เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #4  
เก่า 14-05-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


"กรมเจ้าท่า" ทุ่มงบฯ 1.4 พันล้าน เสริมทรายชายหาดชะอำ ถูกกัดเซาะหนัก 6 กม.



"กรมเจ้าท่า" ใช้งบฯ ปี 67 กว่า 1.4 พันล้าน ลุยเสริมทรายชายหาดชะอำ ถูกกัดเซาะหนัก 6 กม. เติมทราย 1.4 ล้านลบ.ม. เพิ่มความกว้างชายหาด 50-80 เมตร ฟื้นชายหาดให้สวยงาม "มนพร" สั่งศึกษาผลกระทบจากการสร้างเขื่อนกันคลื่น ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งที่เหมาะสมอย่างยั่งยืน

นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมติดตามการดำเนินโครงการเสริมทรายชายหาดและป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง และสำรวจพื้นที่จุดที่มีการขอรับงบประมาณก่อสร้างท่าเทียบเรือบ้านแหลม ซึ่งที่ผ่านมาได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชน และผู้ประกอบการในพื้นที่ชายหาดชะอำเรื่องปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง รวมทั้งได้รับการร้องขอจากกลุ่มชาวประมงบริเวณวัดไทรย้อย ให้ดำเนินการปรับปรุงเขื่อนกันคลื่นนอกชายฝั่ง ให้สามารถกำบังคลื่นลมได้ดียิ่งขึ้น เพื่อยกระดับความสะดวก และปลอดภัยต่อการประกอบอาชีพประมง และการใช้ประโยชน์พื้นที่ด้านหลังเขื่อนกันคลื่นนอกชายฝั่ง ทั้งนี้พื้นที่บริเวณชายหาดชะอำ เป็นพื้นที่ที่ถูกกัดเซาะมากที่สุด โดยกรมเจ้าท่า (จท.) อยู่ระหว่างดำเนินโครงการเสริมทรายชายหาดและป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ระยะทางรวม 6.05 กิโลเมตร (กม.) ใช้งบประมาณ 1,442.87 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 บริเวณร้านอาหารปลาทู?ถนนโยธาธิการ (กม.1+500-กม.3+200) ระยะทางประมาณ 1.7 กม. งบประมาณ 554.94 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ระยะทาง 800 เมตร งบประมาณ 270 ล้านบาท โดยเสริมทรายชายหาดกว้างเฉลี่ย 50-80 เมตร ซึ่งได้รับงบประมาณปี 67 อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง และตอนที่ 2 ระยะทาง 900 เมตร งบประมาณ 284.94 ล้านบาท ประกอบด้วย เสริมทรายชายหาดกว้างเฉลี่ย 50 เมตร ก่อสร้างกำแพงหินบริเวณปากคลองบางควาย พร้อมทั้งขุดลอกคลอง และปรับปรุงเขื่อนกันคลื่นนอกชายฝั่งเดิมบริเวณหน้าวัดไทรย้อย และปรับปรุงระบบระบายน้ำ

ระยะที่ 2 (ซอยร่วมจิตร?ลานชมวิวหาดชะอำ) (กม.6+800-กม.9+800) ระยะทางประมาณ 3 กม. งบประมาณ 598.61 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ระยะทาง 1.5 กม. งบประมาณ 299.305 ล้านบาท โดยเสริมทรายชายหาดกว้างเฉลี่ย 50 เมตร และตอนที่ 2 ระยะทาง 1.5 กม. งบประมาณ 299.305 ล้านบาท โดยเสริมทรายชายหาดกว้างเฉลี่ย 50 เมตร และระยะที่ 3 (ลานชมวิวหาดชะอำ-บริเวณร้านอาหารไอ เลิฟ สวีต) (กม.9+800-กม.11+150) ระยะทาง 1.35 กม. งบประมาณ 289.32 ล้านบาท โดยเสริมทรายชายหาดกว้างเฉลี่ย 50 เมตร

นางมนพร กล่าวต่อว่า บริเวณชายหาดชะอำมีการถูกกัดเซาะเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของอำเภอชะอำ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และต่างชาติเดินทางมาจำนวนมาก เนื่องจากมีชายหาด และทะเลที่สวยงาม รวมทั้งมีการคมนาคมที่สะดวก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ทั้งนี้โครงการเสริมทรายชายหาดชะอำ จะเริ่มดำเนินการภายในปี 67 โดยปริมาณทรายที่ใช้ในการเสริมทรายทั้ง 3 ระยะ ประมาณ 1,439,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ภายหลังโครงการฯ แล้วเสร็จ จะทำให้ชายหาดมีความกว้างเฉลี่ย 50-80 เมตร พร้อมแก้ไขปัญหากัดเซาะชายฝั่ง ฟื้นฟูระบบนิเวศและช่วยบูรณะให้ชายหาดชะอำกลับมาสวยงาม รองรับกิจกรรมสันทนาการบนชายหาด และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้ชุมชน และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย

นางมนพร กล่าวอีกว่า ได้มอบให้ จท. ศึกษาผลกระทบจากการสร้างเขื่อนกันคลื่น เพื่อหาแนวทางป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งที่เหมาะสมอย่างยั่งยืน สำหรับโครงการเสริมทรายชายหาดฯ บริเวณชายหาดชะอำ ฝั่งด้านเหนือ ได้สั่งการให้ จท. ประสานหน่วยงานส่วนท้องถิ่น เพื่อจัดทำข้อมูลเป็นโครงการเร่งด่วนในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในครั้งนี้ เพื่อพิจารณาขอรับการจัดสรรงบประมาณจากงบกลาง เพื่อเร่งดำเนินการ นอกจากนี้มอบนโยบายให้ จท. ปรับปรุงและออกแบบภูมิทัศน์ชายหาดให้สวยงามเหมาะกับการทำกิจกรรมทางน้ำ และกิจกรรมสันทนาการบนชายหาดสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยใช้ชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี เป็นต้นแบบ

นางมนพร กล่าวด้วยว่า ในโอกาสนี้ได้ลงพื้นที่ตำบลบ้านแหลม เพื่อรับฟังปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ โดยสมาคมประมงอำเภอบ้านแหลม องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแหลม และเทศบาลตำบลบ้านแหลม ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างท่าเทียบเรือบ้านแหลม เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับขนถ่ายสัตว์น้ำ รวมทั้งรองรับการเทียบท่าของเรือประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน โดยที่ผ่านมา จท. ได้ดำเนินการขุดลอกร่องน้ำบ้านแหลม เพื่อให้เรือสามารถเข้าเทียบท่าที่ตำบลบ้านแหลมได้

ทั้งนี้จากที่ชุมชนขอรับการสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างท่าเทียบเรือนั้น กระทรวงคมนาคมพร้อมผลักดันโครงการเพื่อแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน โดยมอบให้ จท. พิจารณาใช้งบเหลือจ่ายประจำปีงบประมาณ 67 เพื่อศึกษาและออกแบบโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือฯ จากนั้นจัดทำกรอบวงเงินงบประมาณก่อสร้าง และขอรับการจัดสรรงบประมาณต่อไป ซึ่งท่าเทียบเรือดังกล่าวจะช่วยอำนวยความสะดวกต่อการทำอาชีพประมง รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทางและขนส่ง ทำให้ประชาชนในพื้นที่สามารถสัญจรได้สะดวกขึ้น และเป็นการสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้วย


https://www.dailynews.co.th/news/3429150/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:19


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger