เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #3  
เก่า 04-09-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


พบแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส ที่ภูเก็ต พิษร้าย อันตราย เตือนดังๆ ไม่ควรสัมผัส



ผู้อำนวยการศูนย์ฯ เผย พบแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส หรือ แมงกะพรุนหมวกเรือรบโปรตุเกสจำนวนมากที่จังหวัดภูเก็ต เผยข้อมูล มีพิษร้าย อันตราย พิษของมันอาจทำให้มีอาการปวดแสบปวดร้อน ในบางรายที่มีอาการแพ้มากอาจทำให้มีอาการหนัก หลีกเลี่ยงโดยไม่ควรสัมผัสใดๆ ทั้งสิ้น

เป็นอีกกระแสที่สังคมออนไลน์ แห่แชร์ภาพแมงกะพรุนหมวกเรือรบโปรตุเกส หรือ แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส ซึ่งพบที่บริเวณหาดฝั่งตะวันตก จ.ภูเก็ต และมีการเตือนให้ระวังถึงพิษของแมงกะพรุนชนิดนี้

ทางด้าน คุณสุเทพ เจือละออง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน เผยว่า ได้มีการลงพื้นที่บริเวณหาดกระรนพบ แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส หรือ แมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส ซึ่งมีอีกชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันว่า แมงกะพรุนหัวขวด ซึ่งในเบื้องต้นพบแมงกะพรุนหมวกเรือรบโปรตุเกสจำนวนไม่มาก พิษของมันอาจทำให้มีอาการปวดแสบปวดร้อน ในบางรายที่มีอาการแพ้มากทำให้มีอาการหนัก ซึ่งได้มีการเตือนบรรดานักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ ห้ามสัมผัสเพื่อป้องกันอันตรายจากพิษ

พิษของแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกสมีอันตราย ซึ่งพิษของมันอยู่ตรงระยางสีน้ำเงินจึงห้ามสัมผัส นอกจากนี้ สัตว์อีกชนิดพึงระวังคือ blue dragon หรือ ทากเปลือย ซึ่งตัวมันเองไม่มีอันตรายอะไร แต่เนื่องจากอาหารของ blue dragon คือแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกสจึงทำให้ตัวมันเอง absorb พิษไว้ โอกาสที่จะระคายเคืองจึงมีมาก และห้ามจับโดยเด็ดขาด

จากการตรวจสอบการพบแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส คาดว่าอาจมาจากคลื่นลมพัดเข้ามา ซึ่งปกติแล้วเราจะไม่เจอที่บริเวณหาดเท่าไร แต่เนื่องจากคลื่นลมแรงอาจพัดแมงกะพรุนชนิดนี้เข้ามา โดยปกติแล้วจะพบในช่วงหน้าร้อนซึ่งจะมีมากกว่านี้ ตอนนี้หน้าฝนพัดลมแรงอาจพัดพวกมันเข้ามา จึงได้มีการเตือนนักท่องเที่ยวและชาวบ้านให้หลีกเลี่ยงและห้ามสัมผัส

หากใครบังเอิญสัมผัสและได้รับพิษ ควรปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณที่โดนพิษประมาณ 30 วินาที โดยปกติแล้วหากโดนพิษจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน ซึ่งก็ต้องเฝ้าระวังเพราะบางคนอาจมีอาการแพ้มาก อันตรายของพิษแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส ขึ้นอยู่กับอาการแพ้ของแต่ละคนซึ่งอาจมากน้อยต่างกันและปริมาณพิษที่ได้รับ


ขอขอบคุณที่มา : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง / เพจขยะมรสุม


https://www.nationtv.tv/gogreen/378928868


******************************************************************************************************


ฟาร์มปลาเก๋า ปลาลิ้นหมา เดือดร้อนหนัก ปลาตายกว่าล้านตัว เหตุน้ำทะเลร้อนขึ้น



ธุรกิจฟาร์มปลาและอาหารทะเล ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยเมื่อไม่นานมานี้ที่ประเทศเกาหลีใต้ ผู้ประกอบการฟาร์มปลาเก๋า ปลาลิ้นหมาในจังหวัดช็อลลาใต้ ต้องปวดหัวหนัก เมื่อพบว่าปลาตายมากกว่า 1.05 ล้านตัว เนื่องจากอุณหภูมิน้ำในทะเลสูงขึ้น 5 องศาฯ จากภาวะโลกร้อน

สถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change กำลังรุนแรงและน่ากลัวขึ้นทุกขณะ UN ได้ประกาศว่ายุคโลกร้อนได้สิ้นสุดลงแล้ว เข้าสู่ยุคโลกเดือด และเมื่อโลกอุณหภูมิสูงขึ้นทำให้มหาสมุทรต้องดูดซับความร้อนถึง 90% และทำให้น้ำทะเลร้อนขึ้น ซึ่งการที่ทะเลเดือดหรือมหาสมุทรร้อนขึ้นเป็นสัญญาณที่ไม่ดีกับโลกและสิ่งมีชีวิต

จากภาวะโลกร้อน น้ำในมหาสมุทรอุณหภูมิสูงขึ้น ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ทะเลและแน่นอนว่าธุรกิจฟาร์มปลาและอาหารทะเล ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เมื่อไม่นานมานี้ที่ประเทศเกาหลีใต้ ผู้ประกอบการฟาร์มปลาเก๋า ปลาลิ้นหมาในจังหวัดช็อลลาใต้ต้องปวดหัวเมื่อพบว่าปลาตายมากกว่า 1.05 ล้านตัว เนื่องจากอุณหภูมิน้ำในทะเลสูงขึ้น 5 องศาเซลเซียส

เจ้าของฟาร์มปลา เปิดเผยว่า

จากการทำฟาร์มปลามา 20 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่น้ำทะเลร้อนขนาดนี้ เครื่องวัดอุณหภูมิของน้ำระบุอุณหภูมิสูงถึง 28.2 องศาเซลเซียส ขณะที่ปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันอุณหภูมิอยู่ที่ 23.1 องศาเซลเซียส และจากที่อุณหภูมิน้ำทะเลร้อนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ติดกันหลายวันทำให้ปลาปรับสภาพไม่ได้และตายเป็นจำนวนมาก

ส่วนของประเทศไทยเองก็พบกับเหตุการณ์ปลาในกระชังปลาตายเกลื่อนอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อนเช่นกัน ซึ่งนักวิชาการประมงได้เผยว่า

เมื่อน้ำอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้ออกซิเจนในน้ำต่ำลง ส่งผลกับกระบวนการเผาผลาญอาหารและการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ

ข้อมูลของ "เบย์เลอร์ ฟอกซ์ เคมเปอร์" ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์โลก สิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ มหาวิทยาลัยบราวน์ กล่าวว่า

ร้อยละ 90 ของความร้อนบนโลกที่มาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) สามารถพบได้ในมหาสมุทรที่อุ่นขึ้น และจากการสำรวจ พบว่า มหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์


ขอขอบคุณที่มา : World Forum


https://www.nationtv.tv/gogreen/378928870

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:11


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger