เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #5  
เก่า 19-05-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Greennews


ผลสอบกรมทะเล "ขายเนื้อฉลามหนามออนไลน์ ภูเก็ต" ไม่ผิดกฏหมาย



เล็งหาทางออกด้วยการประกาศขึ้นบัญชีเป็นสัตว์หายากคุ้มครองตามกฎหมาย พร้อมสปีชีส์สัตว์หายากอื่นที่ รวมถึงปลานกแก้ว ที่ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายกัน

ยอมรับ ตอนนี้กรมฯ ทำได้เพียง รณรงค์ขอความร่วมมือ "ปล่อยคืนทะเลหากจับได้" เพื่อระบบนิเวศทะเลไทย


ไม่ผิดกฎหมาย เตือนอาจอันตรายหากกิน

"ตามที่มีข่าวการซื้อขายปลาฉลามหนาม Echinorhinus brucus ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ?แพปลาลุงนิล ภูเก็ต? ซึ่งจับได้จากบริเวณห่างฝั่งของเกาะราชาน้อยไปทางทิศใต้ 40 ไมล์ทะเล งานนี้ทำเอาคนในโซเชียลและสังคมนักอนุรักษ์ออกมาปกป้องพร้อมแสดงความเป็นห่วงเมื่อสัตว์ทะเลหายากถูกจับมาขาย แทนที่จะอวดความสวยงามอยู่ในท้องทะเล และสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศ

ภายหลังจากที่ทราบข่าวว่ามีการประกาศซื้อขายปลาฉลามหนามในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตผ่านเพจเฟซบุ๊ก กรมฯ ได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูล

จากการประสานเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า ชาวประมงได้ มีการจับปลาฉลามหนาม ในเขตทะเลที่ห่างฝั่งไป 40 ไมล์ทะเล จึงไม่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั้งเชิงพื้นที่และชนิดพันธุ์

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการอนุรักษ์ชนิดพันธุ์ฉลามดังกล่าว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้เร่งประชาสัมพันธ์ไปยังชาวประมง นักตกปลา นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป หากท่านจับปลาฉลามชนิดนี้ได้ ขอให้ปล่อยฉลาม และไม่ควรนำเนื้อฉลามหนามมาบริโภค เพราะอาจทำให้ได้รับสารพิษได้แก่ ปรอท แคดเมียม สารหนู ซึ่งหากร่างกายสะสมสารเหล่านี้ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็ง โรคที่เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด และโรคเกี่ยวกับระบบประสาทได้"

อภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (รรท.อทช.) แถลงผ่านรายงานข่าวกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผยแพร่วันนี้ (18 พ.ค. 2566)


สปีชีส์หายาก เล็งหาทางขึ้นทะเบียน "สัตว์คุ้มครอง"

"ปลาฉลามหนามหากินบริเวณพื้นทะเลน้ำลึก 400-900 เมตร อาจพบเข้ามาหากินบริเวณน้ำตื้นเป็นครั้งคราว พบแพร่กระจายทั่วโลกในเขตร้อนถึงเขตอบอุ่น บริเวณลำตัวมีสีม่วงน้ำตาลหรือดำ ขนาดโตเต็มวัยยาว 3.1 เมตร

ในระดับโลกพบประชากรปลาฉลามชนิดนี้ มีจำนวนลดลงจนใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งจึงจัดเป็นสัตว์ทะเลหายากที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ เป็นนักล่าสัตว์น้ำในอันดับต้นๆ จะกินสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ที่กินสัตว์น้ำขนาดเล็กซึ่ง ทำให้เกิดความสมดุลของความหลากหลายในระบบนิเวศในบริเวณนั้นๆ การมีอยู่ของฉลามจึงเป็นตัวบ่งชี้ความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำในบริเวณนั้น

กรมฯ พร้อมจะร่วมมือกับกรมประมงในการหาแนวทางการดำเนินงานเพื่อการอนุรักษ์ปลาฉลามหนาม พร้อมทั้งเร่งศึกษาสถานภาพของฉลามชนิดนี้ เพื่อเสนอเป็นสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ตลอดจนออกแบบมาตรการในการอนุรักษ์ในเชิงพื้นที่

ปัจจุบันกรมฯ อยู่ระหว่างการจัดทำพื้นที่คุ้มครองทางทะเลบริเวณไหล่ทวีปทางฝั่งตะวันตกของจังหวัดภูเก็ตและอันดามันตอนบน ซึ่งหากแล้วเสร็จจะมีส่วนช่วยรักษาแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาฉลามหนามและชนิดพันธุ์สัตว์น้ำที่หายากอื่นๆ ได้เป็นจำนวนมาก" รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าว


วางขายปลานกแก้ว กลางกรุง

"นอกจากนี้ ล่าสุดได้มีการร้องเรียนจากประชาชนมายังเพจเฟซบุ๊กกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ว่าพบการจำหน่ายปลานกแก้ว บริเวณตลาดเงินวิจิตร แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ตนได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 ร่วมกับกองป้องกันและปราบปราม ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว

จากการตรวจสอบในตลาดพบมีการจำหน่ายปลานกแก้ว จำนวน 5 ร้าน จึงได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้าของร้านและทำความเข้าใจเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ รณรงค์ร่วมกันไม่สนับสนุน ไม่ซื้อ ไม่รับประทานปลานกแก้ว เนื่องจากปลานกแก้วมีประโยชน์ในการสร้างสมดุลของระบบนิเวศแนวปะการัง

สำหรับปลานกแก้ว เป็นปลาทะเลที่มีปากคล้ายนกแก้ว สีสันสวยงาม จึงมีผู้นิยมจับมาดูเล่นและนำมาเป็นอาหาร ทำให้ประชากรปลานกแก้วลดลง ส่งผลกระทบระบบนิเวศโดยรวมเสียสมดุล ปะการังตายมากขึ้น ฟื้นตัวช้า เพราะปลานกแก้วมีหน้าที่สำคัญคือการกินสาหร่ายที่มักขึ้นคลุมแนวปะการังหลังปะการังตายจากเหตุปะการังฟอกขาว ถ้าไม่มีปลานกแก้ว สาหร่ายจะขึ้นคลุมพื้นที่ทำให้ตัวอ่อนปะการังไม่มีที่ลงเกาะ แล้วก็จะไม่มีปะการังตัวอ่อนมาทดแทนตัวเก่า จึงทำให้ปลานกแก้วเป็นสัตว์ทะเลที่ต้องอนุรักษ์ และมีการรณรงค์ให้หยุดกิน" รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าว


ทำได้เพียง "รณรงค์"

"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ยังไม่มีกฎหมายออกมาคุ้มครองปลาฉลามหนาม และปลานกแก้ว แต่สัตว์ทะเลทั้งสองชนิดนี้ถือเป็นสัตว์ทะเลที่หายากควรคู่แก่การอนุรักษ์ หากจับมาขายหรือซื้อมาเพื่อรับประทาน อาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ความสมดุลของระบบนิเวศทางทะเล

กรมฯ จึงขอความร่วมมือจากชาวประมงที่ใช้เครื่องมือประมงต่างๆ โดยเฉพาะเรือตกเบ็ด หากตกได้อยากให้ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติดังเดิม และประชาชนไม่ควรสนับสนุนการซื้อขายมารับประทาน เพราะฉะนั้น เราควรช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยเจ้าหน้าที่สอดส่องดูแลทรัพยากรทางทะเลและสัตว์ทะเลหายาก ไม่ให้ถูกกระทำด้วยผู้ที่หวังแต่ผลประโยชน์ ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อระบบนิเวศทางทะเลในอนาคต หากพบเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก ให้รีบแจ้งเบาะแสมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร. 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่จะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบได้ทันท่วงที " รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผย


https://greennews.agency/?p=34649

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:44


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger