เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #2  
เก่า 12-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


เรือดำน้ำจีน ทุบสถิติ ดำดิ่งร่องลึกก้นสมุทรแปซิฟิก ลึกกว่า 10.9 กม.

เรือดำน้ำจีน 'เฟิ่นโต้วโจว' สร้างสถิติใหม่ ปฏิบัติการดำน้ำลึกแบบมีมนุษย์ควบคุม ที่บริเวณร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา ในมหาสมุทรแปซิฟิก ได้ที่ระดับความลึกถึง 10.909 กิโลเมตร



เมื่อ 11 พ.ย. 63 สำนักข่าวซินหัวรายงาน สถาบันวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมทะเลลึก สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีนรายงานว่า จีนสร้างสถิติใหม่ในปฏิบัติการดำน้ำลึกแบบมีมนุษย์ควบคุมหลังจากเรือดำน้ำขับเคลื่อนด้วยมนุษย์ 'เฟิ่นโต้วเจ่อ' (Fendouzhe) สามารถดำดิ่งลงใต้มหาสมุทรที่ระดับความลึก 10,909 เมตร บริเวณร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา เมื่อวันอังคารที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา

เฟิ่นโต้วเจ่อ ในภาษาจีนมีความหมายว่า 'ผู้ไม่ย่อท้อ' ประสบความสำเร็จในการลงจอด ณ ร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา ทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นร่องลึกมากที่สุดของโลก เมื่อเวลา 08.12 น. ของวันอังคารที่ 10 พ.ย.2563

ทั้งนี้ เรือดำน้ำเฟิ่นโต้วเจ่อ พร้อมด้วยเรือแม่สองลำ คือ ทั่นสั่ว1 (Exploration1) และทั่นสั่ว2 (Exploration2) ได้เดินทางออกจากเมืองซานยา มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ทางตอนใต้ของจีน เพื่อปฏิบัติการดำน้ำลึกที่บริเวณร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนาในมหาสมุทรแปซิฟิก และสามารถสร้างสถิติใหม่ไ้ด้สำเร็จ.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1974699


*********************************************************************************************************************************************************


ทาร์บอลในชั้นบรรยากาศเทือกเขาหิมาลัย


(ภาพ : Credit : American Chemical Society)

บางคนเรียกที่ราบสูงหิมาลายาทิเบตว่าขั้วโลกที่สาม เนื่องจากพื้นที่นี้เป็นแหล่งหิมะและน้ำแข็งมากที่สุดนอกขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ทว่าธารน้ำแข็งกำลังมีความอ่อนไหวอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและอิทธิพลจากมนุษย์ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา

และดูเหมือนจะไม่ใช่ข่าวดีนักเมื่อมีรายงานในวารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมของสมาคมเคมีอเมริกัน ว่าตรวจพบทาร์บอล (Tarball) หรือก้อนน้ำมันดิบสีดำในชั้นบรรยากาศของเทือกเขาหิมาลัย ทั้งนี้ การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลนั้นจะปล่อยอนุภาคคาร์บอเนเชียสที่ดูดซับแสง ซึ่งสามารถเกาะบนหิมะและน้ำแข็ง อาจทำให้ธารน้ำแข็งละลายเร็วขึ้น มีการวิจัยก่อนหน้านี้บ่งบอกว่าอนุภาคชนิดหนึ่งที่เรียกว่าเขม่าดำหรือคาร์บอนดำ (Black carbon) กระจายไปได้ไกลโดยแรงลม ช่วยขนส่งไปยังชั้นบรรยากาศของเทือกเขาหิมาลัย ทว่าไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของคาร์บอนสีน้ำตาล (Brown carbon) ซึ่งเป็นอนุภาคที่สามารถสร้างทาร์บอลที่มีลักษณะเป็นทรงกลมขนาดเล็กมีความหนืด และประกอบด้วยคาร์บอน ออกซิเจน ไนโตรเจน กำมะถัน และโพแทสเซียมจำนวนเล็กน้อย

จากการใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนพบว่าประมาณ 28% ของอนุภาคนับพันในตัวอย่างอากาศของสถานีวิจัยหิมาลัยมีทาร์บอล และเปอร์เซ็นต์ก็เพิ่มขึ้นในวันที่มีระดับมลพิษสูง การวิเคราะห์รูปแบบลมและข้อมูลดาวเทียมพบว่ามีกิจกรรมการเผาไหม้ของกากข้าวสาลีขนาดใหญ่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำสินธุคงคา นักวิจัยคาดว่าทาร์บอลที่เกาะบนพื้นผิวน้ำแข็งอาจส่งผลต่อภาวะโลกร้อนอย่างมีนัยสำคัญ ข้อมูลนี้จึงสำคัญต่อการสร้างแบบจำลองสภาพภูมิอากาศในอนาคตที่ควรพิจารณาการขนส่งทาร์บอลระยะไกลไปยังเทือกเขาหิมาลัย.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1973872
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:31


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger