![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์
กฎหมายเอื้อมไม่ถึง! เรือสุดชุ่ยทิ้งคราบน้ำมันเสีย ทำลายหาดบางแสน ผงะ! คราบน้ำมันลอยเกลื่อนหาดบางแสน ต้นตอเป็นเรือเดินสมุทร กลางทะเล แอบลักลอบเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน แล้วทิ้งน้ำมันเสียลงทะเล ด้านเจ้าท่า ยันไม่มีหลักฐานคาหนังคาเขา ![]() 23 เม.ย.2566 ? ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่ ชายหาดทะเลบางแสน จ.ชลบุรี บริเวณหลังศาลเจ้าพ่อแสน พบมีคราบน้ำมัน สีดำลอยจากบริเวณ เกาะสีชัง มาที่ทะเลบางแสน ระยะทางยาวกว่า 2 กดม. ทำให้นักท่องเที่ยว ไม่สามารถลงไปเล่นน้ำทะเลได้ เนื่องจาก คราบน้ำมัน มีความสกปรกติดตัว และลอยมาตลอดเวลา นาย ณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศบาลเมืองแสนสุข ระบุว่า ได้ให้พนักงานทำความของเทศบาล เร่งเข้าไปเก็บและทำความสะอาดอย่างรีบด่วน โดยจะทำกันจนกว่า จะเก็บหมด เพราะเกรงจะกระทบการท่องเที่ยว โดยคราบน้ำมันนี้ เป็นคราบน้ำมันเครื่องที่เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ ที่จอดบริเวณเกาะสีชัง มักจะมักง่าย แอบลักลอบเปลี่ยนถ่ายนำมันเครื่องกันในทะเล เพราะไม่ต้องการเสียค่าจ้างให้อู่เรือ จึงมักเปลี่ยนถ่ายกัน แล้วก็เอาน้ำมันที่เสียทิ้งลงไปในทะเล ทำให้น้ำมันจึงลอยมาที่ทะเลบางแสน มาเกยตื้นดังกล่าว "ผมจึงไปเจรจากับผู้เกี่ยวกับกับการท่า ก็รับว่า มีเรือใหญ่แอบลักลอบเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน แล้วเอาน้ำมันที่เสียทิ้งลงทะเลจริง แต่ไม่มีหลักฐาน จึงไม่สามารถหาผู้กระทำผิดได้ จึงเป็นความเห็นแก่ตัว ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน" นาย ณรงค์ชัย ระบุ ด้านจนท.ของสำนักงานเทศบาลเมืองแสนสุข ระบุว่า เรือมหาสมุทร แอบลักลอบเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเรือกันกลางทะเล แถบเกาะสีชัง แล้วก็แอบเอาน้ำมันเครื่องเสียใส่ถุงแล้วมักง่ายโยนทิ้งกลางทะเล แต่ช่วงนี้มรสุมเข้า ลมแรง ทำให้ถุงแตก น้ำมันเครื่องรั่วออกมา ลอยเกลื่อนทะเล มาเกยตื้นหาดบางแสน สร้างความเดือดร้อน อยากให้กรมเจ้าท่า มาดูแลแก้ไข เพราะปีๆ หนึ่ง น้ำมันเครื่องเสีย เหล่านี้ จะเกิดบ่อยมาก กระทบการท่องเที่ยว และระบบนิเวศน์ในทะเลพลอยพินาศไปด้วย. https://www.thaipost.net/district-news/365131/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS
ยูเอ็นชี้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มเร็วกว่าเดิมเท่าตัว ยูเอ็นออกรายงานด้านสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่รับวันคุ้มครองโลก 22 เม.ย. เตือนถึงระดับน้ำทะเลที่จะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องไปอีกนับพันปีจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของมนุษย์ พร้อมระบุว่าโลกจะเผชิญสภาพอากาศสุดขั้วต่อเนื่องไปจนถึงทศวรรษที่ 2060 ![]() วันนี้ (22 เม.ย.2566) องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่า ปี 2022 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 5 หรือ 6 เท่าที่เคยมีการบันทึกสถิติมา โดยโลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าช่วงยุคก่อนอุตสาหกรรม 1.15 องศาเซลเซียส ทั้งที่ได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์ลานีญาซึ่งทำให้อากาศเย็นกว่าปกตินานถึง 3 ปี ขณะที่ระดับน้ำทะเลทั่วโลกกำลังเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่เร็วกว่าในช่วงทศวรรษแรกซึ่งมีการเก็บข้อมูลสถิติระหว่างปี 1993 - 2002 ถึงมากกว่าเท่าตัว และเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดจนกลายเป็นสถิติใหม่เมื่อปีที่แล้ว การละลายของธารน้ำแข็งและมหาสมุทรที่ร้อนจัดถือเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้น้ำในมหาสมุทรขยายตัว จนระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นปีละ 4.62 มิลลิเมตร ระหว่างปี 2013 - 2022 ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เซนติเมตร นับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 ขณะที่ก๊าซเรือนกระจกปริมาณมหาศาลจะส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นต่อไปอีกนับเป็นพัน ๆ ปี ซึ่งจะคุกคามเมืองที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งและประเทศเกาะต่าง ๆ รายงานฉบับนี้ ยังระบุด้วยว่า ผิวน้ำในมหาสมุทรถึงราวร้อยละ 58 เผชิญคลื่นความร้อน ซึ่งส่งผลให้มหาสมุทรร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกด้วย และโลกจะต้องเผชิญสภาพอากาศสุดขั้วต่อเนื่องไปจนถึงทศวรรษที่ 2060 ไม่ว่าจะพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเท่าไร แต่ยังมีโอกาสลดความเสี่ยงในอนาคตหลังจากนั้นได้ หากสามารถป้องกันไม่ให้โลกร้อนขึ้นไปกว่านี้ https://www.thaipbs.or.th/news/content/326881
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
|
|