เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 01-05-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


เกาะลันตา นำร่องจัดการ "ขยะและไมโครพลาสติก" ตัวร้ายทำลายระบบนิเวศ มุ่งยกระดับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน



ในแต่ละปีขยะพลาสติกกว่า 12 ล้านตันจะถูกปล่อยทิ้งสู่ท้องทะเลและมหาสมุทร ซึ่งร้อยละ 50 ถูกสำรวจว่ามาจากทวีปเอเชีย โดยประเทศจีนถือเป็นประเทศที่สร้างขยะพลาสติกมากที่สุด ซึ่งคิดเป็นตัวเลขอาจจะมากถึงร้อยละ 29 ตามมาด้วยประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักเมื่อชื่อของประเทศไทยเองก็ติดอันดับ 1 ใน 10 เช่นเดียวกัน

โดยประเทศไทยมีการปล่อยขยะลงทะเลกว่า 22.8 ล้านกิโลกรัม และกว่า 45,000 ตันนั้นถูกซุกซ่อนไว้ในสถานที่ที่เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไม่ต่ำกว่า 2 แสนรายต่อปีอย่าง "เกาะลันตา" จ. กระบี่ นั่นเอง

แน่นอนว่า ขยะเหล่านี้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศทางทะเล ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำ แต่ยังส่งผลกระทบในวงกว้างต่ออาชีพของคนชายฝั่ง ผู้ประกอบการ ตลอดจนภาคการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาของประเทศ และที่สำคัญยังส่งผลให้เกิด "ปัญหาสุขภาวะ" ตามมาอีกด้วย

"โฟมและขยะพลาสติกบนฝั่งที่กำจัดไม่ถูกต้องจำนวนมาก เมื่อไหลลงสู่ทะเลจะแตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ และถูกเรียกว่า "ไมโครพลาสติก" (Microplastics) ซึ่งจะปนเปื้อนเข้าสู่ระบบนิเวศและห่วงโซ่อาหารผ่านการบริโภคอาหารทะเล"

"โดยงานวิจัยจากสถาบันการศึกษาและองค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมมากมาย ระบุตรงกันว่า ไมโครพลาสติก หรือเศษพลาสติกที่ล่องลอยอยู่ในทะเลเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ระบบห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ ระบบนิเวศทางทะเลโดยตรง และปนเปื้อนในระดับเซลล์ของสิ่งมีชีวิตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"

"อาจก่อให้เกิดความผิดปกติของการทำงานในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ระบบย่อยอาหาร รวมถึงสารประกอบของพลาสติกบางตัว ยังส่งผลถึงระบบสืบพันธุ์ในสิ่งมีชีวิตได้อีกด้วย"

นายชาติวุฒิ วังวล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ข้อมูลระหว่างการลงนามและประกาศ ?ปฏิญญาอ่าวลันตา? ผ่าน 9 หมุดหมายสำคัญ เพื่อพัฒนาและยกระดับ อ.เกาะลันตา สู่การท่องเที่ยวที่มีความยั่งยืน พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นแลนด์มาร์คด้าน Blue & Green Island

โดยการลงนามในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง และภาคีเครือข่ายกว่า 48 หน่วยงาน

"ปัญหาขยะพลาสติกหรือไมโครพลาสติกถือเป็นประเด็นสำคัญที่ สสส. ใช้เป็นประเด็นขับเคลื่อนในครั้งนี้ ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่า มีผู้คนจำนวนมากเจ็บป่วยจากการกินไมโครพลาสติกเข้าไปในร่างกายโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นบทบาทของ สสส. เราเห็นถึงการป้องกันไปพร้อม ๆ กับการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี ผ่านการให้ความรู้และการลงนามในครั้งนี้" นายชาติวุฒิ กล่าวถึงจุดประสงค์

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. มองว่า การลงนาม "ปฏิญญาอ่าวลันตา" จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ทุกคนเห็นว่า ปัญหาขยะพลาสติกและไมโครพลาสติกเป็นเรื่องใกล้ตัว รวมทั้งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาในมิติอื่น ๆ ด้วย

โดยปฏิญญาอ่าวลันตา จะมีการผลักดัน 9 เจตจำนงและหมุดหมายสำคัญ ดังนี้ 1.การประมงยั่งยืน 2.อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 3.พัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจเกื้อกูล 4.การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน 5.เชื่อมโยงการพัฒนาทางเศรษฐกิจกับชุมชนท้องถิ่น 6.ลดภัยคุกคามจากไมโครพลาสติกและขยะพลาสติกในทะเล 7.เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและใช้พลังงานสะอาด 8.พัฒนาทางสังคมและคุณภาพชีวิต และ 9. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน เพื่อคุ้มครองรักษา อ.เกาะลันตาควบคู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม สุขภาวะและสิ่งแวดล้อม

"งานในวันนี้ทำให้เห็นถึงการมีส่วนร่วม ซึ่งส่วนใหญ่เราคิดว่า ภาครัฐจะต้องเป็นผู้จัดการนโยบาย เป็นผู้ดำเนินงานขับเคลื่อน แต่ในทางปฏิบัติ จริง ๆ คือทุกคนมีส่วนร่วม โดยเฉพาะเอกชน เพราะฉะนั้นด้วยความตื่นตัวเหล่านี้ เราจึงมาคิดต่อว่า จะทำอย่างไรที่จะใช้โมเดลที่สำเร็จ หรือเรียกได้ว่า สำเร็จนี้ ขยายผลไปสู่พื้นที่อื่น ๆ ได้ ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับขยะพลาสติกและไมโครพลาสติก รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ด้วย" นายชาติวุฒิ กล่าว

ในทุก ๆ วัน บ่อขยะเกาะลันตา ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ บนพื้นที่ 3.5 ไร่ มีขยะใหม่ถูกนำมาทิ้งกว่า 48 ตัน/วัน หรือคิดเป็น 1.34 กิโลกรัม/วัน/คน ซึ่งไม่นับรวมกับขยะที่รอการฝังกลบอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถกำจัดได้ทัน จนส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะโรคทางเดินทางหายใจและการป่วยเรื้อรังในเด็ก

รศ.ดร.สมิทธิ์ บุญชุติมา คณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 2 สสส. กล่าวถึงปัญหาระหว่างการลงพื้นที่บ่อขยะเกาะลันตาไว้ว่า ปัญหาที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ระบบการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งเมื่อไม่มีการคัดแยกขยะที่ดี การที่จะทำให้ขยะกลับมามีคุณค่าและสามารถรีไซเคิลได้อีกครั้งก็เป็นไปได้ยาก นอกจากนั้นบริเวณบ่อขยะยังเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นระบบการจัดขยะอย่างไม่ยั่งยืนและเป็นอันตราย

"การจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง มันจะต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นชุมชน ผู้ประกอบการ รวมถึงหน่วยงาน พอจัดการขยะได้อย่างดีแล้วก็จะมีขยะมาสู่บ่อขยะแบบนี้น้อยลง ซึ่งจะเป็นภาระให้ชุมชนน้อยลงด้วย"

อย่างไรก็ดี สำหรับการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกและไมโครพลาสติกอย่างเป็นระบบและรูปธรรม นอกจากการคัดแยกตั้งแต่ต้นทาง ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อนำไปสู่การสร้างสังคมปลอดพลาสติกอย่างยั่งยืน ก็เป็นสิ่งที่ รศ.ดร.สมิทธิ์ ให้ความเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง

"เราต้องการที่จะเป็นกลไกลหนึ่งในการนำสิ่งที่ชุมชนทำได้ดีอยู่แล้ว ไปเป็นต้นแบบ หลังจากนั้นนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากต้นแบบนั้นกำหนดเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงระบบมากขึ้น ถ้าเกิดว่าเรานำโครงการที่สำเร็จ นำความรู้ที่ได้จากการทำแต่ละโครงการมาแปลงให้เป็นกฎหมายและทำให้ทุกคนในประเทศยอมรับร่วมกันก็จะเป็นภารกิจที่ สสส. สามารถเรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จ" รศ.ดร.สมิทธิ์ เสนอความคิดเห็น

ด้านอีกหนึ่งภาคีเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมอย่าง ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นำเสนอว่า แนวคิดการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกและไมโครพลาสติกต้องสอดคล้องกับแนวทางยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งรัฐบาลกำหนดนโยบายในการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย โดยมุ่งเน้นการคัดแยกขยะจากแหล่งกำเนิด ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะของประเทศฉบับที่ 2 (พ.ศ.2565 ? 2570) ที่ให้ความสำคัญกับการจัดการขยะที่ต้นทางตามวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ เพื่อป้องกันการเกิดขยะ

ตั้งแต่การออกแบบ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-design) ส่งเสริมการบริโภคที่ยั่งยืน โดยเลือกใช้สินค้า หรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถใช้ซ้ำและเรียกคืนกลับไปรีไซเคิลได้ การคัดแยกขยะมูลฝอย ณ ต้นทาง ให้สอดคล้องกับรูปแบบการกำจัดขยะมูลฝอยปลายทาง เพื่อให้มีการนำทรัพยากรกลับคืนจากของเสียให้มากที่สุด ทั้งในรูปแบบวัสดุรีไซเคิล (Material recovery) และพลังงาน (Energy recovery) ให้เหลือขยะที่ต้องกำจัดให้น้อยที่สุด เป็นการลดขยะทะเลลงอีกทางหนึ่งด้วย

"เราเชื่อว่าการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงการท่องเที่ยวสามารถที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืน ถ้าร่วมกันแก้ไขปัญหาสำคัญอย่างปัญหามลพิษ น้ำเสียและขยะ ซึ่งการมาร่วมมือลงนามปฏิญญาครั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษก็พร้อมให้คำแนะนำ เพื่อช่วยสนับสนุนจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อลดจำนวนขยะให้ได้มากที่สุด ในส่วนที่ยังมีขยะอยู่ก็จะนำไปรีไซเคิลให้ได้ในประสิทธิภาพดีที่สุด โดยจะเป็นการทำงานร่วมกับท้องถิ่นและจังหวัดต่อไป"

อย่างไรก็ดี ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดี อีกทั้งยังเป็นการสร้างความตระหนักให้กับผู้บริโภคอีกครั้ง ซึ่งคงจะดีไม่น้อยหากเราทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน ลดขยะตั้งแต่ต้นทาง งดการใช้ถุงพลาสติก เพื่อส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า สิ่งแวดล้อมที่ดีกว่า และสุขภาพที่ดีกว่าให้กับคนรุ่นหลัง


https://mgronline.com/qol/detail/9660000039469

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 01-05-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์


'วราวุธ' สวดยับ ครูดำน้ำมือฆ่าปลาวัวไททัน ไล่เข้าคอร์สปรับทัศนคติใหม่

"วราวุธ" จัดหนักครูดำน้ำไล่ฆ่าปลาวัวไททัน ฮึ่ม ถ้าอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานฯเจอคุกแน่ ไม่ปล่อยไว้ ไล่ไปเข้าคอร์สเรียนดำน้ำปรับทัศนคติใหม่



30 เม.ย.2566 ? นายวราวุธศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีครูสอนดำน้ำรายหนึ่ง โพสต์ลงโซเชียลว่าตนเองถูกปลาวัวไททันกัดขา บริเวณเกาะร้านเป็ด และจากนั้นได้ฆ่าปลาตัวดังกล่าว โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ปลาไปกัดผู้อื่นอีก จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ว่า ตนเองได้ทราบข่าวดังกล่าวและขอฝากผู้ประกอบการและครูดำน้ำทุกคนว่า การสอนนักเรียน การเป็นตัวอย่างที่ดีคือหัวใจสำคัญ และที่สำคัญจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการที่เราไปดำน้ำนั้นเราเข้าไปบ้านของคนอื่น เราเข้าไปในโลกที่ไม่ใช่โลกของเรา

นายวราวุธ ระบุว่า ฉะนั้นปลาหรือเจ้าของบ้านเขาจะทำอะไรเป็นสิทธิของเขา และเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเคารพในสิทธิของเจ้าของบ้าน ถ้าเจ้าของบ้านมาไล่ก็แสดงว่าเขาไม่ต้องการให้เราเข้าไป การที่เขามาไล่ แล้วเราไปฆ่าเจ้าของบ้านตายนั้นหากเป็นคน คุณต้องติดคุกแล้ว แต่ไม่มีใครมาเรียกร้องสิทธิให้กับปลา ให้กับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้ทะเล ดังนั้นเราเป็นมนุษย์ มีความคิด มีความรู้ และที่สำคัญเป็นถึงครูดำน้ำควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่น

"เรื่องนี้ผมไม่พอใจมาก นี่ยังโชคดีที่อยู่นอกเขตอุทยานฯ เพราะถ้าอยู่ในเขตอุทยานฯ หรือในพื้นที่รับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ถึงติดคุกเลยคอยดู ปลาชนิดนี้ไม่ได้เป็นสัตว์น้ำคุ้มครอง แต่เป็นปลาที่คอยควบคุมระบบนิเวศแนวปะการัง หากขาดปลาวัวไททัน อาจทำให้มีศัตรูคุกคามปะการังมากขึ้นจนขาดภาวะสมดุลจึงไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์จะไปทำร้ายเขา และหน้าที่ของคุณคือต้องอนุรักษ์ เพราะถ้าไม่มีปลาทะเลนักดำน้ำจะดำลงไปดูอะไร ถ้าไม่มีสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล แล้วจะดำลงไปดูอะไรกัน" นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวว่า ดังนั้นอาชีพครูดำน้ำ เมื่อทำงานแบบนี้ มีสามัญสำนึกเพียงแค่ถูกปลาทำร้ายแล้วไปฆ่าเขาตาย เป็นเรื่องที่ไม่สมควร แล้วออกมาขอโทษ แล้วเรื่องก็จบไป ไม่ง่ายเกินไปหรือ แต่สิ่งมีชีวิตและทรัพยากรที่เสียไป ระบบนิเวศที่หายไปกับปลาตัวหนึ่ง ถ้าทุกคนคิดแบบคุณทั้งหมดคงแย่ ท้องทะเลไทยก็จะไม่เหลืออะไรให้ลูกหลานได้ดู เพราะอย่างน้อย ในละแวกนั้น ปลาไททันก็หายไป 1 ตัว แทนที่คนอื่นจะได้เห็น และเมื่อรู้ว่าปลาเขาปกป้องพิทักษ์พื้นที่ของเขา เขาไม่อยากให้รุกเข้าไป ก็อย่าเข้าไป ทั้งที่รู้อยู่ว่าปลาชนิดนี้เขาปกป้องพื้นที่ เราก็ควรไปดำที่อื่น แต่ถ้าจะเข้าไปก็ต้องรับความเสี่ยงให้ได้ ไม่ใช่ไปทำร้ายจนถึงเขาตายเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง

นายวราวุธ กล่าวว่า ปลาชนิดนี้เป็นปลาสวยงาม พบเห็นได้ทั่วไป เป็นเอกลักษณ์ และทรัพย์สมบัติของท้องทะเลไทยที่เราควรจะต้องหวงแหนเอาไว้ หายากหรือไม่ยากไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นคือไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะไปทำร้ายเขา แต่เป็นหน้าที่ของคุณด้วยซ้ำไปที่จะต้องปกป้องเขา

"ในกลุ่มนักดำน้ำด้วยกัน ได้พูดคุยกันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่สมควร เป็นถึงครูดำน้ำด้วย ตอนนี้ทราบว่าในพื้นที่ได้พักใบอนุญาตครูดำน้ำคนดังกล่าวไปชั่วคราว และที่สำคัญเขายังไม่มีใบอนุญาตในการประกอบการ ซึ่งถ้าผมเลือกได้คิดว่าอย่าให้คนแบบนี้ อย่ามาสอนดำน้ำเลย หรือถ้าไม่อย่างนั้นก็ควรไปเข้าคอร์สเรียนปรับทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องดำน้ำใหม่ดีกว่า" นายวราวุธ กล่าว.


https://www.thaipost.net/x-cite-news/369238/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 01-05-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


เช็กด่วน! 18 สัตว์น้ำ-ซากสัตว์บัญชี Cites แจ้งครอบครอง 31 พ.ค.

เช็กด่วน! กรมประมงแจ้งให้ผู้ที่ครอบครอง "สัตว์น้ำ-ซากสัตว์น้ำ-ผลิตภัณฑ์ฯ" 18 รายการครอบคลุมเต่า 6 ชนิด ตะพาบ กบลีเมอร์ ซาลาแมนเดอร์ ปลาโรนันทุกชนิด ฉลามทุกชนิด ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนภายใน 31 พ.ค.นี้



วันนี้ (25 เม.ย.2566) กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศให้ผู้ที่ครอบครอง ?สัตว์น้ำ ซากสัตว์น้ำ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากสัตว์น้ำ? ตามบัญชีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ( CITES) จำนวน 18 รายการ ต้องดำเนินการแจ้ง ?การมีไว้ในครอบครอง? กับทางราชการให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 31 พ.ค.นี้

โดยสัตว์น้ำ ซากสัตว์น้ำ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากสัตว์น้ำ ประกอบด้วย

- เต่ามาตามาตา 2 ชนิด > Chelus fimbriata / Chelus orinocensis
- เต่าไม้ทุกชนิดสกุล Rhinoclemmys spp.
- เต่ากระดองแคบ Claudius angustatus
- เต่าโคลนทุกชนิด ในสกุล Kinostemon spp. (ยกเว้นชนิดที่อยู่ในบัญชี 1)
- เต่าชะมดยักษ์ 2 ชนิด > Staurotypus salvinil / Staurotypus triporcatus
- เต่าชะมดทุกชนิด ในสกุล Sternotherus spp.
- เต่าอัลลิเกเตอร์ 2 ชนิด > Chelydra serpentine / Macrochelys temminckii
- เต่ามิสซิสซิปปี้แมพ หรือ เต่าลายแผนที่ 5 ชนิด > Graptemys barbori / Graptemysernstri / Graptemys gibbonsi / Graptemys pearlensis / Graptemys pulchra
- ตะพาบทุกชนิด ในสกุลApalone spp. (ยกเว้นชนิดที่อยู่ในบัญชี 1)
- กบแก้วทุกชนิด ในวงศ์ Centrolenidae
- กบลีเมอร์ หรือ กบใบลีสกุล Agalychnis lemur
- ซาลาแมนเดอร์ หรือ นิวท์ (Lao warty newt) Laotrition laoensis
- ฉลามทุกชนิดในวงศ์ Carcharhinidae
- ฉลามหัวค้อน ในวงศ์ Sphynidae
- ปลากระเบนน้ำจืด 7 ชนิด: Poyamotrygon albimaculata / Poyamotrygonhenlei / Poyamotrygon jabuti / Poyamotrygon leopoldi / Poyamotrygon marquesi / Poyamotrygon signata / Poyamotrygon wallacei
- ปลาโรนันทุกชนิด ในวงศ์ Rhinobatidae
- ปลาซักเกอร์ม้าลาย Hypancistrus zebra
- ปลิงทะเลทุกชนิด ในสกุล Thelenota spp.

โดยยื่นเรื่องเพื่อแจ้งครอบครองได้ที่

- สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพฯ
- สำนักงานประมงจังหวัด ณ ท้องที่ที่ครอบครอง
- ทางไปรษณีย์ลงทะเบียน E-mail ของสำนักงานประมงจังหวัด

นอกจากนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำตามอนุสัญญา กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ โทร. 0 2561-1418 (ในวันและเวลาราชการ)


https://www.thaipbs.or.th/news/content/326973

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:21


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger