เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #2  
เก่า 04-07-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


?เราไม่สามารถมีโลกที่แข็งแรง หากปราศจากมหาสมุทรที่แข็งแรง? UN เตือนภาวะฉุกเฉินของมหาสมุทร ................ Nature Matter



= ในการประชุมสหประชาชาติเกี่ยวกับมหาสุมทรที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ถึง 1 ก.ค. อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวถึงสถานการณ์สิ่งแวดล้อมโลก โดยย้ำว่าปัจจุบันมหาสมุทรโลกกำลังเผชิญกับ 'ภาวะฉุกเฉิน'

= ทั้งการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล, ความร้อนจากมหาสมุทร, ความเป็นกรดในมหาสมุทร รวมไปถึงความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก ล้วนเป็นสถานการณ์ที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ กลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำและเมืองชายฝั่งต้องเผชิญกับน้ำท่วม ขณะที่มลพิษต่างๆ ก็กำลังทำให้ชายฝั่งทะเลกลายเป็น 'เขตมรณะ' (Dead Zones)



ในการประชุมสหประชาชาติเกี่ยวกับมหาสุมทรที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ถึง 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางผู้นำระดับโลกกว่า 20 ประเทศที่เข้าร่วมประชุม อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้กล่าวถึงสถานการณ์สิ่งแวดล้อมสำคัญประการหนึ่งว่า ปัจจุบันเรากำลังเผชิญกับ 'ภาวะฉุกเฉินทางมหาสมุทร'

กูเตอร์เรสอธิบายว่า ตามรายงานสภาวะอากาศโลกขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกในปี 2564 สถานการณ์การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล, ความร้อนจากมหาสมุทร, ความเป็นกรดในมหาสมุทร รวมไปถึงความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก ล้วนเป็นสถานการณ์ที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา

ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำและเมืองชายฝั่งต้องเผชิญกับน้ำท่วม ขณะที่มลพิษต่างๆ ก็กำลังทำให้ชายฝั่งทะเลอันกว้างใหญ่กลายเป็น ?เขตมรณะ? (Dead Zones) หรือพื้นที่ขาดออกซิเจนจนสิ่งที่มีชีวิตไม่สามารถอยู่อาศัยได้ มลภาวะทางทะเลเพิ่มขึ้นในขณะที่ชนิดพันธุ์สัตว์น้ำลดลง รวมถึงปลาฉลามและปลากระเบนซึ่งมีประชากรลดลงมากกว่า 70% ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา

ไม่เพียงเท่านั้นกูเตอร์เรสยังกล่าวถึงความจริงที่ว่า น้ำเสียเกือบ 80% ของโลกถูกปล่อยลงทะเลโดยไม่มีการบำบัด ในขณะที่ขยะพลาสติกอย่างน้อย 8 ล้านตันจะเข้าสู่มหาสมุทรในแต่ละปี "หากปราศจากการแก้ปัญหาอย่างเข้มงวด พลาสติกอาจมีน้ำหนักมากกว่าปลาในมหาสมุทรทั้งหมดภายในปี 2050" กูเตอร์เรสกล่าวย้ำ

"เราไม่สามารถมีโลกที่แข็งแรงได้หากปราศจากมหาสมุทรที่แข็งแรง" นี่คือคำที่เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวไว้ ก่อนที่เขาจะเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ยกระดับความใส่ใจต่อสุขภาพโลก รวมไปถึงเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ "มหาสมุทรที่อุดมสมบูรณ์จะมีความสำคัญต่ออนาคตของพวกเรา" กูเตอร์เรสย้ำ

กูเตอร์เรสได้อ้างอิงถึง 'ความเห็นแก่ตัว' ของบางประเทศที่ขัดขวางข้อตกลงใน 'สนธิสัญญาทะเลหลวง' (ทะเลที่ไม่ใช่น่านน้ำภายใน, ทะเลอาณาเขต, หรือเขตเศรษฐกิจจำเพาะของรัฐใด) สนธิสัญญาที่เกี่ยวกับการปกป้องมหาสมุทรของโลก โดยในช่วงที่ผ่านมา บางประเทศสมาชิกสหประชาชาติยังถูกนักวิทยาศาสตร์และนักสิ่งแวดล้อมวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากการไม่ร่วมข้อตกลงในแผนงานปกป้องทะเลหลวงจากการแสวงประโยชน์ โดยในปัจจุบัน จาก 64% ของพื้นที่ทะเลหลวงที่อยู่นอกเหนืออาณาเขตของรัฐต่างๆ มีเพียง 1.2% เท่านั้นที่ถูกคุ้มครองอยู่

เขายังให้คำแนะนำหลายประการเกี่ยวกับการจัดการอย่างยั่งยืน เพื่อที่จะช่วยมหาสมุทรผลิตอาหารได้มากถึงหกเท่า และสร้างพลังงานหมุนเวียนได้มากถึง 40 รวมทั้งการปกป้องมหาสมุทรและผู้คนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลจากผลกระทบของวิกฤติสภาพภูมิอากาศ

กูเตอร์เรสอธิบายว่า ปัจจุบันผู้คนมากกว่า 3.5 พันล้านคนต้องพึ่งพามหาสมุทรเพื่อความมั่นคงด้านอาหาร ในขณะที่คนกว่า 120 ล้านคนทำงานเกี่ยวกับประมงและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยตรง ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็ก และกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุด ทว่าในบรรดาเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติจำนวนหลายข้อ เป้าหมายข้อที่ 14 ที่ว่าด้วยการอนุรักษ์และการใช้สิ่งแวดล้อมทางทะเลอย่างยั่งยืน กลับได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลประเทศต่างๆ น้อยที่สุดจากเป้าหมายทั้งหมด

ด้าน อูฮูรู เคนยัตตา ประธานาธิบดีเคนยา ประธานร่วมของการประชุมในครั้งนี้ ได้กล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุมว่า "มหาสมุทรเป็นทรัพยากรที่คนเห็นคุณค่าน้อยที่สุดในโลก" และกิจกรรมของมนุษย์ก็ทำให้มหาสมุทรตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ 'เครียดอย่างใหญ่หลวง'

"การจัดการที่ไม่ดีจะลดความสามารถตามธรรมชาติของมหาสมุทรในการฟื้นฟูตัวเอง มันน่าประหลาดใจมากที่เราจะเสี่ยงกับทรัพยากรที่สำคัญเช่นนี้"

ขณะที่ มาร์เซโล เรเบโล เด ซูซา ประธานาธิบดีโปรตุเกสและประธานร่วมของการประชุมได้ย้ำเตือนว่า สงครามและโรคระบาดใหญ่จะต้องไม่ถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการละเลยมหาสมุทร "เราต้องชดเชยเวลาที่สูญเสียไปและให้โอกาสกับคำว่า 'ความหวัง' อีกครั้ง ก่อนที่มันจะสายเกินไป"

อย่างไรก็ตาม ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ที่นครนิวยอร์ก น่าจะมีการประชุมเจรจาเพื่อหาข้อตกลงสนธิสัญญาทะเลหลวง และน่าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราจะได้รู้ว่า ?ภาวะฉุกเฉินทางมหาสมุทร? จะถูกปล่อยให้ลุกลามต่อไป หรือจะมีหนทางคืบหน้าอย่างไรบ้างในอนาคต


https://plus.thairath.co.th/topic/naturematter/101751

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:58


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger