![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก PPTV
สธ.เตือน "แมงดาถ้วย" มีพิษ ไม่ควรกิน กรมอนามัย แนะประชาชนที่นิยมกินแมงดา หรือ ไข่แมงดา ให้ระมัดระวังในการเลือกซื้อเพราะอาจเจอแมงดาพิษที่ส่งผลต่อร่างกาย อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ![]() วันนี้ 7 ต.ค. 2563 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณี การนำเสนอข่าวในพื้นที่จ.ภูเก็ตพบผู้เสียชีวิตหลังจากกินแมงดาทะเลเผา ซึ่งคาดว่าจะเป็นแมงดาพิษนั้น กรมอนามัยขอเตือนผู้ที่นิยมบริโภคแมงดาและแมงกะพรุน ต้องระวังในการเลือกซื้อ เนื่องจากแมงดาทะเลมี 2 ชนิด คือ แมงดาจานที่ไม่มีพิษ ส่วนแมงดาถ้วย หรือ แมงดาไฟหรือเหรา เป็นแมงดาที่มีพิษ ผู้บริโภคต้องสังเกตให้ดีว่าเป็นแมงดาที่กินได้หรือไม่ได้ หากแยกไม่ออก ไม่ควรกิน อาจเสี่ยงได้รับพิษ และอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งแมงดาจานที่กินได้จะมีลำตัวขนาดใหญ่กว่าแมงดาถ้วย พื้นผิวด้านบนเรียบ มีสีน้ำตาลอมเขียว มีหางเหลี่ยม มีสันและหนามเรียงกัน เป็นแถวคล้ายฟันเลื่อย ส่วนแมงดาถ้วยที่ไม่ควรกินนั้น จะมีลำตัวโค้งกลม มีหางกลม และผิวด้านนอกมีขนสั้นสีน้ำตาลอมแดงต่อจากส่วนท้อง มีหางค่อนข้างกลม ไม่มีสันและไม่มีหนาม "อาการเบื้องต้นหลังได้รับพิษ ผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนและกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งการ ปฐมพยาบาลคือทำให้ผู้ป่วยหายใจคล่องที่สุด และรีบนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด หากผู้ป่วยหยุดหายใจให้ทำการผายปอดจนกว่าจะถึงโรงพยาบาล ระหว่างการนำส่งห้ามให้ผู้ป่วยดื่มน้ำหรือยาเพราะอาจทำให้สำลักได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย?หากไม่แน่ใจว่าเป็นอาหารที่มีพิษหรือไม่? ห้ามกิน?เด็ดขาด เช่น ปลาปักเป้า แมงกะพรุน หรือเห็ด เป็นต้น" นพ.สุวรรณชัย กล่าว https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/134515
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก BBCThai
พฤติกรรมกินพี่น้องร่วมท้องของตัวอ่อน อาจทำให้ฉลามยักษ์ "เม็กกาโลดอน" มีขนาดมหึมา ![]() เม็กกาโลดอนซึ่งเรียกได้ว่าเป็นไดโนเสาร์แห่งเผ่าพันธุ์ฉลาม เคยมีชีวิตอยู่บนโลกเมื่อราว 3-23 ล้านปีก่อน ที่มาของภาพ,GETTY IMAGES ทีมนักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ สันนิษฐานว่า การที่ฉลามยักษ์ยุคดึกดำบรรพ์ "เม็กกาโลดอน" มีขนาดมหึมาจนกลายเป็นปลานักล่าขนาดใหญ่ที่สุดในท้องทะเลนั้น อาจเป็นผลมาจากการที่ตัวอ่อนซึ่งกำลังเติบโตอยู่ในมดลูกของแม่ปลามีพฤติกรรมกินไข่ใบอื่น ๆ ที่ยังไม่ฟักในท้องแม่ งานวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Historical Biology โดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเดอโปล ในนครชิคาโก ของสหรัฐฯ ค้นพบเรื่องนี้ระหว่างการศึกษาเรื่องขนาดที่แท้จริงของฉลามเม็กกาโลดอน โดยใช้การวิเคราะห์เปรียบเทียบขนาดและรูปทรงฟันของฉลามเม็กกาโลดอน ซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว กับฉลามที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันในกลุ่มเดียวกันที่เรียกว่า "อันดับปลาฉลามขาว" (lamniform sharks) อาทิ ฉลามขาว (Carcharodon carcharias), ฉลามบาสกิน (Cetorhinus maximus), ฉลามเมกาเมาท์ (Megachasma pelagios) และฉลามมาโก (Isurus spp.) เป็นต้น ศาสตราจารย์เคนชู ชิมาดะ นักบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยเดอโปล หัวหน้าทีมวิจัย ระบุว่า ผลการศึกษาครั้งนี้เผยให้เห็นชัดเจนว่าฉลามเม็กกาโลดอนมีขนาดใหญ่โตเพียงใด ที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์คาดคะเนขนาดและรูปร่างของฉลามเม็กกาโลดอนโดยประเมินจากฟอสซิลฟันที่พบ ว่าน่าจะมีลำตัวยาวประมาณ 16-18 เมตร เท่ากับรถเมล์สองชั้นจำนวนสองคันต่อกัน และอาจมีน้ำหนักได้ถึง 100 ตัน ![]() การที่โครงกระดูกของฉลามส่วนใหญ่เป็นกระดูกอ่อน ทำให้แทบไม่หลงเหลืออวัยวะที่แข็งพอจนสามารถกลายเป็นฟอสซิลหลงเหลือมาให้เราศึกษาได้ ด้วยเหตุนี้การคาดคะเนว่าเม็กกาโลดอนมีรูปร่างอย่างไรแน่จึงทำได้ยาก นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ชิมาดะ และคณะยังตั้งข้อสันนิษฐานถึงความเชื่อมโยงด้านปัจจัยทางชีวภาพของเม็กกาโลดอน ที่จัดอยู่ในกลุ่มของ "อันดับปลาฉลามขาว" กับพฤติกรรมที่มีลักษณะเฉพาะของตัวอ่อนฉลามชนิดนี้ที่เติบโตในมดลูกแม่ปลา ทีมนักวิจัยชี้ว่า ปลาขนาดใหญ่ในอันดับปลาฉลามขาวมักมีระบบเผาผลาญพลังงานที่ทำให้ร่างกายอบอุ่นกว่าปลาทั่วไป ทำให้พวกมันว่ายน้ำได้ว่องไวกว่า และสามารถล่าเหยื่อที่ตัวใหญ่และให้พลังงานได้มากกว่า ![]() ![]() ฟันขนาดใหญ่ที่สุด 3 ซี่เป็นของเม็กกาโลดอน ส่วนที่เหลือเป็นของฉลามในยุคปัจจุบัน ที่มาของภาพ,SCIENCE PHOTO LIBRARY นอกจากนี้ การที่ฉลามกลุ่มนี้มีระบบสืบพันธุ์แบบออกลูกเป็นตัวที่เรียกว่า ovoviviparity ซึ่งตัวอ่อนจะพัฒนาขึ้นภายในไข่ที่ยังคงอยู่ในร่างกายของแม่จนกว่าจะพร้อมฟักออกจากไข่แล้วจึงคลอดออกมาเป็นตัว แต่ในกรณีของปลาฉลามกลุ่มนี้มักพบว่าลูกปลาที่ฟักออกมาเป็นตัวแรกมักมีพฤติกรรมกินพวกเดียวกันเองภายในมดลูก (intrauterine cannibalism) โดยจะกินไข่ใบอื่นที่ยังไม่ฟัก หรือแม้แต่ตัวอ่อนที่ฟักออกมาในภายหลัง ทีมนักวิจัยระบุว่า พฤติกรรมกินพวกเดียวกันทำให้ลูกปลาดังกล่าวมีขนาดใหญ่ตั้งแต่ยังไม่คลอดออกจากท้องแม่ และผลักดันให้แม่ปลาต้องกินอาหารเพิ่มขึ้นสำหรับลูกในท้องที่หิวโหย ส่งผลให้แม่มีขนาดใหญ่ขึ้น และเมื่อถึงเวลาที่ลูกปลาคลอดออกมาก็จะมีขนาดใหญ่จนสามารถปกป้องตัวเองจากสัตว์นักล่าชนิดอื่นได้ นักวิจัยบอกว่า พฤติกรรมดังกล่าวบวกกับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น การอาศัยอยู่ในน้ำที่มีอุณหภูมิเหมาะสม และความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ปลาในอันดับปลาฉลามขาว เช่น เม็กกาโลดอน มีขนาดมหึมาได้ https://www.bbc.com/thai/features-54426447
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#3
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก BBCThai
ขยะพลาสติก: เกิดอะไรขึ้นเมื่อไทยยกเลิกการนำเข้าขยะจากต่างประเทศ ........... โดย สมิตานัน หยงสตาร์ ผู้สื่อข่าวพิเศษบีบีซีไทย ![]() ที่มาของภาพ,REUTERS เมื่อสองปีก่อน รัฐบาลจีนได้ออกประกาศด่วนเรื่องห้ามนำเข้าขยะจากต่างประเทศหลังจากพบว่าขยะกำลังล้นประเทศ เมื่อจีนห้ามนำเข้า บรรดาขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมหาศาลก็ย้ายเส้นทางมาสู่ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งไทย สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การนำเข้าขยะพลาสติกของไทยในปี 2561 มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าจาก 69,500 ตันในปีก่อนที่จีนจะห้ามนำเข้าขยะ เป็นกว่า 552,912 ตัน และยังพบการลักลอบนำเข้าขยะอย่างผิดกฎหมายอีกจำนวนมาก การทะลักเข้ามาของขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ ประกอบกับปัญหาขยะที่มีอยู่เดิมในประเทศ ทำให้รัฐบาลประกาศให้ปัญหาขยะเป็นวาระแห่งชาติเมื่อปี 2561 พร้อมกับกำหนดให้ประเทศไทยยกเลิกการนำเข้าขยะหรือเศษพลาสติกและซากอิเล็กทรอนิกส์ 100% ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2563 เป็นต้นไป ก่อนวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นเส้นตายการห้ามนำเข้าขยะจะมาถึง เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากผู้ประกอบการรีไซเคิลที่นำเข้าขยะว่าให้ขยายเวลาออกไป โดยให้เหตุผลว่าขยะภายในประเทศนั้นมีไม่เพียงพอและไม่ตรงตามความต้องการในการรีไซเคิล ความเคลื่อนไหวจากฝั่งผู้ประกอบการทำให้ประชาชนและนักสิ่งแวดล้อมรณรงค์ในโลกออนไลน์โดยใช้แฮชแท็ก #แบนขยะพลาสติก กดดันให้รัฐบาลเดินหน้านโยบายห้ามนำเข้าขยะพลาสติกตามกำหนดเดิม ซึ่งก็เป็นผลสำเร็จ กรมโรงงานอุตสาหกรรมยืนยันกับบีบีซีไทยว่า ขณะนี้ใบอนุญาตนำเข้าขยะได้สิ้นสุดลงแล้วทั้งหมด ดังนั้นผู้ประกอบการที่เคยมีใบอนุญาตนำเข้าขยะจะไม่สามารถกระทำได้ เว้นแต่เป็นการนำเข้าภายใต้มาตรา 152 ของ พ.ร.บ.ศุลกากร ที่อนุญาตการนำเข้าในกรณีเฉพาะ บีบีซีไทยสำรวจปฏิกิริยาจากหลายฝ่าย ทั้งกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผู้ประกอบการคัดแยกขยะ และผู้ประกอบการรีไซเคิลว่าปรับตัวและรับมือกับการนำห้ามนำเข้าขยะนี้อย่างไร วงษ์พาณิชย์: ขยะในประเทศเพียงพอแน่นอน ดร.สมไทย วงษ์เจริญ ประธานกรรมการ บริษัท คัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิล วงษ์พาณิชย์ จำกัด ซึ่งคร่ำหวอดในวงการนี้จนได้รับฉายาว่า "ราชาขยะ" ให้ข้อมูลว่าการยกเลิกนำเข้าขยะส่งผลให้ราคาขยะในประเทศสูงขึ้นทันที ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนหันมาคัดแยกขยะขายมากขึ้น นับว่าเป็นผลดีต่อการจัดการขยะโดยรวม เขาบอกว่าที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นเหมือน "ถังขยะโลก" เนื่องจากนำเข้าขยะจากนานาประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น "ขยะนำเข้า" ยังทำให้ราคาขยะที่รีไซเคิลได้อย่างเช่นพลาสติกและกระดาษในประเทศต่ำลงอย่างมาก "ก่อนหน้านี้เรากำลังเดินไปในทางที่ดี มีการออกนโยบายให้มีการคัดแยกขยะต้นทาง ส่งเสริมให้มีธนาคารขยะที่โรงเรียน วัด เด็กนักเรียนก็สนใจแยกขยะ กินเสร็จแยกเลย นี่สมบัติของหนูของมีค่า แต่พอขยะมันล้น ราคาตก ใครจะอยากแยกอยากขาย" ดร.สมไทยกล่าวกับบีบีซีไทย เขาย้ำว่าการแยกขยะ-เก็บขยะขายเป็นงานที่สร้างรายได้ให้คนจำนวนมาก เช่น ซาเล้งหรือชาวบ้านทั่วไปซึ่งเป็นอาชีพพิเศษที่ไม่ค่อยมีในประเทศอื่นที่ใช้ระบบคัดแยกขยะต้นทางโดยครัวเรือนต้องจ่ายค่าบริการเก็บขยะในอัตราที่สูง ![]() ที่มาของภาพ,GETTY IMAGES ผู้บริหาร บ.วงษ์พาณิชย์มองว่าการนำเข้าขยะจากต่างประเทศทำให้ธุรกิจคัดแยกและขายขยะที่สร้างรายได้ให้คนหาชาวกินค่ำและเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการขยะชะงักลง อีกทั้งยังทำให้ขยะในประเทศมีคุณค่าและมูลค่าลดลง แต่เมื่อยกเลิกการนำเข้าขยะ ขยะในประเทศจึงมีราคาสูงขึ้น "ขยะพลาสติกจาก 10 บาท ราคาลงเหลือกิโลละ 2-3 บาท ตอนนี้ขยับขึ้นมาเป็นกิโลละ 9 บาทในพริบตาเดียว ส่วนกระดาษที่ลงไปเหลือกิโลละ 50 สตางค์ จนซาเล้งไปชูป้ายจะอดตายแล้วหน้ากระทรวงพาณิชย์ วันนี้ราคาขึ้นมาเป็นกิโลละ 5 บาทกว่าแล้ว" "สิ่งสำคัญที่สุดคือเกิดแรงบันดาลใจในการคัดแยกขยะที่ต้นทาง ขยะแพงคือเส้นทางของการสร้างแรงจูงใจ" เขาให้ความเห็น "จริง ๆ แล้วโลกใบนี้ไม่มีขยะเลย ขยะเป็นเพียงทรัพยากรที่ไว้ผิดที่เท่านั้นเอง ถ้าภาครัฐสร้างกลไกที่ถูก มันก็เป็นทรัพยากรสำหรับอุตสาหกรรม สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ เป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่อง" เขากล่าวเสริม ส่วนความกังวลของผู้ประกอบการรีไซเคิลบางรายที่ห่วงว่าเมื่อห้ามนำเข้าแล้วขยะในประเทศจะไม่เพียงพอ นั้น ดร.สมไทยยืนยันว่าปริมาณขยะในประเทศ "เพียงพอต่อกระบวนการรีไซเคิลอย่างแน่นอน" โดยให้ข้อมูลสนับสนุนว่าขณะนี้ไทยผลิตขวดน้ำพลาสติกประมาณ 386,000 ตันต่อปี โรงงานรีไซเคิลรับซื้อไปได้เพียง 260,000 ตันต่อปี ส่วนที่เหลือยังไม่ได้รับซื้อทั้งหมด "ถามว่าวัตถุดิบจากการแยกขยะในไทยพอที่จะส่งป้อนโรงงานได้ไหม ผมบอกว่าเกินพอครับ บางทีเราไปส่งของ โรงงาน (รีไซเคิล) บอกให้เราจอดรอ แล้วเอาขยะที่นำเข้าจากต่างประเทศเข้าไปก่อนเป็นร้อยตู้ บางครั้งให้เรารออยู่ 4-5 วัน เดินออกมาบอกว่าตอนนี้ราคา (ขยะ) ลงแล้วจะขายหรือไม่ขาย ไม่ขายก็เอากลับไปก่อน" ดร.สมไทยเล่าประสบการณ์ตรงในการขายขยะให้โรงงานรีไซเคิล แม้ว่าการห้ามนำเข้าขยะจะเป็นข่าวดี แต่ ดร.สมไทยยังคงกังวลเรื่องการลักลอบนำเข้าขยะ เพราะที่ผ่านมามีการสำแดงเท็จในหลายกรณี อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังใช้ระบบการสุ่มตรวจ ซึ่งเขามองว่าเป็นช่องว่างที่ต้องแก้ไขต่อไป มูลนิธิบูรณะนิเวศ: "มันคืออาชญากรรม" มูลนิธิบูรณะนิเวศเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมที่เกาะติดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากอุตสาหกรรมและการลักลอบนำเข้าขยะมาอย่างต่อเนื่อง แสดงความกังวลเรื่องปัญหาลักลอบนำเข้าขยะและการจัดการ "อาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อม" ของรัฐไทยที่ยังมีช่องโหว่เช่นกัน นายอัครพล ตีบไธสง เจ้าหน้าที่เทคนิคและวิจัย มูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องติดตามเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าขยะ และผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงมาตรการตรวจสอบและดำเนินการกับผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง เขาเสนอว่า เมื่อพบว่ามีการลักลอบนำเข้าขยะหรือการสำแดงเท็จ นอกจากจะเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังต้องมีการผลักดันขยะนั้นออกนอกประเทศ และควรยกเลิกการนำขยะที่สำแดงเท็จมาประมูล ![]() ที่มาของภาพ,บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) นายอัครพลอธิบายว่าในการนำเข้าสินค้าจะมีหมายเลขพิกัดอ้างอิงและรายละเอียดแนบท้ายในการสำแดง แต่ที่ผ่านมามีการสำแดงเท็จเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งหากตรวจพบเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอายัดขยะเหล่านั้นไว้และยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตนำเข้าขยะมาประมูลออกไปใช้ได้หากไม่มีผู้มาแสดงตนเป็นเจ้าของภายใน 60 วัน "ของมันถูกอายัดมาด้วยคุณภาพไม่ดี ปนเปื้อน ถูกจับ แต่ทำไมของที่ไม่ดีเพราะไม่มีคุณภาพ ถึงสามารถเข้าสู่กระบวนการนำออกไปได้อีก" เขาตั้งคำถาม "มันคืออาชญากรรม" นายอัครพลกล่าวพร้อมกับบอกว่าไทยกำลังเป็น "สวรรค์ของการทิ้งขยะ" จากการเติบโตของอุตสาหกรรมรีไซเคิลที่ประเทศต่าง ๆ ใช้เป็นช่องทางในการผลักดันขยะออกนอกประเทศตัวเอง นักวิจัยรายนี้ตั้งข้อสังเกตว่า หลายประเทศในภูมิภาครวมทั้งไทยและกัมพูชาพบปัญหาเรื่องการลักลอบนำเข้าขยะพลาสติกที่ไม่ได้มาตรฐาน ประกอบกับระบบการติดตามเรือสินค้าที่ยังมีช่องโหว่ ทำให้ไม่สามารถรับประกันได้ว่าสินค้าเหล่านั้นจะไม่หวนกลับเข้ามาเพื่อทำการสำแดงใหม่อีก นายอัครพลสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันเรื่องการลดและคัดแยกขยะต่อไป ควบคู่ไปกับการตรวจสอบหน่วยงานภาครัฐ หากพบว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้มีการลักลอบนำเข้าขยะเข้ามาในประเทศ ก็อาจต้องดำเนินการฟ้องร้อง ผู้ประกอบการยอมรับและปรับตัว นายริชาร์ด โจนส์ รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล คือผู้รีไซเคิลขวดพลาสติก PET ซึ่งเป็นขวดพลาสติกใสรายใหญ่ของไทยกล่าวว่า เมื่อรัฐบาลมีมาตรการห้ามนำเข้าขยะออกมาเช่นนี้ ภาคธุรกิจก็ต้องปรับตัวตาม นายโจนส์กล่าวว่าไอวีแอล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าขยะพลาสติกจากต่างประเทศ ได้วางแผนเพิ่มการใช้ขยะพลาสติกในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ![]() ที่มาของภาพ,บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) นายโจนส์อธิบายว่าไอวีแอลเน้นการรีไซเคิลพลาสติก PET เพื่อแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์และเส้นใย โดยใช้ขวดพลาสติกนำเข้าไม่เกิน 10% ของการผลิตทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นขวดพลาสติกที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เพราะผ่านการทำความสะอาดจากต้นทางที่ดี และมีการปนเปื้อนต่ำ เขากล่าวว่า การห้ามนำเข้าขยะจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรีไซเคิลขยะต่างกันออกไป แต่สำหรับไอวีแอลนั้นได้รับผลกระทบไม่มากนักเพราะคนไทยมีการคัดแยกขวดพลาสติกกว่า 85% ของทั้งหมด ซึ่งค่อนข้างสูงเทียบเท่ากับนานาชาติ นี่จึงเป็นเหตุให้กำลังการผลิตของไอวีแอลยังคงเดินหน้าต่อได้ แต่ยอมรับว่าอาจกระทบต่อการขยายกิจการ "มันมีผลกระทบเพียงแค่การลงทุนใหม่ เพราะถ้านำเข้า (ขยะพลาสติก) ไม่ได้ ก็ยากที่จะขยายการลงทุน" นายโจนส์กล่าวว่า ปริมาณขยะพลาสติกที่ทางบริษัทต้องการขณะนี้ยังคงเพียงพอที่จะป้อนสายพานการผลิต แต่ปัญหาอย่างหนึ่งของขวดพลาสติกไทยคือยังคงพบการปนเปื้อนจากการใช้งาน เช่น การนำไปเขี่ยก้นบุหรี่ เป็นต้น ซึ่งคนทั่วไปอาจจะต้องตระหนักถึงการใช้งานลักษณะนี้หากต้องการนำกลับมารีไซเคิล เขายังเสนอให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทบทวนประกาศเรื่องการห้ามใช้ภาชนะที่ทำจากพลาสติกที่ใช้แล้วมาบรรจุอาหาร เนื่องจากขณะนี้กระบวนการผลิตได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยต่อสุขภาพ และหลายประเทศในยุโรปก็อนุญาตให้ใช้ได้แล้ว ดังนั้นบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิลจึงไม่สามารถขายในประเทศได้และต้องส่งออกทั้งหมด ไอวีแอลมองว่าหาก สธ. อนุญาตให้ใช้พลาสติกรีไซเคิลในการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้ ราคาขยะพลาสติกในประเทศก็อาจปรับสูงขึ้นอีก https://www.bbc.com/thai/thailand-54445023
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 08-10-2020 เมื่อ 09:11 |
![]() |
|
|