เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #9  
เก่า 16-05-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation


เปิด 4 วิธีช่วยปะการัง พร้อมทริคเลือกครีมกันแดดอย่างไร ให้เป็นมิตรต่อท้องทะเล




อ.ธรณ์ เผยปะการังฟอกขาวหนัก พร้อมเปิด 4 วิธีแสนง่ายช่วยได้ทันที ได้แก่ เที่ยวระวัง, เลิกให้ขนมปังปลา, เก็บขยะเมื่อเห็น, อย่ากินปลานกแก้วและสัตว์หายาก ด้าน "เนชั่นทีวี" ชวนอ่านทริค เลือกครีมกันแดดอย่างไร ให้ปกป้องผิว และพิทักษ์ท้องทะเล

จากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ "ปะการัง" สิ่งมีชีวิตที่เสมือนเป็นบ้านหลังใหญ่ของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล เกิดปรากฏการณ์ฟอกขาวในหลายพื้นที่ ซึ่งในประเทศไทย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พบปะการังฟอกขาวในเขตอุทยานฯ 12 แห่ง จึงเร่งทำการปิดพื้นที่ห้ามรบกวน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อแนวปะการัง รวมถึง ลดผลกระทบจากกิจกรรมทุกประเภท จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

นอกจากนี้ อีกหลายพื้นที่ อย่างที่บริเวณหาดหลังเขา ของ "เกาะลิบง" แหล่งอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเลของไทย ปะการังบางส่วนกลายเป็นสีขาว ทั้งที่ปกติปะการังเหล่านี้จะมีความสวยงามหลากหลากสีสัน

ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) สั่งกำชับให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ติดตามสถานการณ์ปะการังฟอกขาวอย่างใกล้ชิด หากพบการเกิดปะการังฟอกขาวขั้นรุนแรง ให้ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อบรรเทาความเครียดของปะการัง และจัดตั้งทีมประสานงานร่วมกับในพื้นที่ ให้การสนับสนุนในทุกๆ ด้าน

"เนชั่นทีวี" ชวนอ่าน 4 วิธีช่วยปะการัง รวมถึง ทริคเลือกครีมกันแดดอย่างไร ไม่ให้เป็นอันตรายต่อปะการัง



"อ.ธรณ์" เผยปะการังฟอกขาวหนัก พร้อมเปิด 4 วิธีช่วยปะการังจากอาการฟอกขาว

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า

"ปะการังฟอกขาวหนัก ทะเลจะตายอยู่แล้ว 4 วิธีแสนง่ายช่วยเธอได้ทันที เที่ยวระวัง/เลิกให้ขนมปังปลา/เก็บขยะเมื่อเห็น/อย่ากินปลานกแก้วและสัตว์หายาก อธิบายมาหลายครั้ง หนนี้บอกสั้นๆ ว่าเชื่อธรณ์"


พร้อมภาพที่มีข้อความอธิบายเพิ่มเติม ระบุว่า

- ท่องเที่ยวอย่างระวัง ไม่เข้าใกล้ปะการังฟอกขาว เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ

- เก็บขยะจากแนวปะการัง ใครทิ้งก็ช่าง เราเก็บ

- แต่เราช่วยกันได้ เช่น อย่าให้อาหารปลา ปลากินขนมปังจะไล่ปลากินสาหร่ายออกไป แล้วตัวอะไรจะกินสาหร่าย

- ปลานกแก้วกินสาหร่าย ทำให้ปะการังใหม่ลงเกาะบนพื้นได้ กินปลานกแก้วคือช่วยทำให้ปะการังแพ้สาหร่าย เพราะฉะนั้น เลิกกินนะครับ


ซึ่งหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก อาทิ

- ช่วงนี้งดเที่ยวก่อนดีไหมค๊ะ ให้เค้าได้พักตัวเอง

- พวกแจกขนมปังที่ให้ปลามารุมๆแล้วถ่ายรูป อยากจะทุบให้! ไปเที่ยวทะเลใต้ เจอแบบนี้บ่อยมากกก

- ยินดีปฏิบัติทุกข้อค่ะ

- ปิดทะเลชั่วคราวค่ะ

- ปลานกแก้วสวยมากนะกินกันลงได้ยังไง


สารบางชนิด ที่ส่งผลต่อปะการัง

อย่างที่เห็นตามข่าวกัน ว่าปัจจุบันปัญหามลภาวะกลายเป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอากาศ ฝุ่นละออง ควันจากไฟป่า ขยะในมหาสมุทร นอกจากปัญหาดังกล่าวแล้ว ยังมีมลภาวะอีกอย่างที่ "เนชั่นทีวี" อยากให้ทุกคนตระหนักถึง คือ มลภาวะที่เกิดจากสารกันแดดที่อยู่ในน้ำทะเล

หลายคนเมื่อไปท่องเที่ยวทะเล คงมีความกังวลเรื่องผิวไหม้ ผิวดำคล้ำ ทำให้เลือกครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟสูง และทาซ้ำหลายครั้ง ซึ่งสิ่งที่ให้คุณประโยชน์กับเราอาจกลายเป็นโทษให้กับสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน โดยในแต่ละปีคาดว่ามีครีมกันแดดถึง 6,000 ตันตกค้างอยู่ในทะเลทั่วโลก โดยจะกระจุกตัวอยู่ในบริเวณที่นักท่องเที่ยวมาว่ายน้ำหรือดำน้ำดูปะการังเป็นส่วนใหญ่

จากงานวิจัยโดย Downs และคณะ เพื่อองค์กร National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) และองค์กรอื่นๆ ในสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่า ปะการังอ่อนที่สัมผัสกับสาร Oxybenzone และ Octinoxate ที่มีในสารกันแดดแสดงออกถึงภาวะเครียด โดยมีสีซีดจางลง ทำให้ปะการังติดเชื้อได้ง่ายและไม่สามารถได้รับสารอาหารได้เต็มที่อย่างที่เคย อีกทั้ง สารทั้งสองชนิดยังสร้างความเสียหายต่อดีเอ็นเอ แถมทำให้โครงสร้างปะการังเจริญเติบโตผิดปกติด้วย

ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ถูกนำมาต่อยอดโดยนักวิจัยชาวอิตาเลียน ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Environmental Health Perspectives โดยงานวิจัยชิ้นนี้ชี้ว่าส่วนผสมของครีมกันแดดที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย (รวมถึง Oxybenzone) ทำให้เกิด "ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว" (coral bleaching) ไปทั่วโลก ทั้งในมหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแปซิฟิก แม้ส่วนผสมที่ว่าจะมีความเข้มข้นไม่มากก็ตาม โดยในปี ค.ศ. 2018 รัฐฮาวายเป็นรัฐแรกของสหรัฐฯ ที่ประกาศแบนผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสองชนิดนี้ ตามมาด้วยเมืองฟลอริดา (มีผลบังคับใช้โดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2021) ส่วนปาเลา (Palau) ถือเป็นประเทศแรกที่มีการแบนครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากปะการังที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำแล้ว งานวิจัยอื่นๆ ก็ได้ผลออกมาไปในทิศทางเดียวกันว่าครีมกันแดดมีผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล โดยเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบางชนิดในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป เช่น สารบางชนิดไปยับยั้งการเจริญเติบโตและการสังเคราะห์แสงของสาหร่ายสีเขียว ในขณะที่สารบางชนิดทำให้อัตราการเจริญพันธุ์ของปลาลดลง และทำให้ปลาเพศชายมีลักษณะเป็นเพศหญิงมากขึ้น เป็นต้น


เลือกครีมกันแดดอย่างไร ถึงจะช่วยปกป้องผิว ไปพร้อมกับพิทักษ์โลกใต้ทะเล

เมื่อตระหนักถึงมลภาวะที่เกิดจากสารกันแดด ปัจจุบันจึงมีหลายแบรนด์เลือกผลิตครีมกันแดดที่เป็นมิตรต่อปะการังมากยิ่งขึ้น โดยผลิตภัณฑ์กันแดดที่เป็นมิตรต่อปะการัง หรือ reef-friendly sunscreen หรือ Coral-freindly sunscreen นี้มักจะไม่มีส่วนผสมสารที่เป็นพิษต่อปะการัง ได้แก่ Oxybenzone, Octinoxate, Octocrylene, Homosalate, 4-methylbenzylidene camphor, PABA, Parabens, Triclosan, ไมโครพลาสติกทุกชนิด และอนุภาคขนาดนาโนหรือสังกะสีหรือไทเทเนียมขนาดนาโน


ทั้งนี้ หากอยากจะทากันแดดเพื่อปกป้องผิวและรักษ์โลกไปด้วย สามารถทำได้หลายวิธี เช่น


- เลือกใช้ครีมกันแดดที่ระบุว่า "reef-safe" , "Ocean Friendly" , หรือมีตราสัญลักษณ์ "Protect Land & Sea" แต่ควรตรวจสอบส่วนผสมข้างขวดเพิ่มเติมตอนเลือกซื้อ

- เลือกใช้ครีมกันแดดแบบกันน้ำ จะช่วยลดการชะล้างลงสู่ทะเลได้ในช่วงเวลาที่ทำกิจกรรม

- เลือกใช้ครีมกันแดดที่สามารถย่อยสลายได้เองโดยธรรมชาติ เพื่อลดผลกระทบตกค้าง

- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนที่ช่วยในการกันแดดได้ อาทิ น้ำมันมะพร้าว

- เลือกใช้ครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินความจำเป็น

- เลือกสวมเสื้อผ้าที่มีคุณความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสียูวี (UPF หรือ Ultraviolet Protection Factor)ได้สูง

-หลีกเลี่ยงการใช้ครีมกันแดดแบบพ่น เพราะมีโอกาสจะฟุ้งบนพื้นทรายและถูกพัดพาลงไปในทะเล


ห้ามนำและใช้ครีมกันแดด ที่มีสารเคมีอันตราย 4 ชนิด เข้าเขตพื้นที่กรมอุทยานแห่งชาติ

วันที่ 3 ส.ค. ปี พ.ศ. 2564 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เรื่อง ห้ามนำและใช้ครีมกันแดด ที่มีส่วนประกอบของสารเคมีเป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท โดยอาศัยข้อมูลทางวิชาการระบุว่า สารเคมีบางชนิดมีส่วนผสมเป็นพิษต่อแนวปะการัง

โดยสารต้องห้ามในครีมกันแดด ที่ระบุในราชกิจจานุเบกษาฉบับนี้ ได้แก่

- Oxybenzone หรือ Benzophenon-3
- Octinoxate หรือ Ethylhexyl
- 4-Methylbenzylid Camphor
- Butylparaben

ทรัพยากรทางทะเล เป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่ง มาวันนี้ปะการังกำลังอ่อนแอ จากสภาพอากาศที่แปรเลี่ยน โลกร้อนขึ้น น้ำทะเลเดือด การช่วยรักษาปะการัง ซึ่งเป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ของสัตว์ทะเล ก็เหมือนเราได้รักษาโลกของเราด้วย มาช่วยพวกเขากันเถอะ เพื่อให้พวกเขาอยู่กับเราตราบนานเท่านาน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป


ขอบคุณข้อมูลและภาพบางส่วนจาก :
เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat



https://www.nationtv.tv/news/social/378943914

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:10


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger