เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #7  
เก่า 02-03-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


เอลนีโญทำให้อากาศร้อนเป็นประวัติการณ์ จากแอมะซอนลามไปอะแลสกาแล้ว


SHORT CUT

- จากแบบจำลองคอมพิวเตอร์ 90% มีโอกาสที่อุณหภูมิโลกจะสูงขึ้น อากาศร้อนจนทำลายสถิติเก่า และเกิดสถิติใหม่ขึ้น

- อุณหภูมิโลกที่อบอุ่นขึ้น เพิ่มความเสี่ยงของคลื่นความร้อนในทะเลตลอดทั้งปี เพิ่มความเสี่ยงด้านลบในอะแลสกา

- เอลนีโญบวกกับระดับคาร์บอนไดออกไซด์ฝีมือมนุษย์ ส่งผลให้วัฏจักรสภาพภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนไป




นักวิทยาศาสตร์พบว่าเอลนีโญมีแนวโน้มเพิ่มความรุนแรงขึ้น ทำให้ความร้อนทั่วโลกเพิ่มขึ้นในปี 2024 และอาจสร้างอุณหภูมิที่ทำลายสถิติอย่างที่เคยเกิดขึ้นในแอมะซอน (Amazon) ตอนนี้ลามไปยังอะแลสกา (Alaska) แล้ว

ปรากฏการณ์ธรรมชาติเอลนีโญ ทำให้อุณหภูมิพื้นผิวโลกเพิ่มขึ้น โดยในปี 2023 อากาศร้อนทุบสถิติเป็นว่าเล่น

เอลนีโญทำให้อากาศร้อนเป็นประวัติการณ์ จากแอมะซอนลามไปอะแลสกาแล้ว


โลกร้อนขึ้น อุณหภูมิสูงจนเกิดสถิติใหม่

ปรากฏการณ์เอลนีโญเริ่มส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้คนที่อาศัยอยู่ในอเมริกาเหนือ ยุโรปและจีน อเมริกาใต้ และมาดากัสการ์ ในขณะที่วิกฤตสภาพภูมิอากาศทวีความรุนแรงมากขึ้น

การวิเคราะห์ใหม่โดยใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์เพื่อระบุฮอตสปอตในภูมิภาคต่างๆ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 พบว่า 90% มีโอกาสที่อุณหภูมิโลกจะสูงขึ้น อากาศร้อนจนทำลายสถิติเก่า และเกิดสถิติใหม่ขึ้น

"คลื่นความร้อนที่รุนแรงและพายุหมุนเขตร้อน เมื่อรวมกับการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลทั่วโลกที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ พื้นที่ชายฝั่งทะเลที่มีประชากรหนาแน่น กำลังเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศครั้งใหญ่อย่างรวดเร็ว ซึ่งท้าทายความสามารถในการปรับตัว การบรรเทา และการบริหารความเสี่ยง" ผู้เชี่ยวชาญจาก Chinese Academy of Meteorological Sciences กล่าว


เอลนีโญและก๊าซเรือนกระจกเร่งให้โลกร้อนขึ้น

อุณหภูมิโลกที่อบอุ่นขึ้นจนถึงขั้นทำให้อากาศร้อน เพิ่มความเสี่ยงของคลื่นความร้อนในทะเลตลอดทั้งปี และเพิ่มความเสี่ยงของไฟป่าและผลกระทบด้านลบอื่นๆ ในอะแลสกา (Alaska)และแอ่งแอมะซอน

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ทะเลและพื้นที่ชายฝั่งมีความเสี่ยงเป็นพิเศษเนื่องจากมหาสมุทรสามารถกักเก็บความร้อนได้มากกว่าพื้นดิน หมายความว่าสภาพอากาศที่ร้อนจะคงอยู่บริเวณนั้นเป็นระยะเวลานานขึ้น

ปรากฎการณ์เอลนีโญและลานีญา บวกกับระดับคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในชั้นบรรยากาศซึ่งเป็นฝีมือของมนุษย์ ส่งผลให้วัฏจักรสภาพภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนไป และทำให้ความร้อนทั่วโลกสูงขึ้น อากาศจะร้อนขึ้นอีก


อะแลสกาอาจเป็นรายต่อไปที่ได้รับผลกระทบโลกร้อน

นักวิทยาศาสตร์พบว่าอุณหภูมิที่สูงทำลายสถิติในแอมะซอนมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นอีกในปี 2567 และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่ารุนแรง เกิดความแห้งแล้ง และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในเดือนกุมภาพันธ์ได้สร้างสถิติใหม่ขึ้นแล้ว

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าความร้อนที่บันทึกได้ในอะแลสกาจะส่งผลให้ธารน้ำแข็งและชั้นดินเยือกแข็งละลาย และเกิดการกัดเซาะชายฝั่ง และจากการศึกษานี้ในการบันทึกอุณหภูมิที่สังเกตได้ และสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์เอลนีโญและผลกระทบอื่นๆ ต่อส่วนที่เหลือของโลก เพื่อคาดการณ์ถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในปี 2024 ได้

ที่มา : The Guardian


https://www.springnews.co.th/keep-th...-change/848297

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:25


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger