เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 07-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


โครงการแอตลาส พบสัตว์ทะเลใหม่ 12 ชนิด


(ภาพจาก : IFREMER / ATLAS project)

โครงการแอตลาส (ATLAS project) เป็นองค์กรทางทะเลที่ศึกษาแถบแอตแลนติกเหนือ ไม่ว่าจะเป็นน้ำ พื้นทะเล กระแสน้ำ และสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ที่นั่น มีนักวิจัยจาก 13 ประเทศเข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งครอบคลุมความสนใจที่หลากหลายตั้งแต่ฟิสิกส์ เคมีไปจนถึงชีววิทยาของมหาสมุทร

เป้าหมายเดิมของทีมวิจัยจากแอตลาส คือการทำแผนที่น่านน้ำลึกนอกชายฝั่งยุโรป สหรัฐอเมริกา และแคนาดา แต่เมื่อเร็วๆนี้นักวิจัยที่ทำงานร่วมกับโครงการแอตลาส ได้รายงานการค้นพบสัตว์ทะเลสายพันธุ์ใหม่ๆ 12 ชนิด มีทั้งปะการังชนิดใหม่ และสัตว์ที่ไม่เคลื่อนไหวมีลักษณะคล้ายคลึงไม้จำพวกตะไคร่น้ำอย่างมอสส์ นอกจากนี้ยังพบว่ามีสัตว์ 35 ชนิดอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่นักวิจัยไม่เคยรู้จักมาก่อนว่าพวกมันอาศัยอยู่

การค้นพบสัตว์ทะเลเหล่านี้ช่วยให้นักวิจัยเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีต่อมหาสมุทรของโลก ซึ่งงานวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ว่านอกจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นเนื่องจากภาวะโลกร้อนแล้ว ก๊าซยังเพิ่มความเป็นกรดในมหาสมุทรด้วย ทีมวิจัยของแอตลาสพบว่าการเป็นกรดดังกล่าวกำลังโจมตีฐานรากของแนวปะการัง พร้อมคาดการณ์ว่าถิ่นอาศัยของสัตว์ในทะเลลึกจำนวนมากจะล่มสลายลงในศตวรรษหน้า และยังพบว่ากระแสน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติกชะลอตัว ส่งผลให้รูปแบบสภาพอากาศเปลี่ยนไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศที่เปราะบางต่อไป.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2006788

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 07-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


หนุ่มประมงเก้าเส้งพบ "อำพันทะเล" หนัก 7 กก.ริมหาดสมิหลา หวังพิสูจน์ขายได้ราคาจริงหรือไม่

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หนุ่มประมงพื้นบ้านชุมชนเก้าเส้ง บังเอิญพบ "อำพันทะเล" น้ำหนัก 7 กก. ลอยมาเกยชายหาดสมิหลาในช่วงคลื่นลมแรง หวังพิสูจน์ความจริงขายได้ราคาตามที่เป็นข่าวหรือไม่



วันนี้ (6 ม.ค.) ที่ จ.สงขลา ชาวประมงพื้นบ้านได้พบ และเก็บก้อนประหลาดคล้าย "อำพันทะเล" หรือ "อ้วกวาฬ" ได้ 1 ก้อน บริเวณชายหาดแหลมสมิหลา มีน้ำหนัก 7.1 กิโลกรัม โดยคนที่พบคือ นายเฉลิมชัย หรือซัน มะหะพันธ์ วัย 20 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนเก้าเส้ง อ.เมือง จ.สงขลา

ซึ่งพบอำพันทะเลก้อนนี้โดยความบังเอิญ ขณะกำลังลากอวนจับปลากระบอกอยู่ริมทะเลกับพ่อ และนำมาเก็บไว้ที่บ้าน ชาวบ้านที่เป็นชาวประมงพื้นบ้านในชุมชนเก้าเส้งต่างบอกว่าเป็นอำพันทะเล หรืออ้วกวาฬ และเมื่อนำมาทดลองเผาไฟ มันก็จะละลายเหมือนกับเทียนไข จึงเชื่อว่าเป็นอำพันทะเล และต้องการให้ผู้รู้ตรวจสอบว่าเป็นอำพันทะเลของแท้หรือไม่ และมีการรับซื้อกันในราคาสูงตามที่เป็นข่าวจริงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สำหรับอำพันทะเลที่พบในพื้นที่ของ จ.สงขลา และเคยตกเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้นั้น ยังไม่มีการยืนยันว่าสามารถขายได้หรือไม่ เพียงแค่บอกกันปากต่อปากว่ามีราคาแพง ซึ่งมีราคากิโลกรัมละหลายหมื่นบาท

แต่จากการตรวจสอบข้อมูลของผู้สื่อข่าว พบว่า อำพันทะเลที่พบตามชายหาดของประเทศไทย เป็นอำพันทะเลเกรดต่ำ มีไขมันปะปนบ้าง แต่ไม่ได้คุณภาพ เนื่องจากวาฬหัวทุยในฝั่งทะเลไทย อาศัยอยู่ในน้ำตื้น ไม่ได้กินแพลงก์ตอนในทะเลลึก จึงไม่มีการสังเคราะห์สารตั้งต้นในการสกัดน้ำหอม ข่าวการพบอำพันทะเลในไทยพักหลังจึงเงียบหายไป เพราะไม่มีใครยืนยันได้ว่ามีการรับซื้อจริงหรือไม่


https://mgronline.com/south/detail/9640000001029


*********************************************************************************************************************************************************


"หาดดังบาหลี" เจอคลื่นพัดขยะเข้าฝั่งจนกลายเป็น "ชายหาดขยะ" สะท้อนวิกฤติขยะในทะเล



ภาพข่าวจากสำนักข่าว CNN สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาขยะในทะเล ซึ่งในช่วงที่มีลมมรสุม ทำให้คลื่นทะเลพัดพาขยะจากในทะเลเข้าหาชายฝั่ง จนทำให้ชายหาดชื่อดังหลายแห่งของบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เต็มไปด้วยขยะมากมาย

ชายหาดชื่อดังของบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย กำลังเผชิญปัญหาขยะที่ถูกพัดพาจากในทะเลเข้ามายังชายฝั่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกปีช่วงมรสุม เนื่องจากปัญหาการจัดการขยะ และปัญหาวิกฤมลพิษขยะในทะเลทั่วโลก

เจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นจากหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาลของพื้นที่ Badung กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างหนักในการทำความสะอาดชายหาด แต่ก็ยังคงมีขยะในจำนวนมากทุกวัน ทั้งที่ชายหาดกูตา เลเจียน และเซมินยัค ซึ่งเป็นชายหาดท่องเที่ยวชื่อดังของบาหลี ขยะจากท้องทะเลราว 70% เป็นขยะพลาสติก โดยขยะเหล่านี้จะถูกตัก และขนโดยรถบรรทุกไปยังสถานที่ฝังกลบ

ทางรัฐบาลอินโดนีเซีย มีแผนการลดขยะพลาสติกในประเทศ ลดขยะพลาสติกในมหาสมุทรลง 70% ภายในปี 2568 และปลอดมลภาวะจากพลาสติกภายในปี 2583



แต่ทั้งนี้ ดร. เดนิส ฮาร์เดสตี้ นักวิจัยหลักของหน่วยงานวิทยาศาสตร์ CSIRO ของออสเตรเลียและผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษพลาสติกทั่วโลก ได้กล่าวว่า ปัจจุบันมีการเก็บพลาสติกจำนวนมหาศาลจากชายหาด และในแต่ละปีสถานการณ์ก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ สำหรับในอินโดนีเซีย มีหมู่เกาะจำนวนมากที่ประสบชะตากรรมคล้ายกัน และชายหาดของบาหลีทางตะวันตกเฉียงใต้มีแนวโน้มที่จะได้รับขยะจากทะเลมากกว่าเมื่ออยู่ในช่วงฤดูมรสุม ปริมาณขยะพลาสติกเพิ่มขึ้นตามการผลิตพลาสติกทั่วโลก และในประเทศที่อยู่ในเขตลมมรสุมนั้นจะได้รับผลกระทบจากขยะพลาสติกเหล่านี้รุนแรงมากกว่าในพื้นที่อื่น

ทางด้านหัวหน้าศูนย์การสำรวจระยะไกลและวิทยาศาสตร์ในมหาสมุทรที่มหาวิทยาลัย Udayana ของบาหลี กล่าวว่าปัญหาสำคัญคือระบบการจัดการขยะที่ไม่มีประสิทธิภาพของอินโดนีเซีย สำหรับในบาหลีนั้นเพิ่งเริ่มมีการจัดการระบบใหม่ รวมถึงพื้นที่ชวาด้วย

นอกจากชายหาดชื่อดังในบาหลีจะเผชิญผลกระทบจากปัญหาขยะชายหาดที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปีแล้ว ในปีที่ผ่านมานี้ก็ยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยลง เช่นเดียวกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในบาหลี ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 ที่ประเทศอินโดนีเซียยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศ ซึ่งบาหลีพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก จึงทำให้เศรษฐกิจของบาหลีได้รับผลกระทบอย่างมาก จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำลายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยปัจจุบันมีเพียงนักท่องเที่ยวภายในประเทศเท่านั้น


https://mgronline.com/travel/detail/9640000000911

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 07-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


ระลอกแรก! 'แมงกะพรุนไฟ' โผล่ 'เกาะห้อง' อุทยานธารโบกขรณี เผยพิษร้ายแรง



6 มกราคม 2564 นายจำเป็น ผอมผักดี หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ธบ 1 (เกาะห้อง)อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ทำการจัดเก็บแมงกะพรุนไฟ ที่ลอยยู่ตามแนวชายหาดเกาะห้อง หลังพบว่ามีแมงกะพรุนไฟถูกคลื่นซัดลอยเข้ามาบริเวณชายหาด ที่นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำและเกรงว่านักท่องเที่ยวจะไปสัมผัสจนทำให้ได้รับอันตรายได้ เนื่องจากแมงกะพรุนชนิดดังกล่าวมีพิษร้ายแรง

นายจำเป็น กล่าวว่า แมงกะพรุนที่พบในเขตอุทยานฯ เป็นแมงกะพรุนแดง หรือแมงกะพรุนไฟ มีพิษร้ายแรง หากสัมผัสโดยตรงก็จะปวดแสบปวดร้อน โดยสาเหตุที่พบมากในวันนี้เกิดจากกระแสลมเปลี่ยนทิศทาง และคลื่นพัดเข้ามาบริเวณหมู่เกาะห้อง ในพื้นที่หมู่ 3 ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ เขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี โดยตั้งแต่เช้าจนขณะนี้ได้มีแมงกะพรุนแดง ขนาด 3-4 เซนติเมตร ลอยเกลื่อนทะเล และบางส่วนถูกคลื่นซัดลอยติดอยู่ตามชายหาด



เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ต้องใช้สวิงเร่งตักแมงกะพรุนในทะเล และเก็บกวาดตามชายหาดออก พร้อมแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์โดยการบอกกล่าวของเจ้าหน้าที่ให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังไม่ควรลงเล่นน้ำ และให้อยู่บนชายหาด อย่าสัมผัสแมงกะพรุนอย่างเด็ดขาด เนื่องจากจะมีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน หากบางคนมีอาการแพ้ขั้นรุนแรงก็จะต้องไปพบแพทย์โดยทันที



สำหรับการแก้พิษเบื้องต้นเมื่อถูกแพงกะพรุนไฟ โดยการใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณที่ถูกพิษ ซึ่งหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการกำจัดแมงกะพรุนออก จึงได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยว หรือกรุ๊ปทัวร์ลงเล่นน้ำได้ เนื่องจากมีปริมาณไม่มากนัก และเป็นระลอกแรกของปี ที่พบ คาดว่าประมาณ 1-2 วัน เมื่อคลื่นลมสงบแมงกะพรุนก็จะหมดไป


https://www.naewna.com/likesara/543502
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:34


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger