เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 01-10-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


'ดอกไม้บาน' ใน 'แอนตาร์กติกา' สัญญาณเตือนหายนะครั้งใหญ่ของโลก ................. โดย กฤตพล สุธีภัทรกุล



วิจัยเผย พืชใน "แอนตาร์กติกา" กำลังขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ส่วนภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็น "น้ำแข็งขั้วโลก" มีปริมาณต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และละลายอย่างรวดเร็วจาก "ภาวะโลกร้อน" ผู้เชี่ยวชาญชี้เป็นสัญญาณเตือนหายนะครั้งใหญ่ของโลก

ภาพดอกไม้สีสันสดใสบานสะพรั่งอยู่บนโขดหินในทวีปแอนตาร์กติกา กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ ชื่นชมถึงความสวยงาม แถมรู้สึกแปลกใจที่เห็นดอกไม้ไปโผล่อยู่บนทวีปที่หนาวเหน็บเต็มไปด้วยน้ำแข็ง

แม้จะสวยงามแต่การที่มีต้นไม้ออกดอกที่นี่ไม่ใช่เรื่องนี่น่ายินดี นักวิทยาศาสตร์เผยว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวล แสดงให้เห็นว่าน้ำแข็งทั่วโลกกำลังละลายอย่างรวดเร็ว

ปรกติแล้วส่วนใหญ่ของทวีปแอนตาร์กติกาปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ก่อนหน้านี้จึงไม่มีพื้นที่เหลือให้พืชเติบโตมากนัก ไม่มีต้นไม้หรือพุ่มไม้ และพืชที่มีอยู่นั้นจำกัดอยู่เพียงหมู่เกาะเซาท์ออร์กนีย์ หมู่เกาะเซาท์เช็ตแลนด์ และตลอดแนวคาบสมุทรแอนตาร์กติกตะวันตก แต่ในปัจจุบันมีพืชขึ้นอยู่ในหลายพื้นที่ของแอนตาร์กติกา


พืชพันธุ์เติบโตอย่างรวดเร็วในแอนตาร์กติกา

ผลการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอินซูเบรีย ในอิตาลี ที่เผยแพร่ในปี 2022 ที่ทำการศึกษาจำนวนพืชพื้นถิ่นของแอนตาร์กติกา 2 ชนิด คือ หญ้าขนแอนตาร์กติก (Deschampsia Antarctica) และ เพิร์ลเวิร์ตแอนตาร์กติก (Antarctic Pearlwort) บนเกาะซิกนีย์ ระหว่างปี 2009-2019 พบว่า มีจำนวนเพิ่มขึ้นและขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับช่วง 50 ปีก่อนหน้านี้ (1960-2009)

ทีมวิจัยพบว่าจำนวนของพื้นทั้งสองชนิดที่เพิ่มขึ้นเป็นเพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้น จนทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2012 รวมถึงศัตรูทางธรรมชาติอย่าง ?แมวน้ำขน? (Fur Seals) มีจำนวนลดลง จนไม่มีใครคอยเหยียบย่ำส่งผลให้ต้นไม้ทั้ง 2 สายพันธุ์สามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

อุณหภูมิในทวีปแอนตาร์กติกามีแนวโน้มที่จะขึ้นสูงและได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง เมื่อปี 2565 พื้นที่แอนตาร์กติกาตะวันออกเผชิญหน้ากับคลื่นความร้อนที่รุนแรงที่สุดจนถึงปัจจุบัน ทำให้อุ่นขึ้นประมาณ 2 องศาเซลเซียส จนนักวิจัยในพื้นที่สามารถสวมกางเกงขาสั้น และถอดเสื้อเพื่ออาบแดดได้

ปีเตอร์ คอนเวย์ จากสำนักสำรวจแอนตาร์กติกแห่งอังกฤษ ระบุว่า การเติบโตของพืชในแอนตาร์กติกาทำให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หรือจุดเปลี่ยนของโลกใบนี้

นอกจากนี้ อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นยังอาจทำให้สายพันธุ์ต่างถิ่นเข้ามารุกรานและแย่งพื้นที่เติบโตของพืชพื้นเมือง อาจทำให้ระบบนิเวศในท้องถิ่นและความหลากหลายทางชีวภาพหายไป

นิโคเล็ตตา แคนนอน หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ผู้ทำการวิจัยดังกล่าวเปิดเผยว่า ?ถ้าหากพืชสามารถเติบโตได้ดีบนเกาะซิกนีย์ แสดงว่าพื้นที่อื่น ๆ ในทวีปแอนตาร์กติกาก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน หมายความว่าภูมิทัศน์และความหลากหลายทางชีวภาพของแอนตาร์กติกสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว?


ปริมาณน้ำแข็งลดลงเป็นประวัติการณ์

ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นว่า น้ำแข็งทะเลรอบทวีปแอนตาร์กติกากำลังลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ แผ่นน้ำแข็งที่ลอยอยู่บนพื้นผิวของแอนตาร์กติกา มีปริมาณเหลือไม่ถึง 17 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นปริมาณที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปริมาณแผ่นน้ำแข็งในเดือน ก.ย. ถึง 1.5 ล้านตารางกิโลเมตร

ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับพื้นที่ขั้วโลก ออกโรงเตือน ความไม่เสถียรของทวีปแอนตาร์กติกาอาจส่งผลกระทบตามมาในวงกว้าง เนื่องจาก แผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ของทวีปแอนตาร์กติกาเป็นตัวกำหนดระดับอุณหภูมิโลก โดยพื้นผิวน้ำแข็งสีขาวของทวีปทำหน้าที่สะท้อนพลังงานจากดวงอาทิตย์กลับไปยังชั้นบรรยากาศ และยังช่วยทำให้โลกเย็นลง

แต่เมื่อเราสูญเสียน้ำแข็งปกคลุมในทะเล มหาสมุทรก็เข้ามาแทนที่ โดยดูดซับความร้อนจากดวงอาทิตย์ถึง 90% ซึ่งในที่สุดก็จะทะลักเข้าสู่ชั้นบรรยากาศและทำให้ภาวะโลกร้อนเกินเร็วขึ้นอีก

ในช่วงมี.ค.-ก.ย. 2566 อาร์กติกสูญเสียน้ำแข็งในทะเลขนาดใหญ่กว่า 3 เท่าของประเทศอินเดีย หรือประมาณ 9.86 ล้านตารางกิโลเมตร ส่วนแอนตาร์กติกามีพื้นที่น้ำแข็งไปเท่ากับ 5 เท่าของพื้นที่สหราชอาณาจักร คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 1.22 ล้านตารางกิโลเมตร

อาจจะดูเหมือนสถานการณ์ของแอนตาร์กติกาจะดูดีกว่าอาร์กติก แต่น้ำแข็งของแอนตาร์กติกาก็ยังละลายเร็วกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ไว้อยู่ดี โดยในช่วงเวลานี้ควรมีน้ำแข็งอย่างน้อย 18.71 ล้านตารางกิโลเมตร

ดร.วอลเตอร์ ไมเออร์ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับขั้วโลก ไม่คิดว่าน้ำแข็งในทะเลจะฟื้นคืนกลับมาอยู่ในระดับเดิมได้อีกแล้ว เนื่องจากฤดูละลายเริ่มเร็วขึ้นและยาวนานกว่าปกติมาก อาร์กติกและแอนตาร์กติกาจึงแทบไม่มีเวลาสะสมน้ำแข็งทะเลคุณภาพดี ตอนนี้มีแต่น้ำแข็งเป็นแพเล็ก ๆ มีความเข้มข้นต่ำกว่าเดิม

ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงอีก คลื่นความร้อนในแอนตาร์กติกคาดว่าจะสูงขึ้นอีกประมาณ 5 - 6 องศาเซลเซียสภายในสิ้นศตวรรษนี้ และส่งผลกระทบที่จะกลายเป็นหายนะไปทั่วโลก

ที่มา: BBC, Mashable, Plants Craze, Unilad, Washington Post, Weather


https://www.bangkokbiznews.com/environment/1091233

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:57


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger