เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 02-06-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Greennews


"ทบทวน ด่วนที่สุด" จากกรมทะเล ถึงกรมโยธา "กำแพงกันคลื่น หาดแม่รำพึง"

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งส่งหนังสือ ?ด่วนที่สุด? ถึงกรมโยธาธิการและผังเมือง ?ขอให้ทบทวนโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึง? ชี้ ?กระทบระบบนิเวศทะเลไม่คุ้ม-ชาวบ้านกังวล?

จับตาเวทีรับฟังความเห็นที่กรมโยธาฯ กำหนดจัดในพื้นที่ 11 มิถุนายน 2565


(ภาพ : พัฒน์_HS7WMU CHANNEL)

หนังสือด่วนที่สุด ขอให้ทบทวน

"เรื่อง ขอให้ทบทวนโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลหาดแม่รำพึง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เรียน อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง (กรมโยธาฯ)

ด้วยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช. หรือ กรมฯ) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเครือข่ายประชาชน Save หาดแม่รำพึง ขอให้กรมฯ ดำเนินการตรวจสอบและยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลหาดแม่รำพึง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ซึ่งผู้ร้องเรียนมีข้อกังวลต่อการดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลหาดแม่รำพึง ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งอาจจะส่งผลกระบต่อชายหาด ระบบนิเวศน์ และวิถีชีวิตดั้งเดิมขอองประชาชนแม่รำพึง

กรมฯ ตรวจสอบพื้นที่ดำเนินโครงการฯ พบว่าหาดแม่รำพึงตั้งอยู่ในระบบหาดบางสะพาน ความยาวชายฝั่งปประมาณ 4.50 กม. เป็นพื้นที่สมดุล จัดอยู่ในแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหากัดเซาะชายฝึ่งของกรมมฯ 2 แนวทาง คือ การปรับสมดุลชายฝั่งโดยธรรมชาติ และการฟื้นฟูเสถียรภาพชายฝั่ง

เป็นการคงไว้ซึ่งกระบวนการชายฝั่งตามธรรมชาติ เพื่อให้ชายฝั่งฟื้นคืนสภาพธรรมชาติด้วยตนเอง โดยสามารถดำเนินการโครงการในรูปแบบที่สอดคล้อง หรือเลียนแบบธรรมชาติ เช่นการกำหนดพื้นที่ถอยร่น การถ่ายเททราย การเติมทราย การปลูกป่าชายหาด และการปักเสสาดักตะกอน เป็นต้น

ดังนั้นการดำเนินโครงการดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับแนวทางป้องกันแและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของกรมฯ

อย่างไรก็ตาม ประเด็นตามข้อกังวลและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากมีการดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลหาดแม่รำพึงฯ ของเครือข่ายประชาชน Save หาดแม่รำพึง

กรมโยธาฯ ควรตระหนักถึงผลกระทบ และพิจารณาการดำเนินโครงการอย่างรอบคอบ ถูกต้องตามหลักวิชาการ และเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 เรื่องแนวทางการจัดทำแผนงาน/โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง และมติคณะกรรมการนโยบายแและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 เรื่องหลักเกณฑ์ประกอบการจัดทำแผนงาน/โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

จึงขอให้กรมโยธาฯ โปรดพิจารณาทบทวนการดำเนินการโครงการฯ ดังกล่าว

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ขอแสดงความนับถือ"

โสภณ ทองดี อธิบดี ทช. ส่งจดหมายประทับ "ด่วนที่สุด" ที่ ทส 0404/1466 เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ถึงอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ. หรือ กรมโยธาฯ)


(ภาพ : ทช.)

แจ้งชาวบ้าน "ขอให้ทบทวนแล้ว-ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหาด-ทะเลเพียบ"

"ตามที่ท่านและเครือข่ายประชาชน Save หาดแม่รำพึง ได้มีหนังสือร้องเรียน ขอให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการตรวจสอบและยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล หาดแม่รำพึง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับการดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลหาดแม่รำพึง ของกรมโยธาธิการและผังเมืองนั้น

จากการตรวจสอบข้อมูลและสถานภาพชายฝั่งประจำปี พ.ศ.2563 พบว่า ชายหาดแม่รำพึงตั้งอยู่ในระบบหาดบางสะพาน ความยาวชายฝั่งปประมาณ 4.50 กม.ซึ่งเป็นพื้นที่ดำเนินเป็นพื้นที่มความสมดุล

ในปี 2562 หาดแม่รำพึงเคยได้รับผลกระทบจากพายุปลาบึก จนทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝึ่งง แต่ในปัจจุบันไม่พบการกัดเซาะชายฝั่ง เนื่องจากชายหาดได้ฟื้นตัวและปรับสภาพเข้าสู่คความสมดุลแล้ว

นอกจากนี้ จากการสำรวจพบกำแพงกันคลื่นแบบตั้งตรง มีสภาพเสียหายความยาว 110 เมตร สูง 50-70 ซม. อาจทำให้ส่งผลกระทบต่อชายฝั่งบริเวณด้านหลังกำแพงได้

จึงเห็นควรให้มีการดำเนินการรื้อถอนเศษซากกำแพงออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ หาดแม่รำพึงจัดอยู่ในแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝึ่งของ ทช. 2 แนวทาง คือการปรับสมดุลชายฝึ่งฟื้นคืนสภาพธรรมชาติด้วยตนเอง โดยสามารถดำเนินการโครงการในรูปแบบที่สอดคล้อง หรือเลียนแบบธรรมชาติ เช่นการกำหนดพื้นที่ถอยร่น การถ่ายเททราย การเติมทราย การปลูกป่าชายหาด และการปักเสสาดักตะกอน เป็นต้น

จากการสำรวจหาดแม่รำพึง มีลักษณะเป็นหาดโคลนปนทราย (ทรายขี้เป็ด)) ชายหาดมีความลาดชันต่ำ ในช่วงเวลาน้ำลง ชายหาดมีความกว้างมาก ช่วงน้ำขึ้นความกว้างของชายหาดประมาณ 20 เมตร โดยพื้นที่ดังกล่าว มีการใช้ประโยชน์ที่ดินในด้านการท่องเที่ยว การแปรรูปอาหารทะเล และการทำประมงพื้นบ้าน เช่นการวางอวน การจับหอยด้วยมืออ และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ยังใช้พื้นที่ในการพักผ่อนหย่อนใจและกิจกรรมนันทนาการ

หากมีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล อาจจะส่งผลกกระทบต่อการใช้ประโยชน์พื้นที่ของประชาชนในกิจกรรมต่าง ๆ ได้

นอกจากนี้การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่หาดแม่รำพึง ด้วยโครงสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลไม่สอดคล้องกับแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของ ทช.

และยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดการกัดเซาะชายฝั่งต่อเนื่องบริเเวณจุดสิ้นสุดโครงสร้าง รวมทั้งความสมดุลตะกอนทรายบริเวณหน้าเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลจะถูกทำลาย โดยตะกอนทรายจะเคลื่อนที่ออกจากแนวเขื่อนฯ และไม่สามารถกลับคืนได้ หากแนวการก่อสร้างเขื่อนฯ ดังกล่าวรุกล้ำแนวชายหาด หรืออยู่ในเขตที่ได้รับอิทธิพลของคลื่นลมมรสุม

ตามประเด็นข้อกังวลและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของเครือข่ายฯ หากมีการดำเนินการก่อสร้างโครงการเขื่อนฯ ซึ่งหน่วยงานเจ้าของงโครงการควรนำประเด็นข้อกังวล มาพิจารณาอย่างรอบคอบ ครอบคลุมทุกมิติ และถูกต้องตามหลักวิชาการ ก่อนดำเนินโครงการ และควรเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 เรื่องแนวทางการจัดทำแผนงาน/โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง และมติคณะกรรมการนโยบายแและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 เรื่องหลักเกณฑ์ประกอบการจัดทำแผนงาน/โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

ทั้งนี้ ทช. ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ทส 0404/1466 เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ขอให้กรมโยธาฯ ทบทวนโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลหาดแม่รำพึง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จึงเรียนมาเพื่อทราบ"


จับตา เวทีรับฟังกรมโยธาฯ 11 มิ.ย.

"ถึงแม้ข้อมูลทางวิชการจากนักวิชาการ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะระบุชัดเจนว่า หาดแม่รำพึง ไม่ได้มีการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง และ มาตรการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นของกรมโยธาธิการนั้น เป็นมาตรการที่เกิดความจำเป็น และอาจส่งผลกระทบต่อสภาพชายหาดแม่รำพึงอย่างรุนแรง

อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้แถลงต่อผ่านเพจ งานประชาสัมพันธ์กรมโยธาธิการและผังเมือง ว่าจะมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอีกครั้ง ในวันที่ 11 มิถุนายน 2565 ซึ่งน่าจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดรับฟังความคิดเห็นอยู่บนหลักวิชาการ ที่ให้นักวิชาการ หน่วยงานต่างๆ และประชาชนได้แสดงข้อห่วงกังวล รวมถึงความคิดเห็นของประชาชนอย่างเปิดกว้าง และมีการให้ข้อมูลผลกระทบโครงการก่อสร้างอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่

ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด" กลุ่มสิ่งแวดล้อมที่รณรงค์กรณีกำแพงกันคลึ่น Beach For Life กล่าว


https://greennews.agency/?p=28818

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:11


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger