เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #2  
เก่า 09-12-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ


8 ปี Wreck Dive "เรือช้าง" แหล่งดำน้ำลึก ตราด-ปรับตัวรับโควิด



"เกาะช้าง" จังหวัดตราด ที่มาของรายได้ท่องเที่ยวจังหวัดตราด เฉียด ๆ 50% ปีละเกือบ 10,000 ล้านบาท รายได้หลักมาจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศถึง 80% แต่สภาวะโควิด-19 รายได้เหลือประมาณ 20% การท่องเที่ยวทางทะเลกิจกรรมดำน้ำตื้นแบบสน็อกเกิลลิ่ง (snorkelling) ส่วนใหญ่จะเป็นที่ชื่นชอบนักท่องเที่ยวไทย มีเกาะต่าง ๆ ที่มีปะการังสวยงาม 4-5 แห่ง

ส่วนการดำน้ำลึกแบบสกูบา (scuba) ที่ลูกค้าหลักเป็นชาวต่างประเทศ เมื่อ 8 ปีที่ผ่านมาโครงการวาง "เรือช้าง" : Wreck Dive สร้างเป็นแหล่งดำน้ำลึกขนาดใหญ่ บริเวณเกาะช้าง จ.ตราด แต่ละปีจะมีนักดำน้ำจากต่างประเทศมาดำน้ำเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการประมาณว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าปีละประมาณ 50 ล้านบาท แต่หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผล กระทบต่อรายได้อย่างหนัก


8 ปีผลสำเร็จแหล่งดำน้ำลึก

น.ท.สมบัติ บุญเกิดพานิช หรือ เสธ.บัติ อดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.ตราด ผู้ปั้นโปรเจ็กต์นี้ได้สะท้อนปัญหาธุรกิจดำน้ำลึกท่ามกลางโควิด-19 พร้อมเล่าประวัติย้อนรอยเรือหลวงช้าง (His Thai Majesty?s Ship : HTMS Chang) ที่นำมาวางใต้ท้องทะเลบริเวณเกาะช้าง จ.ตราด เพื่อสร้างเป็นบ้านปลาขนาดใหญ่ว่า ขณะที่เป็นนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตราด จากวิกฤตปะการังฟอกขาว ปี 2553 บริเวณเกาะต่าง ๆ และเกาะช้างที่เป็นแหล่งดำน้ำปะการังได้ถูกทำลาย ทำให้แหล่งท่องเที่ยวในทะเลไม่มีจุดสนใจ

ด้วยเป็นคนท้องถิ่นมีประสบการณ์ดำน้ำ เห็นว่าบริเวณเกาะช้าง จ.ตราด น่าจะมีแหล่งดำน้ำลึกแบบสกูบาเพิ่มขึ้น และอาชีพของชาวประมงพื้นบ้านจะมีแหล่งหาปลาเพื่อเพิ่มรายได้ ด้วยเหตุผล 2-3 ข้อ จึงคิดทำโปเจ็กต์บ้านปลาขนาดใหญ่ โดยขอกองทัพเรือ นำเรือช้างซึ่งเป็นเรือรบหลวงขนาดใหญ่ที่ปลดระวาง นำมาวางในท้องทะเลตราด องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. สนับสนุนงบประมาณให้ 5.5 ล้านบาท ภายใต้วงเงินที่จำกัดมาก ๆ

นายกิตติ โกสินสกุล นายกสมาคมประมงจังหวัดตราดขณะนั้น ช่วยดำเนินการร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.ตราด วางเรือช้าง เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 ครบ 8 ปีเห็นความสำเร็จ เร็คไดฟ์ (Wreck Dive) HTMS Chang เป็นบ้านปลาขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งดำน้ำลึกที่ได้รับความนิยมจากนักดำน้ำลึกทั้งต่างประเทศและไทย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดตราด

"น.ท.สมบัติกล่าวว่า ปีแรกนักดำน้ำได้เริ่มเข้ามา พร้อม ๆ กับปลาเล็ก ปลาใหญ่ รวมทั้งฉลามวาฬปลาที่นักดำน้ำใฝ่ฝัน กิจกรรมน้ำดำลึกได้เติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ๆ มาหยุดชะงักในช่วงโควิด-19 เพราะลูกค้าดำน้ำลึกเป็นชาวต่างประเทศ 60-70%"


Wreck Dive เรือช้างสร้างเศรษฐกิจ

Wreck Dive เรือช้างสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจท่องเที่ยวอย่างเชื่อมโยงและอาชีพประมงพื้นบ้าน นอกจากบริษัททำธุรกิจดำน้ำลึก 3-4 บริษัท รวมทั้งฟรีแลนซ์

จุดที่วางเรือเป็นแหล่งขยายพันธุ์ปลาสร้างอาชีพให้ชาวประมงและมีปลาใหญ่อย่างฉลามวาฬมาให้เห็น

โครงสร้างของเรือมีขนาดใหญ่ความยาว 100 เมตร สามารถดำน้ำภายในห้องต่าง ๆ ของเรือได้อย่างปลอดภัย ด้วยระดับความลึกไล่ระดับ 5-40 เมตร เหมาะทั้งนักดำน้ำทั่วไป และเรียนหลักสูตรการดำน้ำ ระดับพื้นฐาน open water diver ถึงระดับขั้นสูง advance diver เพื่อรับใบอนุญาตและขึ้นสู่มืออาชีพ dive master ครูฝึก และ instructor training เป็นครูสอนดำน้ำ ต้องใช้ระยะเวลาเรียนตั้งแต่ 3-4 วัน ถึง 2-3 เดือน

จึงเป็นการช่วยสร้างงานให้ชุมชนในท้องถิ่น สร้างรายได้ให้ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก เรือ-รถโดยสาร ร้านอาหาร กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ 70-80% เป็นโซนยุโรป หลัง ๆ จะมีชาวจีนเข้ามาบ้าง ส่วนคนไทยยังให้ความสนใจน้อย น่าจะมีการทำประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพราะแนวโน้มที่ขยายตัวในกลุ่มนักท่องเที่ยวต้องการประสบการณ์สร้างสรรค์


"ธุรกิจดำน้ำ" ปรับตัวหลังโควิด

นายอัยการ เชยชื่น ครูสอนดำน้ำ (instructor) ของบริษัท บีบีไดรเวอร์ส เกาะช้าง (BB Divers Koh Chang) 1 ใน 4 บริษัทดำน้ำในเกาะช้าง กล่าวว่า ช่วง 8 ปี Wreck Dive เรือช้าง จำนวนนักดำน้ำลึกมีอัตราการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ 80% เป็นชาวต่างประเทศ คนไทย 20% และเริ่มมีนักท่องเที่ยวไทยสนใจดำน้ำ ช่วงปี 2560-2562 ก่อนโควิด-19 อัตราการเติบโตสูง มีไดฟ์ดำน้ำทุกวัน

แต่เมื่อเกิดโควิด-19 นักดำน้ำต่างประเทศเข้ามาไม่ได้ จำนวนนักดำน้ำลดลง 50% เดือนแรกบริษัทมีปรับลดเงินเดือนพนักงาน 30% ไป 1เดือน ต่อมาเริ่มฟื้นตัวเพราะปรับเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายจับตลาดคนไทย กลุ่มครูดำน้ำ และกลุ่มชาวต่างประเทศในไทย ตอนนี้Wreck Dive เรือช้าง ยังไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวางเท่าแหล่งดำน้ำลึกทางภาคใต้ จากงาน Thailand Diving Expo ต้นเดือนตุลาคม เปิดบูทคนรู้จักแค่ 20% เทียบกับทางใต้ มีบริษัททำธุรกิจดำน้ำประมาณ 70 บริษัท เกาะช้างมี 3-4 บริษัท สื่อสารได้กว้างกว่า

แต่ได้รับความสนใจเมื่อนำเสนอข้อมูลเปิดขายแพ็กเกจราคาพิเศษหมดอย่างรวดเร็ว ถ้าธุรกิจท่องเที่ยว จ.ตราด รวมตัวกันทำ พี.อาร์.อย่างจริงจัง น่าจะทำตลาดสู้กับทางใต้ หรือที่อื่น ๆ ได้ "เพราะไฮไลต์คือ ขนาดใหญ่ มีความสมบูรณ์ สวยงาม น้ำใส ดำภายในตัวเรือได้อย่างปลอดภัย มีโอกาสเห็นฉลามวาฬ ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือบางเบ้า เกาะช้าง ด้วยเรือไม้ ประมาณ 40 นาที" นายอัยการ ครูสอนดำน้ำ BB Divers กล่าว



"ตุลาคม-เมษายน ช่วงระยะเวลา 6-7 เดือนเป็นช่วงพีกของการดำน้ำลึก ก่อนโควิด-19 มีนักดำน้ำลึกทั่วไป และผู้ที่ต้องการเรียนหลักสูตรดำน้ำเริ่มขั้นพื้นฐาน ถึงเป็นครูสอนดำน้ำใช้เวลาตั้งแต่ 3-4 วัน ถึง 2-3 เดือน จะส่งผลให้มีการกระจายรายได้จากธุรกิจดำน้ำ คนในท้องถิ่นมีรายได้จากลูกเรือ คนขับเรือ เรือทัวร์ โรงแรม ร้านอาหาร รถเช่า แต่เมื่อมีสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 กลุ่มลูกค้าลดเหลือ 50% ยังมีกลุ่มคนไทยที่มีกำลังซื้อสูง และชาวต่างประเทศที่อยู่ในไทย

ถ้านักท่องเที่ยวไทย 500,000 คน มาเที่ยวทะเล สนใจดำน้ำลึก 80,000 คน ธุรกิจดำน้ำจะอยู่ได้ ตอนนี้ประคับประคองไป หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ไม่เกิน 2 ปีธุรกิจดำน้ำน่าจะปิดตัวลงหลายแห่ง เพราะช่วงทำรายได้มีเพียง 6-7 เดือน ที่เหลือคือมีแต่รายจ่าย และพบว่าที่ผ่านมามีเรือทัวร์ดำน้ำที่มาจากทางใต้และ จ.ระยอง จัดเป็นเรือทัวร์นำนักดำน้ำไปแหล่งดำน้ำลึกโดยตรง พักค้างทานอาหารบนเรือ ไม่ได้ขึ้นเกาะหรือฝั่ง เป็นผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจดำน้ำที่เกาะช้าง" นายอัยการกล่าว


เร่งทำ P.R. กระตุ้นท่องเที่ยว

ระยะเวลา 8 ปี เรือช้างเริ่มมีสภาพชำรุดปรักหักพัง จากเรือทัวร์ดำน้ำที่เข้าใกล้และผูกเชือกเรือไว้กับโครงสร้างเรือช้าง แทนการทิ้งสมอ ตามไปด้วยแรงคลื่นลมทำให้เรือขยับตัว ประกอบกับไม่มีหน่วยงานใดได้รับมอบหมายรับผิดชอบดูแล ภาคเอกชนบริษัททัวร์ดำน้ำ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน จึงร้องขอ นายภิญโญ ประกอบผล ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ให้แก้ไขปัญหา

และได้ข้อสรุปว่า วันที่ 16-17 ธันวาคม 2563 จะมีโครงการติดตั้งทุ่นผูกเรือช้าง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดตราด (ศรชล.จ.ตราด) ร่วมกับภาคเอกชนและท้องถิ่น และจะมอบหมายให้ท้องถิ่นหรือหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ดูแลบริหารจัดการต่อไป และทางกองทัพเรือจะมีการจัดทำแผนที่การเดินเรือ มีการเว้นระยะห่างเรือช้างที่ผูกทุ่น 5 เมตร เพื่อป้องกันปัญหาการเดินเรือ เพื่อรักษาเรือช้างเป็นแหล่งดำน้ำลึกที่สมบูรณ์ให้นานที่สุด

"วันติดตั้งทุ่นบริเวณเรือช้าง มีเวทีเสวนา 8 ปีเรือช้าง กับผู้มีส่วนผลักดันทำโปรเจ็กต์นี้จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน มีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โควิด-19 เชิญบริษัทดำน้ำทั่วประเทศไทยมาร่วมงาน

เพื่อประชาสัมพันธ์ Wreck Dive เรือช้าง กลุ่มเป้าหมายคือครูดำน้ำชาวต่างประเทศที่อยู่ในไทย หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่ชื่นชอบกิจกรรมดำน้ำ เพื่อช่วยกระตุ้นธุรกิจการท่องเที่ยวและไม่ให้สูญเสียตลาดนักดำน้ำลึก เรามั่นใจในแม็กเนตของเรือช้าง ที่เป็นแหล่งดำน้ำขนาดใหญ่ อุดมสมบูรณ์ด้วยปะการัง สัตว์น้ำสวยงาม"


https://www.prachachat.net/local-economy/news-568246

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:10


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger