เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 11-11-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ส่อง COP26 : ความหวังสำคัญในการอนุรักษ์มหาสมุทร .......... ต่อ



เครดิตภาพ https://thaipublica.org/2021/11/sustainability4all05/

จอห์น เคอร์รี ผู้แทนพิเศษด้านสภาพภูมิอากาศของสหรัฐอเมริกา กล่าวในที่ประชุมสหประชาชาติเร็วๆ นี้ว่า สหรัฐอเมริกาตระหนักดีถึงความเชื่อมโยงระหว่างมหาสมุทรกับสภาพภูมิอากาศอย่างแยกไม่ออก และจะให้การสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ทะเลที่สำคัญๆ เช่น 30?30 ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่คุ้มครองทางทะเล หรือพื้นที่ที่ปลอดจากกิจกรรมประมงทำลายล้าง เช่น อวนลาก ให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี 2030 รวมไปถึงการผลักดันพันธกิจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการขนส่งทางเรือให้เป็นศูนย์ (Zero Emission Shipping Mission) โดยเรือขนส่งขนาดยักษ์อย่างน้อยร้อยละ 5 ต้องเดินเรือโดยไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเลยภายในปี 2030

ข้อเรียกร้อง 30?30 ที่พยายามผลักดันให้เกิดพื้นที่คุ้มครองทางทะเลทั่วโลกให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ภายในปี 2030 ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ และได้รับการบรรจุอยู่ในร่างเบื้องต้นของข้อตกลงการประชุมสุดยอดด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (COP15) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะนักวิทยาศาสตร์มองว่า เป็นมาตรการที่ชัดเจนและจับต้องได้ที่สุด โดยในปัจจุบันเรามีพื้นที่คุ้มครองทางทะเลโดยรวมทั้งหมดทั่วโลกราวร้อยละ 8 เท่านั้น ส่วนของประเทศไทย ปัจจุบันมีพื้นที่คุ้มครองทางทะเลไม่ถึงร้อยละ 6 การเพิ่มพื้นที่คุ้มครองทางทะเลให้ได้ถึงร้อยละ 30 ทั้งในระดับประเทศและระดับโลกจึงนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง

ความร่วมมือ Because the Ocean เป็นการรวมกลุ่มของประเทศพัฒนาและกำลังพัฒนาจำนวน 41 ประเทศ (พ.ย. 2021) ที่ต้องการชูบทบาทของมหาสมุทรในนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Ocean-Climate nexus) ตั้งแต่การประชุม COP21 ที่กรุงปารีส ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือ Because the Ocean ได้ผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในการพิจารณามาตรการอนุรักษ์ทะเลให้เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ (Nationally Determined Contributions ? NDCs) ภายใต้ข้อตกลงปารีส นอกจากนี้ยังได้รวบรวมมาตรการที่เกี่ยวข้องกับมหาสมุทรในยุทธศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งนำเอามหาสมุทรมาเป็นส่วนหนึ่งของทางออก ซึ่งสามารถใช้ได้กับ NDCs แผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (NAPs) แผนการสื่อสารด้านการปรับตัว (AC) และกรอบนโยบายระดับชาติ (National Policy Framework)

แอนนา-มารี ลอรา ผู้อำนวยการนโยบายสภาพภูมิอากาศของ Ocean Conservancy กล่าวว่า การประชุม COP26 ต้องบูรณาการประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมหาสมุทรเข้าไปในกระบวนการพิจารณาด้วย โดยหวังว่าจะเห็นการเชื่อมโยงด้านนโยบายระหว่างมหาสมุทรและสภาพภูมิอากาศ (Ocean-Climate Dialogue) เป็นผลสำเร็จหลังการประชุม ส่วน Ghislaine Llewellyn รักษาการฝ่ายมหาสมุทรของ WWF International ให้ความเห็นว่า หาก COP26 ประสบความสำเร็จ เราคงจะได้เห็นเรื่องของมหาสมุทรอยู่ในแผนการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ชัดเจน รวมไปถึงการลงทุนด้านงบประมาณให้มากเพียงพอต่อการแก้ไขปัญหา

"คนนับล้านๆ ที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งและหมู่เกาะที่ลุ่มต่ำ ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องสู้สุดชีวิต และเรียกร้องให้หัวหน้ารัฐบาลในงานประชุมครั้งนี้ต้องยกระดับการแก้ปัญหา เพราะวิกฤติด้านสภาพภูมิอากาศก็คือวิกฤติทางทะเล ซึ่งเราได้เห็นตัวอย่างจากปรากฏการณ์คลื่นความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิของมหาสมุทรสูงขึ้นจนทำให้ระบบนิเวศทางทะเลหลายแห่งพังพินาศ โดยเฉพาะแนวปะการังเกรตแบริเออร์รีฟในออสเตรเลีย"

แอนนา-มารี กล่าวทิ้งท้าย

ล่าสุดระหว่างการประชุม COP26 ปานามา เอกวาดอร์ โคลัมเบีย และคอสตาริกา ได้ประกาศถึงความร่วมมือในการจัดตั้งเครือข่ายพื้นที่คุ้มครองทางทะเลของมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออก (Eastern Tropical Pacific Marine Corridor หรือ CMAR) ที่จะทำให้เกิดพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่ปราศจากการทำประมงที่มีขนาดใหญ่กว่า 3 ร้อยล้านไร่ หรือมีขนาดพอๆ กับประเทศไทยทั้งประเทศ พื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นทางการอพยพสำคัญของสัตว์ทะเลหายากทั้งเต่าทะเล วาฬ ฉลาม และปลากระเบน นับเป็นการแสดงเจตนารมณ์สำคัญในการอนุรักษ์มหาสมุทร ที่จะช่วยสนับสนุนมาตรการแก้ปัญหาโลกร้อน

การประชุม COP26 เป็นเวทีสำคัญในการประชุมและต่อรองเพื่อหาทางออก ทุกประเทศต้องเร่งแก้วิกฤตสภาพภูมิอากาศอย่างเร่งด่วนและรับผิดชอบโดยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบบก้าวกระโดดให้ได้ และต้องตระหนักว่าการแก้ปัญหาวิกฤตทางทะเลก็นับเป็นการลงมือแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศด้วยเช่นกัน

ยังต้องติดตามว่าจะมีแผนการอนุรักษ์มหาสมุทรที่ได้รับรองจากการประชุม COP26 ครั้งนี้หรือไม่ ทั้งนี้ ทุกประเทศต้องไม่ลืมว่าการที่มหาสมุทรจะช่วยปกป้องเราจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ ต้องเป็นระบบนิเวศที่ยังสมดุล สมบูรณ์และได้รับการดูแลอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น



ดร.เพชร มโนปวิตร
นักวิทยาศาสตร์ด้านการอนุรักษ์ที่ผ่านการทำงานในองค์กรสิ่งแวดล้อมระดับโลกหลายแห่งตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาโครงการเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน, เลขาธิการมูลนิธิโลกสีเขียว และเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ReReef รวมถึงเป็นนักเขียน นักแปลบทความด้านสิ่งแวดล้อมและทางออกด้านการอนุรักษ์

เครดิตข้อมูลที่มา : https://thaipublica.org/2021/11/sustainability4all05/


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9640000111443

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 11-11-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


ชาวฮินดูลงแม่น้ำในอินเดีย แม้ "โฟมพิษ" ลอยฟ่อง ตัก-อาบประกอบพิธีกรรม



ชาวฮินดูลงแม่น้ำในอินเดีย ? วันที่ 10 พ.ย. ซีเอ็นเอ็น และ รอยเตอร์ รายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในอินเดียว่า โฟมพิษที่ก่อตัวเป็นชั้นลอยเหยือผิวน้ำหลายส่วนของแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ใกล้กรุงนิวเดลี ขณะที่ชาวฮินดูรวมตัวกันริมแม่น้ำสายนี้เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลศาสนา และศาสนานิกชนบางคนลงไปอาบน้ำด้วย.

ฟองโฟมขาวที่ผสมกันระหว่างน้ำเสียและขยะอุตสาหกรรมก่อตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในหลายส่วนของแม่น้ำยมุนา (Yamuna River) ? สาขาของแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ ? ซึ่งไหลไปทางใต้ราว 1,376 กิโลเมตร จากเทือกเขาหิมาลัย ผ่านหลายรัฐของประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า โฟมที่มีกลิ่นฉุนและลอยเหนือผิวน้ำประกอบด้วยแอมโมเนียและฟอสเฟตในปริมาณสูง ซึ่งสามารถส่งผลในปัญหาระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง. ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลฉัฐปูชา (Chhath Puja) ซึ่งเป็นเทศกาลที่อุทิศแด่สุริยเทพ เมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยชาวฮินดูบางคนลุยโฟมพิษเพื่ออาบน้ำและสวดมนต์ในแม่น้ำ.

กัณจัญ เทวี ศาสนิกชนผู้หนึ่ง บอกกับรอยเตอร์ว่า ไม่มีทางเลือกแต่จำเป็นต้องอาบน้ำปนเปื้อน "น้ำสกปรกสุดๆ แต่เราไม่ทางตัวเลือกมากนัก. การอาบน้ำในแม่น้ำเป็นพิธีกรรม เราจึงมาที่นี่เพื่ออาบน้ำ"

ส่วนเพรส ทรัสต์ ออฟ อินเดีย รายงานว่า รัฐบาลส่งเรือดำน้ำไปตักโฟมออก แต่ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่า อาจเกิดความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ.

"แม่น้ำในเขตพื้นที่ของกรุงเดลีเป็นแม่น้ำที่เสื่อมโทรมในระบบนิเวศ. ไม่มีปลาหรือนกน้ำจืด เป็นอย่างนี้มาหลายปีแล้ว" ภิม สิงห์ เรวัต จากเครือข่ายเอเชียใต้ว่ายด้วยเขื่อน แม่น้ำ และประชาชน (SANDRP) กล่าว


NEW DELHI, INDIA ? NOVEMBER 8: A view of the toxic foams floating on Yamuna Water at ITO, on November 8, 2021 in New Delhi, India. (Photo by Amal KS/Hindustan Times via Getty Images)


แม่น้ำปนเปื้อนของอินเดีย

เป็นเวลาหลายทศวรรษ หลายพื้นที่ของแม่น้ำยมุนาได้รับผลกระทบจากการทิ้งสารเคมีที่เป็นพิษและน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัด. ในหลายพื้นที่ แม่น้ำดำและเป็นโคลน ขณะที่ขยะพลาสติกเรียงรายริมฝั่งแม่น้ำ.

คณะกรรมการติดตามของรัฐบาลระบุว่า แม่น้ำแห้งนี้มีมลพิษมากที่สุดในพื้นที่โดยรอบกรุงนิวเดลี เนื่องจากประชากรหนาแน่นในเมืองและมีขยะในปริมาณสูง. แม่น้ำเพียง 2% ของความยาวไหลผ่านเมืองหลวง แต่เมืองหลวงมีส่วนปริมาณมลพิษราว 76% ของทั้งหมดในแม่น้ำ.

เรวัต จาก SANDRP กล่าวว่า แม่น้ำที่มีมลพิษส่งผลกระทบต่อผู้อาศัยอยู่ในหลายเมืองที่อยู่ปลายน้ำ "ชาวบ้านหลายพันคนใช้น้ำชลประทานจากแม่น้ำ. พวกเขาเอาถังลงแม่น้ำเพื่ออาบน้ำและดื่ม"

ในปี 2560 โฟมคล้ายกันลอยเหนือผิวทะเลสาบ Varthur ในเมืองทางใต้ของบังกาลอร์ จากนั้น ลมกระโชกแรงพัดสารเคมีที่เป็นฟองออกมาบนถนน และในปีเดียวกันนั้น ไฟไหม้ทะเลสาบในบังกาลอร์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเกิดจากร่องรอยของน้ำมันในน้ำ.


https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_6725250

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:05


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger