโดย กรีนพีซ ไต้หวัน ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์จนถึงกลางเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงที่การระบาดมีความรุนแรงสูงสุดนั้น ไต้หวันได้ผลิตและใช้หน้ากากอนามัยมากถึง 1.3 ล้านชิ้นโดยประมาณ มีการประเมินว่าหน้ากากแต่ละอันมีน้ำหนัก 4 กรัม จะเทียบได้กับน้ำหนัก 5,500 ตันของขยะทั่วไปที่ถูกสร้างขึ้นภายในระยะเวลาสามเดือน และเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น รถขยะหนึ่งคันสามารถบรรทุกขยะได้เที่ยวละ 5 ตัน ดังนั้นในช่วงเวลาสามเดือนนั้นไต้หวันได้ผลิตหน้ากากมากพอที่เติมรถขยะได้ 1,100 คัน ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยกฎและข้อบังคับที่มีอยู่เกี่ยวกับการทิ้งหน้ากากอนามัย ถือว่าหน้ากากที่ใช้แล้ว "ไม่สามารถรีไซเคิลได้" เพราะอาจมีการปนเปื้อนและอาจนำไปสู่การติดเชื้อทางอ้อมและแพร่เชื่อไวรัสได้หากเข้าสู่ระบบรีไซเคิล

หน้ากากอนามัยที่ใช้ในโรงพยาบาล หรือ ศูนย์การแพทย์ต่าง ๆ จะได้รับการจัดการโดยบริษัท class-A และหน้ากากติดเชื้อก็จะถูกแยกไปกำจัดโดยเฉพาะ เนื่องจากมีกลไกควบคุมการกำจัดขยะทางการแพทย์อยู่แล้ว หน้ากากอนามัยจากศูนย์การแพทย์ต่าง ๆ ก็จะถูกจัดการเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามหน้ากากอนามัยที่ใช้โดยบุคคลทั่วไปจะยังไม่ชัดเจนว่าเป็น "ขยะทั่วไป" หรือ "ขยะทางการแพทย์"

การที่มีหน้ากากใช้แล้วจำนวนมหาศาลระหว่างการระบาด ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ (Ministry of Health and Welfare and Environmental Protection Administration) พยายามสื่อสารและให้ความรู้เรื่องการกำจัดหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีกับสาธารณชนผ่านการแถลงข่าว เว็บไซต์ และแพลตฟอร์มของสื่อสังคมออนไลน์ ในขณะเดียวกันบทลงโทษผู้ทิ้งขยะไม่ถูกที่ก็เพิ่มขึ้นจาก 1,200 มาเป็น 3,600 ดอลลาร์ไต้หวัน โดยที่โทษปรับสูงสุดอยู่ที่ 6,000 ดอลลาร์ไต้หวัน นอกจากนั้นรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นก็ได้ยกระดับการตรวจสอบ การสื่อสารกับสาธารณชน และเครื่องมือการจัดการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน้ากากที่ใช้แล้ว ในขณะเดียวกันก็ได้เชิญชวนหน่วยงานและสำนักงานของรัฐจำนวนมากให้จัดเตรียมถังขยะสำหรับการทิ้งหน้ากากอนามัย


หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วสร้างความเสี่ยง 4 ประการที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

1. หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วสร้างความเสี่ยงทางสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ประการแรก สารเคมีที่อยู่ในหน้ากากอาจเป็นภัยคุกคามต่อสิ่งแวดล้อม นอกเหนือไปจากผ้าที่ขึ้นรูปจากเส้นใยโดยตรง (non-woven fabric) และถ่านกัมมันต์ หน้ากากอนามัยยังประกอบด้วยพอลิโพรไพลีน (Polypropylene) ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นพลาสติกที่ใช้เวลานานในการย่อยสลายและปลดปล่อยสารพิษจำนวนมากระหว่างกระบวนการนี้ เนื่องด้วยหน้ากากทั้งหมดที่ขายอยู่ตามท้องตลาดจะต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวด จึงพอจะคาดการณ์ได้ว่ามันจะไม่ย่อยสลายได้ง่าย ๆ และการกำจัดก็จะสร้างผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของพวกเรา

2. หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วอาจกลายเป็นขยะที่ลอยอยู่ในทะเลและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ

จากข้อมูลของ RE-THINK Taiwan ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ให้ความรู้และจัดกิจกรรมทำความสะอาดชายหาด ได้ระบุว่าพบหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วบนชายหาดเกือบทุกแห่งของไต้หวันตั้งแต่ช่วงแรกของโรคระบาด และเป็นไปได้ว่าหน้ากากส่วนหนึ่งได้อยู่ในทะเลแล้ว



Ocean Conservation Administration ได้ระบุว่าจะทำการเก็บและทดสอบหน้ากากเหล่านั้นเพื่อดูว่าโคโรน่าไวรัสสามารถอยู่รอดในน้ำทะเลได้หรือไม่ หากไม่จัดการ สัตว์น้ำอาจเข้าใจผิดว่าหน้ากากเหล่านี้คืออาหาร ยิ่งไปกว่านั้นอนุภาคพลาสติกที่ถูกปลดปล่อยระหว่างการย่อยสลายของหน้ากากจะยังคงอยู่ในน้ำและสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในห่วงโซ่อาหารเพื่อรอวันที่จะกลับมาทำร้ายสุขภาพของมนุษย์

3. พื้นที่บริเวณแม่น้ำและภูเขาอาจกลายเป็นที่สะสมของขยะ ซึ่งนอกจากจะเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการกำจัดหน้ากากชนิดที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งแล้ว ยังเป็นหายนะต่อสัตว์ป่าด้วย


สวนสาธารณะในฮ่องกงที่ถูกปนเปื้อนด้วยมลพิษจากขยะและหน้ากากจากการระบาดครั้งล่าสุด ? Greenpeace / Andrew Yuen

ในแต่ละปีจะมีขยะ 8 ล้านตันจากทั่วโลกไหลมาตามแม่น้ำต่าง ๆ ลงสู่มหาสมุทร จากสถิติของ Environmental Protection Administration (EPA) ขยะและเศษซากต่าง ๆ ราว 20,000 ตันจะถูกเก็บขึ้นมาจากแม่น้ำ ขยะประมาณ 2% มาจากฝีมือมนุษย์ และ 28.8% จาก 2% นั้นคือพลาสติก ซึ่งเกือบทั้งหมดคือขยะทั่วไปที่ถูกทิ้งอย่างเรี่ยราด

แม้ว่า EPA จะมีระบบจัดการและเฝ้าระวังที่ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ขยะลงสู่แม่น้ำ แต่เราเชื่อว่านี่เป็นเรื่องที่ควรจะตั้งคำถามว่าเพียงพอหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการทิ้งหน้ากากอนามัยซึ่งอาจจะเป็นพาหะของไวรัส และถูกทิ้งอย่างไม่เหมาสม นอกจากนี้ ยังเจอหน้ากากถูกทิ้งในพื้นที่ห่างไกล หรือในชนบท เพราะผู้คนก็เดินทางไปยังพื้นที่เหล่านั้นในช่วงที่ไวรัสระบาดซึ่งนั่นอาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อระบบนิเวศ

4. ในด้านความเสี่ยงต่อสังคม ปริมาณหน้ากากใช้แล้วที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลอาจนำไปสู่ความต้องการเตาเผาขยะที่มากขึ้น

ที่ผ่านมาได้มีตัวอย่างการประท้วงเตาเผาขยะโดยผู้คนในท้องถิ่น หากเราจำเป็นจะต้องสร้างเตาเผาขยะเพิ่มอีก ไม่ว่าจะใช้สำหรับขยะทั่วไป หรือ ขยะทางการแพทย์ แต่สิ่งนั้นอาจไม่ใช่สิ่งที่ชุมชนโดยรอบต้องการ

เป็นเรื่องยากมากที่จะสืบย้อนกลับไปว่าหน้ากากอนามัยใช้แล้วที่หลุดรอดเข้ามาในธรรมชาตินั้นมาจากไหน แล้วก็เป็นเรื่องยากพอ ๆ กันสำหรับการบังคับใช้มาตรการป้องกัน เพื่อให้สามารถจัดการกับผลกระทบในระยะยาวของโรคระบาด ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมหากมีการระบาดของโรคอื่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต กรีนพีซ ไต้หวันเสนอว่าควรจะมีแนวทางและระบบที่ครอบคลุมเพื่อดูแลการใช้และกำจัดหน้ากากอนามัย ซึ่งวิธีนี้เท่านั้นที่จะช่วยสร้างสมดุลระหว่างความยั่งยืนทางสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม


มาร่วมกันต่อสู้เพื่อลดขยะพลาสติก

ผู้คนทั่วโลกกำลังตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องลดการพึ่งพาผลิตภัณฑ์พลาสติก ที่ไต้หวัน กรีนพีซได้สร้างการรับรู้เรื่องการลดใช้พลาสติกและเรียกร้องให้รัฐบาลและภาคธุรกิจเข้ามาจัดการกับปัญหาด้วยการผลักดันให้เกิดนโยบายที่เกี่ยวข้อง พวกเราประสบความสำเร็จในการรณรงค์เรื่องการแบนไมโครบีดส์ ผ่านการจัดกิจกรรมและการวิ่งมาราธอนรวมทั้งหมด 47 ครั้งภายใต้ประเด็น "ลดการใช้พลาสติก" และได้จัดตั้ง "Marine Debris Governance Platform" ร่วมกับ EPA และองค์กรภาคประชาสังคมในพื้นที่ เพื่อดูแลทิศทาง การดำเนินนโยบายและแผนการลดใช้พลาสติก


หน้ากากอนามัยที่ถูกทิ้งอย่างเรี่ยราดบนถนน ? Tracie Williams / Greenpeace

อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ของพวกเรายังคงไม่สิ้นสุดและโครงการของพวกเราก็ต้องการการสนับสนุนจากคุณ จากภาคธุรกิจสู่สาธารณชน มาร่วมกันให้ความรู้และสร้างความตระหนักเพื่อโลกที่น่าอยู่ และอนาคตที่ปราศจากมลภาวะจากพลาสติก

เราสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการลดใช้ผลิตภัณฑ์ใช้ครั้งเดียวทิ้งนับจากวันนี้


https://www.greenpeace.org/thailand/...-masks-end-up/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:21


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger