#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 12 มกราคม 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส กับมีอากาศหนาวและมีลมแรง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นถึงหนาว และมีลมแรง ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่องไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง จนถึงวันที่ 13 ม.ค. 64 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 12 - 13 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวและมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 4 - 6 องศาเซลเซียส ในภาคเหนือตอนบน สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 16 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง หลังจากนั้นบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 12 - 13 ม.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันออกขอให้ประชาชนบริเวณที่อาศัยอยู่ตามบริเวณชายฝั่งระมัดระวังอัตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือบริเวณอ่าวไทยขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
อินโดฯเผยนาที นักประดาน้ำค้นหา กล่องดำเครื่องบิน ศรีวิจายา แอร์ ตกทะเล กองทัพเรืออินโดฯเผยคลิปนาที ทีมนักประดาน้ำค้นหากล่องดำของเครื่องบินโดยสาร ศรีวิจายา แอร์ หลังประสบเหตุตกในทะเลชวา ดับยกลำ 62 ชีวิต 11 มกราคม 63 ทางการอินโดนีเซียส่งนักประดาน้ำลงไปค้นหากล่องดำ ของเครื่องบินโดยสาร โบอิ้ง 737-500 สายการบิน ศรีวิจายา แอร์ หลังประสบเหตุตกในทะเลชวา เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 9 มกราคม เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 62 ชีวิตเสียชีวิตหมดทั้งลำ และสามารถตรวจพบสัญญาณจากกล่องดำตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กองทัพเรืออินโดนีเซียได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอบันทึกภาพขณะนักประดาน้ำกำลังค้นหากล่องดำของเครื่องบิน ท่ามกลางเศษซากเครื่องบินที่แตกกระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่ใต้ท้องทะเล หลังจากก่อนหน้าที่ทีมกู้ภัยและค้นหาของอินโดนีเซียได้พบชิ้นส่วนร่างกายของมนุษย์และชิ้นส่วนเครื่องบินโบอิ้งลำนี้บ้างแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียคนหนึ่งกล่าวว่าปฏิบัติการค้นหากล่องดำของเครื่องบินโดยสารศรีวิจายา แอร์ ในครั้งนี้เป็นการค้นหาที่เร่งด่วน และทีมนักประดาน้ำได้กลับมาลงค้นหาใต้ท้องทะเลอีกครั้งเมื่อเช้าวันจันทร์ โดยเรียกปฏิบัติการนี้ว่า ?24 ชั่วโมง? เพราะจะไม่มีการหยุดพักการค้นหากล่องดำ เพื่อที่ว่าเราจะสามารถพบร่างผู้เสียชีวิตมากขึ้นได้เร็วขึ้น? สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานด้วยว่า ทางการอินโดนีเซียได้ระดมส่งกำลังเจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ร่างผู้เสียชีวิต รวมทั้งชิ้นส่วนเครื่องบินถึงประมาณ 2,600 คน รวมทั้งยังได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ เรือหลายสิบลำมาร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้ ในขณะที่มีการพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์บ้างแล้ว รวมทั้งเสื้อผ้าสัมภาระอยู่ใต้ท้องทะเล ที่ระดับความลึกจากผิวน้ำประมาณ 23 เมตร ทั้งนี้ เครื่องบินโดยสาร ศรีวิจายา แอร์ เที่ยวบิน จาการ์ตา-ปนติอานัก ได้ประสบเหตุตกในทะเลชวา เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังเพิ่งทะยานออกจากท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา ในกรุงจาการ์ตา ได้เพียงแค่ 4 นาที ก่อนจะหายไปจากจอเรดาร์ และพบว่าตกทะเลจนสร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง https://www.thairath.co.th/news/foreign/2010303
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
วิจัยเผย ลูกฉลามยักษ์ดึกดำบรรพ์ 'เม็กกาโลดอน' มีขนาดแรกเกิดไม่ต่ำกว่า 2 เมตร วิจัยเผย ลูกฉลามยักษ์ 'เม็กกาโลดอน' มีขนาดแรกเกิดใหญ่กว่ามนุษย์โตเต็มวัย โดยมีความยาวประมาณ 2 เมตร ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่บนโลกเมื่อ 3 ล้านปีก่อน เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ.2564 สำนักข่าว เดอะ การ์เดียน รายงานว่า นักวิจัยเผยว่า ลูกฉลามยักษ์ 'เม็กกาโลดอน' มีขนาดแรกเกิดใหญ่กว่ามนุษย์โตเต็มวัย โดยมีความยาวประมาณ 2 เมตร ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่บนโลกเมื่อ 3 ล้านปีก่อน นักวิจัย เปิดเผยว่า ฉลามยักษ์ เม็กกาโลดอน เคยมีชีวิตอยู่ในมหาสมุทรของโลกก่อนจะสูญพันธุ์ไป เมื่อกว่า 3 ล้านปีก่อน โดย ฉลามเม็กกาโลดอน สามารถให้กำเนิดลูกฉลามที่มีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ที่โตเต็มวัยเสียอีก Megalodon infographic / NSF.Gov นักวิจัยได้ค้นพบหลักฐานดังกล่าว จากการเอ็กซ์เรย์กระดูกของซากฉลามยักษ์ดึกดำบรรพ์ เม็กกาโลดอน และพบว่า เมื่อแรกเกิด ลูกฉลามเม็กกาโลดอนจะมีความยาวประมาณ 2 เมตร โดยเป็นการศึกษาวิจัยจากซากของเม็กกาโลดอน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีความเก่าแก่ตั้งแต่ 15 ล้านปี ถึง 3.6 ล้านปี "การศึกษาครั้งใหม่นี้ ถือเป็นครั้งแรกสำหรับการศึกษาฉลามยักษ์เม็กกาโลดอนที่สามารถระบุข้อมูลเชิงลึกที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับขนาดของมันตั้งแต่แรกเกิด วิธีการสืบพันธุ์ และรูปแบบการเจริญเติบโตของมัน" เคนชู ชิมาดะ ศาสตราจารย์ด้านพยาธิวิทยา เป็นผู้นำการวิจัยของมหาวิทยาลัยเดอโปลแห่งชิคาโก กล่าว เม็กกาโลดอน หรือที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการ ในชื่อ 'โอโตดัส เม็กกาโลดอน' ซึ่งเป็นสัตว์ขนาดยักษ์ซึ่งถือว่า เป็นสัตว์กินเนื้อ ที่ใหญ่ที่สุดชนิดหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตบนโลก นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบซากดึกดำบรรพ์มากมาย แต่ข้อมูลทางด้านชีววิทยาของ เม็กกาโลดอน นั้น ไม่สามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดายนัก เนื่องจากฟันของเม็กกาโลดอนมีลักษณะเป็นกระดูกอ่อน The Guardian ศ.ชิมาดะ ได้ทำงานร่วมกับคณะผู้ร่วมวิจัยที่มหาวิทยาลัยสต็อคตัน และมหาวิทยาลัย วิลเลียม แพทเทอสัน ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ โดยได้ใช้วิธี ซีที สแกน ในบริเวณ กระดูกสันหลังของ เม็กกาโลดอน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่พบได้ยาก ซึ่งซากดึกดำบรรพ์ดังกล่าว ถูกเก็บไว้ที่ สถาบันวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ รอยัล เบลเยียม แห่ง เมืองบรัสเซลส์ โดยซากดึกดำบรรพ์ที่ใช้ศึกษานั้น มีขนาดกว้าง 15 ซม. (6 นิ้ว) คาดว่าซากดังกล่าว มาจากเม็กกาโลดอน ที่มีขนาดยาว 9 เมตร จากการเปรียบเทียบกับกระดูกสันหลังที่คล้ายกันที่พบในฉลามขาวยักษ์ ซึ่งเป็นลูกหลานเผ่าพันธุ์ไกล ๆ ของเม็กกาโลดอน จากการทำ ซีที สแกน เผยให้เห็นแนวโน้มการเจริญเติบโตของเม็กกาโลดอน นักวิจัยคาดว่าเม็กกาโลดอนแรกเกิดมีขนาดยาวถึง 2 เมตร จากจมูกถึงหาง "จากขนาดของฟันเม็กกาโลดอนที่เล็กที่สุดที่พบเห็น ผมเชื่อว่าขนาดแรกเกิดของเม็กกาโลดอนอาจอยู่ที่ประมาณ 2 ถึง 2.5 เมตร และ โดยทั่วไปอายุขัยของเม็กกาโลดอนอยู่ที่ 88 ปี" ศ.ชิมาดะกล่าว ทั้งนี้รายละเอียดของการวิจัยนี้ ได้ถูกตีพิมพ์ลงใน วารสาร ประวัติศาสตร์ชีววิทยา ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (11 ม.ค. 64) https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_5713982
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
ผ่าพิสูจน์'ซากวาฬบรูด้า'เกยหาดสมุย ไม่พบสิ่งแปลกปลอม-คาดป่วยตาย วันที่ 11 มกราคม 2564 จากกรณีที่มีผู้พบซากวาฬบรูด้าลอยมาติดโขดหินบริเวณชายหาดเชิงมน ม.5 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และเมื่อช่วงเช้าได้นำขึ้นมาบริเวณชายหาดเพื่อให้ทีมสัตว์แพทย์ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เข้ามาผ่าชันสูตรซากวาฬตัวนี้เพื่อหาสาเหตุของการตาย โดยทางทีมกู้ภัยวัดปลายแหลม เกาะสมุย ได้นำรถแบ็คโฮขี้นมาลากวาฬบรูด้าขึ้นมาบนชายหาดและขุดหลุมเพื่อฝังกลบบนชายหาด พร้อมนำรถน้ำมาฉีดล้างเพื่อให้ทีมสัตว์แพทย์ทำการผ่าชันสูตร และเข้ามาทำการถ่ายรูปตามจุดต่าง ๆ เช่นครีบหลัง ด้านข้างขอบปาก เพื่อนำส่งไปศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตก ที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อไปเปรียบเทียบว่าเป็นวาฬตัวไหนในฐานข้อมูล ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านบนเกาะสมุย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากเข้าติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด น.ส.พิมพ์ชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง กล่าวว่า วาฬตัวนี้เป็นวาฬบรูด้า เพศผู้ ตัวเต็มวัย แต่เนื่องจากสภาพเน่ามาก ๆ ทำให้ไม่สามารถระบุความผิดปกติของอวัยวะภายในได้อย่างชัดเจน แต่ที่บอกได้ก็คือในทางเดินอาหารจนถึงลำไส้เล็ก ไม่มีอาหารอยู่ภายในเลย มีแต่ที่ลำไส้ใหญ่ตอนปลายเป็นที่อาหารย่อยแล้ว แสดงว่าวาฬตัวนี้ไม่สามารถหาอาหารได้เองในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้เกิดการอ่อนแรงอาจเป็นสาเหตุให้ป่วยตายได้ แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าสาเหตุทีวาฬปรูด้าตัวนี้ไม่หาอาหารกินเองได้คืออะไร จึงได้เก็บตัวอย่าง ดี.เอ็น.เอ เพื่อไปทำการศึกษาต่อ ส่วนซากวาฬก็จะกลบฝังตรงจุดที่ผ่าซาก หลังจากนี้ทางอำเภอเกาะสมุยจะนำกระดูกวาฬบรูด้าไปจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาต่อไป https://www.naewna.com/local/544701
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS
ประทับใจ! นาทีชาวประมงช่วย "เต่าตนุ" ติดซากอวน ชาวโซเชียลประทับใจ คลิปชาวประมง-กลุ่มอนุรักษ์หาดบางดี จ.นครศรีธรรมราช ช่วยชีวิตเต่าตนุติดซากอวนมัดแน่น รอดชีวิตก่อนถูกนำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จนกว่าจะแข็งแรงปล่อยคืนธรรมชาติ วันนี้ (11 ม.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของสมชาย ฉลาดแฉลม โพสต์คลิปเหตุการณ์นาทีชีวิตที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า กู้ชีวิต เต่าตนุ โดยได้รับแจ้งอนันต์ชัย ด่านวิทยากุล รองประธานสมาชิกชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลหาดบางดี ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พบเต่าตนุ ติดซากอวนมัดจนแน่น ทีมงาน ชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลหาดบางดี เสาเภา จึงได้ช่วยกันตัดเนื้ออวนที่มัดแน่น เพื่อช่วยเหลือชีวิตเต๋าตนุ ก่อนจะประสานสัตวแพทย์ ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เพื่อขอคำแนะนำในการช่วยเหลือเบื้องต้น ก่อนทางโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จะมารับตัวไปรักษาดูแลต่อจนกว่าสุขภาพจะแข็งแรงดี ก่อนปล่อยกลับลงสู่ทะเลต่อไป เต่าทะเล จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทที่ 1 ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2535 และเป็น 1 ใน 4 ชนิดของเต่าทะเล ที่พบได้ในน่านน้ำไทย ขอบคุณ ทีมงานชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลหาดบางดี เภา ทุกท่าน ที่สามารถช่วยเหลือ เต่าตนุ ตัวนี้ให้รอดชีวิตมาได้ (เต่าตนุ จัดอยู่ในกลุ่ม สัตว์ทะเลหายาก) ก่อนหน้านี้นายโสภณ ทองดี อธิบดีทช.กล่าวว่า สถิติสัตว์ทะเลหายากที่พบการเกยตื้น ช่วงปี 2562?2563 พบสัตว์ทะเลหายากจำพวกเต่าทะเล พะยูน โลมาและวาฬ เกยตื้นชนิดพบเป็นซากสะสมกว่า 970 ตัว สามารถช่วยรอดชีวิตกว่า 473 ตัว และสามารถปล่อยกลับลงสู่ทะเลกว่า 200 ตัว ที่ผ่านมา สาเหตุการตายหรือการเกยตื้นส่วนใหญ่ก็มีสาเหตุจากกิจกรรมมนุษย์ ทั้งจากเครื่องมือประมง กินขยะทะเล ปัญหามลพิษปนเปื้อนในน้ำทะเล การเสียชีวิตเนื่องจากโรคตามธรรมชาติ แต่หลายกรณียังไม่รู้สาเหตุการตายที่แน่ชัด เช่น พะยูนโดนตัดหัว ตัดเขี้ยว เป็นการตายแบบผิดธรรมชาติหรือไม่ นอกจากนี้ ทช. จึงร่วมกับทางจุฬาฯ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ใช้เทคนิคการพิสูจน์อัตลักษณ์จากศพคน มาสู่การพิสูจน์ในสัตว์ทะเลหายาก เพื่อหาคำตอบตายอีกด้วย https://news.thaipbs.or.th/content/300168
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|