เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #3  
เก่า 06-08-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


"ลานีญา" มาแล้ว! โอกาส?เสี่ยงกระทบภาคเกษตร ทำเงินเฟ้อ ข้าวของแพง


SHORT CUT

- ขณะนี้ทุกภูมิภาคของประเทศไทยฝนตกชุกแบบชุ่มช่ำกันทุกวัน จะเดินทางไปไหนมาไหนก็สุดแสนจะลำบาก หรืออาจเรียกได้ว่าปรากฏการณ์ลานีญาได้อย่างเต็มปากก็ว่าได้

- กรมอุตุนิยมวิทยา ออกมาคาดการณ์ปริมาณฝนประเทศไทยหลังจากนี้จะลดลงแต่ภาคเหนือและอีสานจะยังคงมีฝนตกหนัก โดยเป็นผลจาก "ลานีญา" ที่จะเริ่มจะมีผลกระทบจากนี้ไปจนถึงปลายปี

- รู้หรือไม่? ลานีญา มาแล้ว! โอกาส?เสี่ยงกระทบภาคเกษตร ทำเงินเฟ้อ ข้าวของแพง




"ลานีญา" เริ่มเข้ามาให้ประเทศไทยได้เห็นแล้ว เพราะ...ฝนตก ในหลายพื้นที่เกือบทุกวัน ทำให้ปริมาณน้ำสูงขึ้น บางพื้นที่เริ่มน้ำท่วมแล้ว แน่นอนว่าผลกระทบลานีญาเสี่ยงต่อการเกษตร และอาจทำให้เงินเฟ้อ ข้าวของแพงได้

ต้องยอมรับว่าขณะนี้ทุกภูมิภาคของประเทศไทยฝนตกชุกแบบชุ่มช่ำกันทุกวัน จะเดินทางไปไหนมาไหนก็สุดแสนจะลำบาก หรืออาจเรียกได้ว่าปรากฏการณ์ลานีญาได้อย่างเต็มปากก็ว่าได้ โดยล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา ออกมาคาดการณ์ปริมาณฝนประเทศไทยหลังจากนี้จะลดลงแต่ภาคเหนือและอีสานจะยังคงมีฝนตกหนัก โดยเป็นผลจาก "ลานีญา" ที่จะเริ่มจะมีผลกระทบจากนี้ไปจนถึงปลายปี

จากปรากฏการณ์ลานีญา ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในตอนนี้จึงทำให้ ในวันที่ 5 สิงหาคม2567 นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการ "ประชุมหารือบริหารจัดการน้ำ" ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อธิบดีกรมชลประทาน


เตรียมรับมือ "ลานีญา" เต็มสูบ

และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) เข้าร่วมประชุม โดยนายกรัฐมนตรีจะกล่าวมอบนโยบายและข้อสั่งการ พร้อมด้วยการแถลงแนวทางการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลหลังจากที่สถานการณ์น้ำทั่วประเทศขณะนี้มีบางพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำสูง โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่า ประเทศไทยเข้าสู่สภาวะ "ลานีญา" แล้ว ในช่วง เดือน ก.ค.- ก.ย.67 ต่อเนื่องไปจนถึง ธ.ค. 67 ถึง ก.พ. 68 ทำให้ครึ่งปีหลังมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สำหรับฤดูหนาวปีนี้อุณหภูมิจะลดต่ำลงกว่าปีที่แล้ว สำหรับปรากฏการณ์ที่กลับกันกับเอลนีโญ กล่าวคือ อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณตอนกลางและตะวันออกของแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรมีค่าต่ำกว่าปกติ เนื่องจากลมค้าตะวันออกเฉียงใต้มีกำลังแรงมากกว่าปกติ จึงพัดพาผิวน้ำทะเลที่อุ่นจากตะวันออกไปสะสมอยู่ทางตะวันตกมากยิ่งขึ้น

จากปรากฎการณ์ดังกล่าวจึงทำให้บริเวณดังกล่าวซึ่งเดิมมีอุณหภูมิผิวน้ำทะเลและระดับน้ำทะเลสูงกว่าทางตะวันออกอยู่แล้วยิ่งมีอุณหภูมิและระดับน้ำทะเลสูงขึ้นไปอีก ปรากฏการณ์ลานีญาเกิดขึ้นได้ทุก 2 ? 3 ปี และปกติจะเกิดขึ้นนานประมาณ 9 ? 12 เดือน แต่บางครั้งอาจปรากฏอยู่ได้นานถึง 2 ปี


เช็กผลกระทบของลานีญาต่อปริมาณฝน-อุณหภูมิในไทย

อย่างไรก็ตามจากการศึกษาสภาวะฝนและอุณหภูมิของประเทศไทยในปีเอลนีโญ โดยใช้วิธีวิเคราะห์ค่า composite percentile ของปริมาณฝน และ composite standardized ของอุณหภูมิในปีเอลนีโญ จากข้อมูลปริมาณฝนและอุณหภูมิรายเดือน ในช่วงเวลา 50 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2494 ถึง 2543 พบว่า ในปีลานีญาปริมาณฝนของประเทศไทยส่วนใหญ่สูงกว่าปกติ โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนและต้นฤดูฝนเป็นระยะที่ลานีญามีผลกระทบต่อสภาวะฝนของประเทศไทยชัดเจนกว่าช่วงอื่น และพบว่าในช่วงกลางและปลายฤดูฝนลานีญามีผลกระทบต่อสภาวะฝนของประเทศไทยไม่ชัดเจน

"สำหรับอุณหภูมิปรากฏว่าลานีญามีผลกระทบต่ออุณหภูมิในประเทศไทยชัดเจนกว่าฝน โดยทุกภาคของประเทศไทยมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติทุกฤดู และพบว่าลานีญาที่มีขนาดปานกลางถึงรุนแรงส่งผลให้ปริมาณฝนของประเทศไทยสูงกว่าปกติมากขึ้น ขณะที่อุณหภูมิต่ำกว่าปกติมากขึ้น"


เปิดผลกระทบ "ลานีญา" ต่อภาคการเกษตรไทย

ลานีญา ยังเสี่ยงต่อกระทบกับอุตสาหกรรมยางพาราไทย ถ้าฝนตกในปริมาณมาก อย่างเช่นบทเรียนเมื่อปี 2565 ภาคใต้ได้เกิดภาวะลานีญา ทำน้ำฝนมากกว่าปกติประมาณ 25 % โดยตั้งแต่เดือนกันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน จากฝนตกในพื้นที่ต่อเนื่องแทบทุกวัน ทำให้ชาวสวนไม่สามารถออกไปกรีดยางได้มาประมาณ 2 เดือนเต็มแถมน้ำยางยังเสี่ยงต่อการถูกน้ำฝนผสมลงไปอีกด้วยทำให้ไม่ได้คุณภาพ

สำหรับความเสี่ยงอื่นๆต่อภาคเกษตร คือ หากฝนตกนาน หรือน้ำขัง จะทำให้เกิดโรคพืชได้ง่าย เช่น รากเน่า พืชเศรษฐกิจล้มตาย ผลผลิตเสี่ยงหาย โดยเฉพาะหากน้ำท่วมจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายจำนวนมาก ส่งผลทำให้ราคาสินค้าเกษตรพุ่งสูงขึ้นตามมา นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดความเสียหายให้กับบ้านเรือนของประชาชน


เตือนรับมือ "ลานีญา" ให้ดี

International Research Institute for Climate and Society (IRI) คาดการณ์ว่า มีความน่าจะเป็น 2% ที่จะเกิดปรากฏการณ์ลานีญาในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน และความน่าจะเป็นที่จะเกิดปรากฏการณ์ลานีญา จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 58% ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน

"แน่นอนว่า "ลานีญา" เป็นปรากฏการณ์ที่ตรงข้ามกับ "เอลนีโญ" กล่าวคือ จะมีปริมาณฝนที่มากกว่าปีปกติ ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัย ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายได้หลากหลายประเภทมากกว่าภัยแล้ง ขณะที่ผลผลิตทางการเกษตร จะได้รับผลกระทบตามปริมาณน้ำและความรุนแรงในการไหลผ่านพื้นที่ รวมถึงส่งผลต่อระดับราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้นจากปัญหาภาวะอุปทานขาดแคลน อาทิ ข้าวนาปี ที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงเดือนพฤศจิกายนบางส่วนจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง ทำให้ผลผลิตเสียหาย และออกสู่ตลาดล่าช้าไปอย่างน้อย 1 เดือน"

โดยแนวทางการรับมือต่ออุปสรรคของภาคเกษตรในปี 67 ของแต่ละภาคส่วนมีดังนี้


1. เกษตรกร

ควรประยุกต์ใช้ความรู้ด้านการเพาะปลูกสมัยใหม่ที่พึ่งพาการใช้ทรัพยากรน้ำน้อยกว่าเดิม เช่น การทำนาเปียกสลับแห้ง และปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตเพื่อลดต้นทุน เช่น การวิเคราะห์ดิน เพื่อวางแผนการใช้ปุ๋ยได้ตรงกับลักษณะดิน รวมทั้งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการเพาะปลูก

ควรเสริมสร้างขีดความสามารถให้มีความรู้และทักษะใหม่ๆ ในการปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มของตลาดที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงทำความเข้าใจพลวัตของตลาดโลก เทคนิคการเกษตรใหม่ๆ มาตรฐานด้านคุณภาพสินค้าเกษตร และกฎระเบียบและมาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ


2. ธุรกิจเกษตรแปรรูป

ควรให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการวัตถุดิบ เพื่อรับมือกับความผันผวนของต้นทุนสินค้าเกษตร เช่น การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับเกษตรกร จะช่วยลดแรงกดดันด้านต้นทุนในช่วงที่ราคาวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้นได้

ควรร่วมมือกับเกษตรกรในการประยุกต์ใช้ Climate Tech เพื่อช่วยบริหารจัดการฟาร์ม ติดตามข้อมูลสภาพอากาศและภัยธรรมชาติ และสร้างเครือข่ายการตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์

"ควรศึกษาและติดตามกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากกฎระเบียบการค้า โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมมีการยกระดับอยู่เสมอ และมีแนวโน้มเข้มงวดขึ้น รวมถึงมีโอกาสขยายขอบเขตไปยังสินค้ากลุ่มอื่นๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะตลาดสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคทางการค้าสำหรับผู้ส่งออกไทยที่ไม่สามารถปรับตัวได้"


3. ภาครัฐ

วางแผนการจัดสรรน้ำเพื่อการเพาะปลูกพืชให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่ และควรให้ความสำคัญกับการลงทุนบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะการลงทุนเพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน

พัฒนาเทคโนโลยีการพยากรณ์อากาศ และระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้เกษตรกรสามารถวางแผนการเพาะปลูก และเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้

"นอกจากนี้ยังต้องส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ในการเผยแพร่ และพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับบริบทการเกษตรของประเทศไทยสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืช และปศุสัตว์ที่ทนแล้ง รวมทั้งสภาพภูมิอากาศที่มีแนวโน้มแปรปรวนมากขึ้น"

ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้ อีกทั้งยังช่วยลดการใช้น้ำในการเพาะปลูก ส่งผลให้การใช้น้ำในภาคเกษตรมีประสิทธิภาพมากขึ้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เช่น การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและระบบขนส่งสินค้าเกษตร เพื่อรองรับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในพื้นที่เกษตรกรรมห่างไกลและในชนบทจังหวัดควรมีแนวทางด้าน BCG เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่แตกต่างกัน


หวั่น ลานีญา' สะเทือนไทย ดันเงินเฟ้อสูง

ขณะที่ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 คาดการณ์ว่าไทยจะเผชิญกับ "ปรากฏการณ์ลานีญา" ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดภาวะฝนตกหนักรุนแรง และเกิดความเสียหายต่อผลผลิต ทางการเกษตร ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร รวมถึงการขาดแคลนวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง

โดย "พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผอ.สนค. กล่าวว่า ปรากฏการณ์ลานีญาที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่จะกระทบต่อสินค้าเกษตรแต่อาจกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อของไทย โดยสินค้าในตระกร้าเงินเฟ้อของไทยที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากลานีญา เป็นสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เป็นสำคัญ

โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น ผักสด และผลไม้สด เนื่องจากเป็นสินค้าที่อ่อนไหวต่อสถานการณ์น้ำค่อนข้างมาก ซึ่งปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไปจะกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูก เป็นอุปสรรคต่อการเก็บเกี่ยว และเกิดความเสียหายต่อผลผลิต นำไปสู่การสูงขึ้นของระดับราคาสินค้าจากปัญหาภาวะอุปทานขาดแคลน เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง สำหรับผักและผลไม้สดมีสัดส่วนในตะกร้าเงินเฟ้อของไทยประมาณ 5.83 %

"ปรากฏการณ์ลานีญา และผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนและความเสี่ยงที่จะเกิดปรากฏการณ์ลานีญาเป็นวัฏจักรตามธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และอาจส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อในหมวดสินค้าที่เกี่ยวข้อง" นายพูนพงษ์ กล่าว


https://www.springnews.co.th/keep-th...-change/851909

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:48


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger