![]() |
|
#7
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS
ทะเลอ่าวไทยอุ่นขึ้น 1 องศาฯ จับตา 3 เดือนเสี่ยงปะการังฟอกขาว ![]() อาจารย์ธรณ์ เตือนน้ำทะเลอุ่นขึ้น 1 องศาเซลเซียส พบมีนัยสำคัญร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว จับตาอีก 3 เดือน ปะการังอ่าวไทย-อันดามันเสี่ยงฟอกขาว หลังพบที่ Great Barrier Reef ปะการังฟอกขาว 1,000 กม. ไม่เพียงแต่อุณหภูมิความร้อนที่ผิวกายของคนสัมผัสได้ถึงความร้อน แต่ระบบนิเวศทางทะเล โดยเฉพาะปะการังถือว่ามีความอ่อนไหวมากที่สุดหากอุณหภูมิน้ำทะเลอุ่นขึ้นเพียงแค่ 1-2 องศาเซลเซียส จับตาปะการังเริ่มฟอกขาว เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ของผศ.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ คณะประมง ม.เกษตรศาสตร์คณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ระบุว่า เตือนไว้ 4 ประเด็น คือ น้ำทะเลช่วงก.พ.ปีนี้ ร้อนกว่าปีที่แล้ว และยังร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้อาจเกิดปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ทั้งอ่าวไทย และอันดามัน และ Great Barrier Reef ก็เกิดปะการังฟอกขาวแล้วกว่า 1,000 กิโลเมตร การฟอกขาวของปะการัง จะส่งผลต่อระบบนิเวศอื่นๆ ทั้งหญ้าทะเล แพลงก์ตอนบลูม กระทบการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และยังรวมไปถึงเรื่องการทำมาหากิน จับสัตว์ทะเล หรือการท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน น้ำทะเลอุ่นขึ้น 1 องศาฯ แตะ 31 องศาฯ ผศ.ธรณ์ กล่าวว่า คาดการณ์ว่าอุณหภูมิน้ำทะเลปีนี้หากเทียบกับปี 2566 ในช่วงเวลาเดียวกันสูงกว่า 1 องศาเซลเซียส และในเดือนมี.ค.ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่สถานีที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี วัดอุณหภูมิน้ำทะเลแบบเรียลไทม์ พบว่าเกิน 31 องศาเซลเซียสไปแล้ว และอาจจะร้อนที่สุดตั้งแต่บันทึกมา "หากเกิดปะการังฟอกขาว จะทำให้ปะการังตายและมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว อย่างแน่นอน เพราะบางแห่งเช่นหมู่เกาะสุรินทร์ 2 ปีปะการังยังฟื้นตัวยาก ตายแล้วตายเลยเพราะมีการฟแกขาวซ้ำซ้อน ถ้าเป็นปีเอลนีโญ่ด้วย" นอกจากนี้อาจารย์ธรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบปรากฎการณ์แพลงตอนบูมหรือน้ำทะเลเขียว ซึ่งในอดีตเกิดน้ำทะเลเขียวปีละ 15 ครั้งแต่ปีที่ผ่านมา มากถึง 70 ครั้ง ถือว่าความรุนแรงจะเร่งสปีดทั้งปะการังฟอกขาว หญ้าทะเลตาย และน้ำทะเลเขียวบ่อย ๆ ซึ่งเป็นผลกระทบวงกว้างต่อเนื่องเป็นวงกว้างของห่วงโซ่อาหาร กระทบต่อการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ มีรายงานว่าในช่วงเดือน เม.ย.ปี 2566 พบว่าปะการังฟอกขาว แต่ไม่มากนักโดยอยู่ที่ 5-10 % ประกอบกับเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝน เมื่อฝนตกก็จะช่วยให้อุณหภูมิของน้ำลดลงเป็นสิ่งที่ดีกับตัวปะการังทำให้ไม่ฟอกขาวรุนแรง เดือน ม.ค.67 อุ่นเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มีข้อมูลจากคอปเปอร์นิคัส ไคลเมตเชนจ์ เซอร์วิส โดยศูนย์พยากรณ์อากาศยุโรป และองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ NOAA ที่รายงานชัดเจนตรงกันว่า ช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา คือเดือนมกราคมที่อุ่นที่สุด และคาดการณ์ว่าปีนี้อาจจะเป็นปีที่ร้อนที่สุด นับตั้งแต่ที่เก็บข้อมูลมาก็เป็นไปได้ กราฟที่ NOAA เผยแพร่ แสดงให้เห็นว่า ช่วงเดือนม.ค.2567 อุณหภูมิพื้นผิวโลก สูงว่าระดับค่าเฉลี่ยศตวรรษที่ 20 ถึง 1.27 องศาเซลเซียส และสูงกว่าปี 2016 ที่เคยเป็นสถิติปีที่มีเดือนมกราคมที่อุ่นที่สุด 0.04 องศาเซลเซียส ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ 22% ที่ปี 2024 นี้ จะเป็นปีที่อุ่นที่สุดนับตั้งแต่ที่บันทึกไว้ และมีโอกาส 99% ที่ปีนี้จะร้อนที่สุดติด 5 อันดับแรกที่เคยบันทึกไว้ นอกจากนี้เดือนม.ค.ที่ผ่านมา ยังเป็นเดือนที่สถิติอุณหภูมิผิวทะเลสูงกว่าค่าเฉลี่ยเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน ภาวะเอลนีโญ่ ยังส่งผลต่อเนื่อง แต่เริ่มอ่อนกำลังลงในเขตศูนย์สูตร โดยและคาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติ ช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.นี้โดยมีความเป็นไปได้ 55%ที่จะเกิดภาวะลานีญาได้ในช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค.นี้ https://www.thaipbs.or.th/news/content/337727
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|