สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 30 กันยายน 2563

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. ? 1 ต.ค. ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง

ส่วนในช่วงวันที่ 2 ? 5 ต.ค. ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณอ่าวไทยคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 2 ? 5 ต.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ก่อนหายนะจะมาเยือน...เสียงเตือนจาก "ดร.ธรณ์" เรื่อง "ไมโครพลาสติก"




https://mgronline.com/news-clips/P5C92fdNqkA

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


โผล่ลอยคอในทะเล 8 ชั่วโมง หญิงหายตัวปริศนานาน 2 ปี ชาวประมงบังเอิญพบ

โผล่ลอยคอในทะเล 8 ชั่วโมง - วันที่ 29 ก.ย. เดอะซัน รายงานว่า หญิงวัยแม่คนที่หายตัวไปจากครอบครัว 2 ปี กลับมาพบยังมีชีวิตอยู่ และลอยคอในทะเลนอกชายฝั่งโคลอมเบีย ชาติอเมริกาใต้



นางแองเจลีกา ไกตัน อายุ 46 ปี ลอยคอในทะเลนาน 8 ชั่วโมง ขณะที่ฉลามว่ายวนรอบเนื่องจากเธอถูกกระแสน้ำพัดเข้ามาก่อนจะหมดสติไป แต่โชคดีอย่างยิ่งที่ชาวประมงเห็นนางแองเจลีกา ซึ่งตอนแรกเห็นเป็น ท่อนไม้ กระทั่งนางแองเจลีกาโบกมือขอความช่วยเหลือ

ชาวประมงพบนางแองเจลีกาในสภาพหมดสติและตัวเย็นเกิน ลอยคอห่างเกือบ 2 กิโลเมตร จากเมือง ปวยร์โต โคลอมเบีย ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อราว 6 โมงเช้า วันที่ 26 ก.ย.

คำพูดแรกของนางแองเจลีกาหลังได้รับการช่วยเหลือคือ "ฉันเกิดใหม่อีกครั้ง พระเจ้าไม่ประสงค์ให้ฉันตาย" ก่อนถูกนำขึ้นฝั่ง ซึ่งชาวบ้านให้ความช่วยเหลือและส่งโรงพยาบาล และนางแองเจลีกากลับมารวมตัวกับครอบครัวอีกครั้ง

นายโรลันโด วิสบัส ชาวประมง บอกกับวิทยุการากอลของโคลอมเบียว่า เขาและเพื่อนแทบไม่ออกไปตกปลาวันนี้ ภายหลังที่เครื่องยนต์เรือมีปัญหา ทำให้การเดินทางก่อนหน้านี้ล่าช้า

"หากพวกผมไม่มีปัญหาหัวเทียนเรือบอดวันศุกร์ที่ 25 ก.ย. คงออกไปตกปลาวันนั้น และผู้หญิงคนนี้คงตายที่ทะเลแล้ว กุสตาโว เพื่อนผมอีกคน เตือนผมระวังท่อนไม้ลอยน้ำ และเมื่อผมเลี้ยวเรือไปทางขวา หัก 15 องศา พบท่อนไม้ขยับได้ ตอนแรกนึกถึงสิ่งลึกลับเหนือธรรมชาติ" นายโรนัลโดกล่าว

วิดีโอเผยนายโรลันโดโยนห่วงชูชีพให้นางแองเจลีกาซึ่งใช้แรงฮึดสุดท้ายสวมใส่ ก่อนจะลากเชือกผูกติดกับห่วงชูชีพพร้อมนางแองเจลีกามาที่ดาดฟ้าเรือ นายโรลันโดและเพื่อนพยายามสนทนากับเธอและให้น้ำเธอกิน แต่ไม่ได้พูดอะไรเลย ร่างกายอ่อนแอมาก และเริ่มร้องไห้จนวิดีโอจบไป

อย่างไรก็ตาม ความลึกลับซับซ้อนของนางแองเจลีกายังมีอยู่ เมื่อเจ้าตัวเผยต้องเผชิญความรุนแรงในครอบครัวจาาน้ำมือของสามี ก่อนที่เธอจะหนีออกบ้านไปแหล่งพักพิง และตัดสินใจปลิดชีพตัวเองในทะเล

"ฉันมีความสัมพันธ์เลวร้ายมา 20 ปี ความรุนแรงเริ่มต้นตอนท้องลูกคนแรก สามีทุบตีฉัน ใช้กำลังทารุณฉัน แม้ท้องลูกคนที่สอง สามียังใช้ทารุณเหมือนเดิม แต่ฉันไปจากเขาไม่ได้ เพราะลูกๆ ยังเล็กอยู่ ฉันแจ้งความหลายครั้ง แต่ตำรวจขังสามีเพียง 24 ครั้ง และปล่อยตัวกลับบ้าน สามีกลับมาทำร้ายฉันอีก ฉันตัดสินใจออกจากบ้านหลังถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม เมื่อเดือนก.ย. 2561 สามีตบตีหน้าฉันยับเยินและพยายามฆ่าฉันด้วย ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันหนีออกมาได้" แองเจลิกาให้สัมภาษณ์ อาร์ซีเอ็น เรดิโอ



นางแองเจลีกาใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในเมืองบาร์รังกียา ทางเหนือของโคลอมเบีย นาน 6 เดือน ก่อนจะขอความช่วยเหลือและได้รับที่อยู่อาศัยในแหล่งพักพิง แต่มีรายงานด้วยว่า นางแองเจลีกาจำใจต้องออกจากบ้านด้วยภาวะซึมเศร้า เนื่องจากสามีไม่ได้อยู่อาศัยด้วยกันอีกต่อไป

"ฉันไม่อยากมีชีวิตต่อไป ผู้หญิงคนหนึ่งให้ฉันยืมเงินไปซื้อตั๋วรถเมล์และมุ่งตรงไปทะเล ฉันต้องการจบสิ้นทุกอย่าง ฉันไม่มีความช่วยเหลือจากใครแม้แต่ครอบครัวฉันเอง เพราะสามีคนนี้ไม่ให้ฉันเข้าสังคม จึงเป็นสาเหตุฉันไม่ต้องการมีชีวิตต่อไป"

นางแองเจลีกาย้อนกลับไปช่วงยืนอยู่ชายทะเลและพบว่าตัวเองโดดเดี่ยว จึงตัดสินใจกระโดดลงทะเล และปล่อยให้ตัวเองลอยและจมไปกับทะเล หวังว่าฝันร้ายจะจบสักที แต่จำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ เนื่องจากหมดสติไป

"ชายผู้ช่วยชีวิตฉันกลางทะเลบอกว่า ฉันหมดสติและลอยน้ำ ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันยังไม่ตาย เขาโยนห่วงชูชีพมาให้ฉัน จากนั้น ชาวประมงทั้งสองพาฉันไปศูนย์สุขภาพและได้รับการดูแล" นางแองเจลีกากล่าว

ด้าน ลา ลีแบร์ตัด รายงานว่า ครอบครัวของนางแองเจลีกาเผยได้ยินข่าวคราวของเธอครั้งสุดท้ายในปี 2561 หลังเดินทางไปปเอกวาดอร์เพื่ออาศัยอยู่กับพี่ชาย และรายงานคำสัมภาษณ์ของนางแองเจลีกาถูกครอบครัวทิ้งหลังประสบความรุนแรงในบ้าน

อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นสอบถาม อาเลฆันดรา กัสตีบลันโก ลูกสาวของนางแอลเจลีกา เผยไม่ทราบเบาะแสของแม่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แถมแย้งคำสัมภาษณ์ของแม่ว่า พ่อไม่เคยทารุณแม่ และพ่อไม่เคยอาศัยอยู่ในเมืองบาร์รังกียาด้วย

"ฉันไม่รู้ใครทำร้ายแม่ หรือแม่ไปอยู่ในทะเลได้อย่างไร แม่มีปัญหาโรคหัวใจมาหลายปี และหลังหัวใจวายครั้งหนึ่ง สุขภาพจิตของแม่ย่ำแย่ลง" กัสตีบลันโกกล่าวและว่า เธอและพี่น้องกำลังรวบรวมเงินพาแม่ย้ายมาอยู่ที่กรุงโบโกตา เมืองหลวง ที่ลูกๆ เธออาศัยอยู่ และหวังว่าตอนนี้แม่จะได้รับการดูแลจากครอบครัว


https://www.khaosod.co.th/update-news/news_5012121